ประชาชนมารอตั้งแต่ตี 3 เข้ากราบสักการะพระบรมศพ "พระพันปีหลวง" ร่ำไห้ สูญเสียแม่ของแผ่นดิน

ประชาชนทยอยเข้ากราบสักการะพระบรมศพ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ต่างเล่าความประทับใจที่มีต่อพระองค์ท่านอย่างหาที่สุดมิได้



วันนี้นับเป็นวันที่ 2 ที่สำนักพระราชวัง เปิดให้ประชาชนได้เข้ากราบถวายสักการะพระบรมศพ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เบื้องหน้าพระฉายาลักษณ์ ณ ศาลาสหทัยสมาคม ในพระบรมมหาราชวัง



โดยนางสาวศุภาภัชชญา อายุ 66 ปี ชาวบางบัวทอง จ.นนทบุรี เป็นคนแรก ที่เข้ามารอกราบสักการะ ตั้งแต่ ตี 3 บอกว่า ตั้งใจจะมาให้ได้ทุกวัน แม้ว่า ก่อนหน้านี้ ก็ได้เคยรับเสด็จมาแล้ว แต่ต้องการมากราบพระองค์ท่าน ที่ถือเป็นแม่ของแผ่นดิน ซึ่งประชาชนอย่างเรา ก็คงทำได้เพียงเท่านี้



ที่ผ่านมาเห็นพระองค์ท่าน พร้อมด้วยในหลวงรัชกาลที่ 9 ช่วยเหลือประชาชนในทุกพื้นที่ทั้งประเทศ โดยเฉพาะเห็นภาพข่าวที่พระองค์ท่าน รูปร่างบอบบาง แต่ช่วยในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงงาน ในพื้นที่ธุรกันดาร เพื่อประชาชน ไม่ว่าจะเป็น การไปช่วยสอนการทอผ้า การทำการเกษตร มาโดยตลอด จากนี้ไปขอตั้งใจทำความดี เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแก่พระองค์ท่าน



นางสาวศุภาภัชชญา กล่าวอีกว่า ก่อนหน้านี้ทราบว่า สมเด็จพระพันปีหลวงทรงประชวรก็เป็นไปตามลักษณะของคนสูงอายุ แต่ก็ไม่คิดว่าจะรวดเร็วขนาดนี้ กระทั่งทราบข่าว ทำให้ใจแตกสลาย ตอนแรกไม่เชื่อ ก็รอข้อเท็จจริง จนกระทั่งวันที่ 26 ตุลาคม ได้มารอร่วมรับพระบรมศพ ขณะเคลื่อนผ่านไปพระบรมมหาราชวัง



ด้านนางทองปาน อายุ 87 ปี ชาวบ้านย่านบางนา เปิดเผยว่า ตนเองนั่งรถโดยสารสาธารณะมากับลูกสาว ออกจากบ้านตั้งแต่ 3 ตั้งใจจะมากราบถวายสักการะพระบรมศพ สมเด็จพระพันปีหลวง เพราะพระองค์ท่านเคยไปเยี่ยมที่บ้าน เนื่องจากหลานชายป่วยเป็นโปลิโอ พร้อมกับพระราชทานเงินให้ใช้จ่ายทุกเดือน รวมทั้งรับหลานชายไว้เป็นคนไข้ในพระบรมราชานุเคราะห์ จนกระทั่งหลานชายเสียชีวิต



ซึ่งในขณะนั้นไม่คิดว่า พระองค์ท่านจะเสด็จ และไม่รู้ว่าพระองค์ท่านทราบได้อย่างไรว่าหลานชายป่วย ทราบเพียงว่า พระองค์ท่านเสด็จไปในพื้นที่บางนา และตอนนั้น อยู่กัน 2 คน ยายกับหลานภายในบ้าน ก่อนที่จะมีข้าราชบริพารในพระองค์นำยามาให้ และนำตัวหลานไปรักษาตัวที่ รพ.จุฬาลงกรณ์ ต่อมาพระองค์ท่านก็ยังเสด็จไปเยี่ยมที่ รพ.จุฬาลงกรณ์อีกด้วย ทำให้ตนครอบครัวต่างปลาบปลื้มโดยทั่วกัน ถือว่าเป็นบุญกุศลในชีวิต



นางทองปาน กล่าวว่า วันนี้รู้สึกเสียใจมาก หลังจากทราบข่าวว่าจะไม่มีแม่ของแผ่นดินอีกแล้ว แต่หลังจากนี้ก็จะนำคำสอนไปปฏิบัติใช้ในการดำเนินชีวิต โดยเฉพาะเรื่องความรัก ความสามัคคีและช่วยเหลือกัน



ขณะที่เด็กหญิงชยิสรา อายุ 14 ปี นักเรียน กล่าวว่า วันนี้ตั้งใจจะมากราบพระองค์ท่าน พร้อมกับครอบครัว โดยระบุว่า ในอดีต เมื่อตนเองอายุ 5 ขวบ ทางครอบครัวได้พามากราบในหลวงรัชกาลที่ 9 ยังจำได้บางส่วน เพราะก่อนหน้านี้ ทราบว่าพระองค์ท่าน กับในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงช่วยเหลือประชาชนในหลายพื้นที่ และพร้อมจะนำคำสอนไปใช้ในชีวิต เป็นเด็กดีของพ่อแม่ และประเทศชาติต่อไป



ส่วนบรรยากาศการถวายความอาลัย ที่ศาลาสหทัยสมาคม ในพระบรมมหาราชวัง มีประชาชนทั้งเด็ก ผู้ใหญ่ และผู้สูงอายุ จากทั้ง กทม.และต่างจังหวัด พร้อมใจกันสวมใส่เสื้อสีดำ เดินทางไปถวายสักการะ พระบรมศพสมเด็จพระพันปีหลวง เบื้องหน้าพระฉายาลักษณ์ เพื่อเป็นการแสดงออกถึงความจงรักภักดีและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ



นอกจากนี้ สำนักพระราชวังยังได้เตรียมสถานที่ ลงนามถวายความอาลัย ภายในเต็นท์สนามหญ้าด้านข้างศาลาสหทัยสมาคม โดยจะเปิดให้ลงนามทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.30 น. ถึง 16.00 น. โดยมีเจ้าหน้าที่จากสำนักพระราชวัง และจิตอาสา 904 คอยอำนวยความสะดวกให้กับประชาชน

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/jp4D_DuWcUg