สังคม

ยิ่งแก้ ยิ่งวุ่น! ดรามาเชียงใหม่พ่นดอกไม้สีดำ – ชื่นชมพัทยา ปรับรูปแบบงานพลุนานาชาติ

29 ต.ค. 2568

59 views

ยิ่งแก้ยิ่งวุ่นปรับโทนสีดอกไม้ประดับเมืองเชียงใหม่ งานประเพณียี่เป็ง ทาสีทับยันเครื่องหมายจราจร สุดท้ายต้องรื้อดอกไม้สีดำไปแก้ไขใหม่ แต่ชาวบ้านยังติง โคมยี่เป็งก็ติดกลับหัว พร้อมถามเป็นงานครีเอต ยังติดไม่เสร็จ หรือไม่รู้ประเพณี

กรณีดรามาเทศบาลนครเชียงใหม่ ปรับเปลี่ยนโทนการตกแต่งเมืองในการจัดงานประเพณียี่เป็ง หรืองานประเพณีลอยกระทงของชาวล้านนา โดยนำสีสเปรย์สีดำมาพ่นทับดอกไม้ประดับไฟ โดยเฉพาะบริเวณเกาะกลางถนนเชิงสะพานนวรัฐ ฝั่งตะวันตก ที่ก่อนหน้านี้ตกแต่งด้วยดอกไม้ และตัวการ์ตูนน่ารักหลากหลายสีอย่างสวยงาม และมีการเปิดไฟยามค่ำคืน ต่อมาได้นำตัวการ์ตูนออก แล้วพ่นสีดำ เพื่อถวายความอาลัยสมเด็จพระพันปีหลวง

ซึ่งชาวเชียงใหม่เห็นว่า การพ่นสีดำดูไม่เหมาะสม และเปลืองงบประมาณโดยใช่เหตุ ขณะที่ชาวเน็ตบางรายได้ให้ AI ทำภาพแล้วนำมาโพสต์แนะนำว่า หากจะปรับเปลี่ยนให้อยู่ในช่วงถวายความอาลัย และมีความสวยงามด้วย ไม่รู้สึกหดหู่ โดยทำเป็นดอกไม้สีขาว และประดับไฟสวยงาม ประชาชนสามารถมาถ่ายรูปได้อีกด้วย

ต่อนายอัศนีย์ บูรณุปกรณ์ นายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ ได้ชี้แจงว่า เรื่องการพ่นสีสเปรย์ทับดอกไม้เป็นสีดำ จนกลายเป็นที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ในโซเชียลนั้น เป็นเพียงขั้นตอนระหว่างการปรับโทนสี ซึ่งการตกแต่งยังทำไม่เสร็จ อยู่ระหว่างการนำดอกไม้สีขาว ซึ่งเป็นดอกไม้จริงมาแซมเพิ่มเติม พร้อมนำบทพูดที่เป็นการแสดงการถวายความอาลัย มาวางเสริมในจุดนี้

ส่วนจุดที่ปรับปรุงเสร็จแล้ว คือ ที่ประตูช้างเผือก มีการปรับลดโทนสีดอกไม้ลง ส่วนช้างที่ก่อนหน้านี้เป็นสีชมพู ก็ได้ปรับเป็นสีขาวเรียบร้อยแล้ว กระทงที่อยู่ตามคูเมืองที่เป็นกระทงสีชมพู ก็ได้ลดโทนสีลง ซุ้มประดับของถนนท่าแพ ได้ปรับโทนสีไฟที่ประดับซู้มทั้งหมด พร้อมปรับรูปแบบเพิ่มเติม เพื่อถวายความอาลัย

ส่วนกิจกรรมในงานประเพณีเดือนยี่เป็ง ในวันที่ 4-6 พฤศจิกายนนี้ ก็จะปรับลดงานรื่นเริงทั้งหมด เหลือเพียงวัฒนธรรมเท่านั้น ภายใต้แนวคิด "สายธารแห่งพระเมตตา ไหว้สาพระพันปีหลวง ทวยราษฎร์ทั้งปวงล้วนสดุดี ภักดีสถิตในใจนิรันดร์" เพื่อถวายพระเกียรติ และถวายความอาลัยแด่สมเด็จพระพันปีหลวง

แต่ประเด็นดรามายังไม่จบเพียงเท่านี้ โดยต่อมาเจ้าหน้าที่ได้นำสีขาวไปทาทับของฟุตบาธเกาะกลางถนน จุดที่มีดอกไม่สีดำ จากขาวแดงให้เป็นขาวล้วน จนโซเชียลนำไปวิจารณ์กันต่อว่า ยิ่งแก้ยิ่งไปกันใหญ่ ทำแบบนี้ผิดกฎหมายจราจรหรือไม่ กระทั่งช่วง 2 ทุ่ม ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่เทศบาลนำรถบรรทุกมาขนดอกไม้สีดำออกจากพื้นที่ โดยบอกว่า จะนำไปแก้ไขก่อนนำมาตกแต่งใหม่ช่วงใกล้วันงาน

ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวพบว่า นอกจากดอกไม้ดำที่เป็นดรามา ชาวเชียงใหม่ยังท้วงติงว่า โคมยี่เป็งแบบแขวนที่ถูกดีไซน์ออกมาเป็นสีเงินประดับไฟ ซึ่งติดตั้งอยู่ที่ประตูท่าแพ และประตูช้างเผือก ถูกติดแบบปิ้นจะลิ่น หรือแปลว่า ติดกลับด้าน หรือตีลังกา

ผู้สื่อข่าวไปสอบถามกับผู้รู้เกี่ยวกับศิลปวัฒนธรรมล้านนา ต่างก็ยืนยันเป็นเสียงเดียวกันว่า น่าจะติดกลับหัวตามแบบที่เคยมีมา แต่ก็ไม่ทราบว่าด้วยเหตุผลใดจึงติดแบบนั้น หรืออาจจะเป็นงานครีเอต หรืออาจจะตกแต่งไม่แล้วเสร็จสมบูรณ์ ก็ต้องรอเจ้าของงานชี้แจงต่อไป

ล่าสุด ผู้สื่อข่าวติดต่อไปขอสัมภาษณ์ นายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่อีกครั้ง ซึ่งนายกฯ มอบหมายให้รองนายกฯ ให้สัมภาษณ์ในช่วงบ่ายวันนี้

ขณะเดียวกัน จากดรามาที่เกิดขึ้น ทำให้ สส.และ สท. จากพรรคประชาชน ได้โพสต์ลงเพจ "พรรคประชาชน เชียงใหม่" และเพจส่วนตัวถึงข้อพิรุธในการใช้งบประมาณของเทศบาลนครเชียงใหม่ ที่เลือกใช้ทีมออแกไนซ์ หรือบริษัทเจ้าเดิมในหลายงานในลักษณะเฉพาะเจาะจง โดยไม่มีการเปิดประมูลงานให้แข่งขันกัน รวมทั้งเรียกร้องให้ตรวจสอบการใช้งบประมาณต่าง ๆ ทั้งงานยี่เป็ง หรืองานกิจกรรมอื่น ๆ ที่ใช้งบประมาณซึ่งมาจากภาษีของพี่น้องประชาชน พร้อมประกาศจะเกาะติดเรื่องนี้ทำให้ตอนนี้หลายคนใช้คำว่า "ถอนดอกไม้สีดำ สะเทือนทั้งเทศบาล"

ขณะที่เมืองพัทยา ได้รับเสียงชื่นชมอย่างมาก หลังมีการประกาศไม่ยกเลิกเทศกาลพลุนานาชาติ แต่เปลี่ยนชื่อและปรับรูปแบบงานให้เป็นงานแสดงความอาลัยแทน

โดยเพจ "สายตรงนายกเบียร์ พัทยา" ได้โพสต์ถึงการจัดงานเทศกาลพลุนานาชาติเมืองพัทยา ประจำปี 2568 ซึ่งได้มีการปรับเปลี่ยนการจัดงานให้เข้ากับสถานการณ์ หลังการเสด็จสวรรคตของ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ซึ่งหลายฝ่ายต่างมองว่าเป็นการปรับเปลี่ยนรูปแบบงานที่ดีและควรเอาเป็นแบบอย่าง

นายปรเมศวร์ งามพิเชษฐ์ นายกเมืองพัทยา ยืนยันว่า งานพลุพัทยาจะไม่ยกเลิก แต่จะมีการปรับรูปแบบและเพิ่มชื่องานเพื่อแสดงความอาลัย และน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ

โดยสรุปจะปรับชื่อเป็น "แสงแห่งความจงรักภักดี สถิตในใจนิรันดร์" The Ligth of Eternal Royalty ระหว่างวันที่ 28-29 พฤศจิกายน 2568 กิจกรรมจะมีการแสดงพลุนานาชาติจาก 5 ประเทศ โดยเริ่มการแสดงด้วยพลุชุด "แสงแห่งความจงรักภักดี สถิตในใจนิรันดร์" จัดให้มีการแสดงโขน เพื่ออนุรักษ์ตามพระราชเสาวนีย์ของสมเด็จพระพันปีหลวง / การแสดงของวงออเครสตร้า ซิมโฟนี่ บรรเลงเพลงพระราชนิพนธ์และเพลงประจำพระองค์

บนเวทีจะมีพิธีการและกิจกรรมที่จัดขึ้นเพื่อแสดงความอาลัยและน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณก่อนเริ่มโชว์ ผู้ชมร่วมยืนสงบนิ่งเป็นเวลา 1 นาที ส่วนการแต่งกาย เชิญชวนผู้ร่วมงานใส่ชุดไทยพระราชนิยมทั้ง 8 แบบ (พร้อมติดริบบิ้นดำ) และขอความร่วมมือสวมใส่เสื้อผ้าโทนสีสุภาพ ไม่ฉูดฉาด

นอกจากนี้ ยังปรับเปลี่ยน "งานลอยกระทง" โดยระบุว่า ประเพณีลอยกระทงเมืองพัทยา จะมีการประกวดหนูน้อยนพมาศ ประจำปี 2568 วันที่ 5 พฤศจิกายน ผู้ประกวดใส่ชุดไทยพระราชนิยม 8 แบบ เกณฑ์การตัดสินให้พูดถึง พระราชกรณียกิจ สมเด็จพระพันปีหลวง โอบอุ้มประชาราษฎร์ให้ยั่งยืน ซึ่งผู้ชนะเลิศนอกจากจะได้รับรางวัลแล้ว จะได้เป็นตัวแทนแต่งชุดไทย ต้อนรับนักท่องเที่ยวในงาน เทศกาลพลุนานาชาติเมืองพัทยา แสงแห่งความจงรักภักดี สถิตในใจนิรันดร์ ด้วย

ส่วนการลอยกระทง จะไม่ลอยลงทะเล แต่จะเป็นลอยกระทงออนไลน์แทน หรือสระน้ำที่ทางเจ้าหนาที่จัดในบริเวณงานเช่นเดียวกับที่จังหวัดอยุธยา มีการประกาศปรับโฉมงานลอยกระทงใหม่ แต่ยังคงอนุรักษ์วัฒนธรรมประเพณีลอยกระทงไว้ จากเดิมลอยกระทง 4 ภาค เป็นลอยกระทงสู่สวรรคาลัย

โดยจะเปิดเส้นทางลอยกระทงใหม่ ใช้ท่าน้ำริมฝั่งเกาะเมืองทิศตะวันตก ตรงข้ามวัดกษัตราธิราชวรวิหาร ริมแม่น้ำเจ้าพระยา เป็นจุดหลักไฮไลท์ ประชาชนและนักท่องเที่ยว สามารถปล่อยลอยกระทง ไหลตามกระแสน้ำ ผ่านพระตำหนักสิริยาลัย ที่สมเด็จพระพันปีหลวง จะแปรพระราชฐานมาประทับทรงงานติดตามและทอดพระเนตร การดำเนินงานโครงการศิลปาชีพอยู่เป็นประจำ และเป็นพระตำหนักทรงโปรดมองเห็นทัศนียภาพของโบราณสถานวัดไชยวัฒนารามที่อยู่ฝั่งตรงข้าม

ด้านกรมศิลปากรจะเปิดไฟส่องโบราณสถานวัดไชยวัฒนาราม ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามให้สว่างไสว แล้วทางเทศบาลจะประดับไฟตลอดแนวลำน้ำ นอกจากนี้เทศบาลนครพระนครศรีอยุธยา ยังจะจัดทำกระทงจำนวน 19,999 กระทง ร่วมลอยกระทงสู่สวรรคาลัยในค่ำคืนวันเพ็ญเดือน 12 ปีนี้ด้วย



รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/iyEh77GYzko

คุณอาจสนใจ

Related News