เทศบาลแจงปรับพ่อค้าไก่ปิ้ง 1.5 แสน ชี้ตักเตือนแล้วแต่เพิกเฉย-คนร้องชี้บ้านมีไว้อยู่อาศัย ไม่ใช่เพื่อประกอบกิจการ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้มีผู้ประกอบการรายย่อย ได้รับหนังสือจากเทศบาลนครปากเกร็ด ให้ไปเสียค่าปรับตาม พ.ร.บ.สาธารณสุข พ.ศ.2535 โดยพบว่าผู้ประกอบการบางรายถูกเรียกค่าปรับตั้งแต่ 90,000 บาท ไปจนถึง 159,000 บาท ซึ่งเป็นมูลค่าที่สูงมากเมื่อเทียบกับรายได้ของผู้ประกอบการแต่ละราย



ต่อมาผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปพบพ่อค้าไก่ปิ้งเสียบไม้ นายธวัชชัย หรืออาร์ม เทพสุทิน กล่าวว่า ตนเองเป็นคนที่ได้รับหนังสือเรียกค่าปรับมหาโหด เป็นเงิน 159,000 บาท โดยเมื่อหลายเดือนก่อน มีเจ้าหน้าที่เทศบาลลงพื้นที่มาตรวจสอบบ้านพักตน ซึ่งเป็นบ้านพักชั้นเดียว พร้อมกับสอบถามว่า ประกอบอาชีพอะไร ทำมานานหรือยัง



ซึ่งตนได้ตอบไปว่า ทำอาชีพขายหมูปิ้งกับไก่ปิ้ง ใช้พื้นที่บริเวณหน้าบ้านเป็นที่ล้างภาชนะ ส่วนหมูกับไก่ตนจะรับแบบสำเร็จรูปเสียบไม้มาแช่ตู้ไว้เตรียมขายเท่านั้น ทำมาประมาณ 4 ปีแล้ว ทางเจ้าหน้าที่ประเมินว่าตนประกอบกิจการไม่ถูกสุขลักษณะ เช่น การวางถุงไก่สดไว้ที่พื้น หรือกรณีมีลูกจ้างมานั่งเสียบไก่หน้าบ้าน และสั่งให้ตนทำตามระเบียบ



หลังจากได้รับคำเตือนแล้วตนก็พยายามปรับปรุงแก้ไข ซึ่งทางเทศบาลให้ตนทำบ่อดักไขมันเพิ่ม หลังแก้ไขแล้วได้มีเจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบครั้งที่ 2 ก็ไม่ผ่าน ทั้งเรื่องกล่องพัสดุที่ใส่ไก่ไม่ได้คุณภาพ โดยให้คำแนะนำว่าต้องมีตู้แช่อาหารแบบเป็นชั้น และติดตั้งถังดับเพลิงเพิ่ม รวมทั้งรายละเอียดปลีกย่อนอื่นๆ อีก แต่ตนไม่มีทุนมากพอ จึงตัดสินใจเลิกขายไก่ปิ้ง หมูปิ้ง แล้วเปลี่ยนอาชีพมาวิ่งไรเดอร์ส่งอาหารแทน



ต่อมาทางเทศบาลได้เข้ามาตรวจสอบ 2 ครั้ง แต่ตนเองไม่เคยเจอ ตอนนั้นก็ไม่ได้เอะใจอะไรว่าจะโดนค่าปรับ จนกระทั่งวันที่ 2 ตุลาคมที่ผ่านมา ทางเทศบาลได้ส่งหนังสือมาถึงบ้านว่า ให้ตนไปจ่ายค่าปรับ 159,000 บาท ภายใน 30 วัน



แต่ก่อนหน้านั้นได้มีหนังสือเรียกให้ตนไปรับทราบข้อกล่าวหา ตนเคยเข้าไปสอบถามทางเทศบาลว่าจะต้องทำอย่างไร เจ้าหน้าที่แจ้งว่าหากตนเซ็นรับทราบข้อกล่าวหาจะต้องเสียค่าปรับ ซึ่งอาจจะไม่มาก และตนคิดว่าค่าปรับดังกล่าวจะเป็นจำนวนเงินที่ตนสามารถจ่ายได้



แต่พอมาทราบว่าต้องจ่ายเป็นหลักแสน ก็รู้สึกว่ามันมากเกินไป ยอมรับว่า ช็อกมากกับค่าปรับของเทศบาลนครปากเกร็ด ทำไมต้องเรียกเก็บค่าปรับมหาศาลกับผู้ค้ารายย่อยขนาดนี้ เพราะขายไก่ปิ้งหมูปิ้งแต่ละวัน เหลือกำไรวันละไม่กี่ร้อยเท่านั้น



ส่วนสาเหตุที่ตนถูกร้องเรียนน่าจะมาจากปัญหาลูกจ้างไม่ถูกกับเพื่อนบ้าน ซึ่ง

ตนใช้หน้าบ้านเป็นที่เตรียมของไปขายกับล้างทำความสะอาด ไม่ได้ขายหน้าบ้าน แต่ถูกประเมินปรับสูงกว่ารายได้ ทั้งที่กิจการของตนแค่ค้าขายเล็กๆ น้อยๆ ต่อวัน ไม่ได้เปิดเป็นร้านไก่ย่างขนาดใหญ่เลย



ด้านนางสาวโชติภัทร ภรรยา บอกว่า ตอนนนี้เครียดมาก เพราะค่าปรับเกินกว่าที่คนธรรมดา หาเช้ากินค่ำจะจ่ายไหว ลำพังแค่ค่าใช้จ่ายรายวันก็จะไม่พอแล้ว ไม่รู้ว่าต้องทำยังไงต่อไป



ทีมข่าวได้ไปสอบถามป้าอี๊ด เพื่อนบ้านที่ร้องเรียน ยอมรับว่า ตนเองปัญหากับลูกจ้างของบ้านที่ขายหมูปิ้ง ไก่ปิ้ง จึงร้องเรียนไปที่เทศบาล จากนั้นมีเจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบและพบว่าบ้านคู่กรณีขายหมูปิ้ง ไก่ปิ้ง เปิดกิจการโดยไม่ขออนุญาต ซึ่งมีความผิดตามกฎหมาย โดยมีการนั่งเสียบหมูหน้าบ้าน และสูบบุหรี่ ถ้าบ้านที่ขายหมูปิ้ง ไก่ปิ้ง เลิกกิจการหรือย้ายไปที่อื่นก็จะไม่เกิดปัญหาอะไร เพราะบ้านมีไว้เพื่ออยู่อาศัยไม่ใช่เพื่อประกอบกิจการ และไม่ควรก่อความเดือดร้อนให้กับคนอื่น รวมถึงลูกจ้างบ้านคู่กรณีเคยด่าตนหยาบคาย และทำร้ายร่างกายตนด้วย

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/VQLhTVa6_Wg