สังคม
ชาวบ้านศูนย์อพยพ คิดถึงบ้าน ‘ภูมิธรรม’ มอบกองทัพภาค 2 หารือผู้ว่าฯ ชายแดน ประเมินความปลอดภัย
โดย thichaphat_d
8 ส.ค. 2568
34 views
ชาวบ้านพื้นที่เสี่ยงยังกังวล และไม่เชื่อใจฝั่งกัมพูชา หลังประชุม GBC ได้ข้อสรุป 13 ข้อ เพื่อรักษาสันติภาพของทั้งสองประเทศ
ผู้สื่อข่าวไปพูดคุยกับชาวบ้านที่ศูนย์อพยพในจังหวัดสุรินทร์ พบว่า ชาวบ้านที่อยู่ตามพื้นที่เสี่ยงติดแนวปะทะ ในอำเภอพนมดงรัก และอำเภอกาบเชิง ยังรอลุ้นว่าเจ้าหน้าที่จะอนุญาตให้กลับเข้าพื้นที่เมื่อไหร่ แต่ก็ยังกังวลในเรื่องของการสู้รบกันอยู่ เพราะถึงแม้จะมี ข้อสรุปประกาศออกมาแล้ว แต่ชาวบ้านก็ยังคงไม่เชื่อใจฝั่งกัมพูชา ที่จะทำตามสัญญาข้อตกลงที่มีร่วมกันได้
ชาวบ้านหลายคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ไม่เชื่อใจฝั่งกัมพูชาว่า จะทำตามคำมั่นสัญญาที่ตกลงกันไว้ เพราะที่ผ่านมากัมพูชาไม่เคยทำตามคำพูด และคอยที่จะตลบหลังเรามาตลอด และกังวลว่า ฝั่งกัมพูชาจะล่อให้เรากลับเข้าพื้นที่ แล้วก็ยิงกระสุนเข้าใส่เข้ามาอีก เพราะตอนนี้เป้าหมายไม่ใช่แค่เพียงฐานทหาร แต่ยังเล็งชาวบ้านและโรงพยาบาลด้วย นอกจากนี้ยังอยากให้เจ้าหน้าที่ ทำบังเกอร์หลบภัยในพื้นที่เสี่ยงเพิ่มขึ้น ไว้รองรับยามเกิดเหตุฉุกเฉิน
ส่วนที่ศรีสะเกษ ชาวบ้านในศูนย์พักพิงทยอยเก็บสัมภาระ เตรียมตัวเดินทางกลับภูมิลำเนา บางส่วนตัดสินใจเดินทางกลับทันที แม้ยังไม่มีประกาศอย่างเป็นทางการจากทางจังหวัด
นางสุเทียน อายุ 57 ปี บอกว่า ดีใจมากหลังทราบข่าวข้อตกลงหยุดยิง โดยตั้งใจจะเดินทางกลับบ้านทันที หลังจากรับสิ่งของช่วยเหลือจากอำเภอ โดยไม่รอคำสั่งจากจังหวัด ก็ไม่รู้ว่า จะยิงกันอีกหรือเปล่า แต่ห่างบ้านมาหลายวัน คิดถึงบ้านมาก อยากกลับบ้านแล้ว
นางสะอาด อายุ 55 ปี บอกว่า ดีใจที่มีการตกลงหยุดยิง แต่ยอมรับว่ายังไม่สามารถเชื่อใจกัมพูชาได้ทั้งหมด เพราะกัมพูชายิงปืนใหญ่เข้ามาในฝั่งไทย ซึ่งเป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้ พร้อมเรียกร้องให้กัมพูชาปฏิบัติตามข้อตกลงอย่างจริงจัง ตนอยากให้บ้านเมืองสงบ ไม่อยากเห็นลูกหลานต้องหนีตายเหมือนที่ผ่านมา
ด้าน นางสุธี อายุ 60 ปี กล่าวขอบคุณเจ้าหน้าที่ ที่ดูแลชาวบ้านอพยพอย่างดี ตลอดระยะเวลาที่อยู่ในศูนย์พักพิง และขอขอบคุณทหาร ที่เสียสละเพื่อปกป้องอธิปไตยของชาติ ยอมเสียสละแม้กระทั่งแขนขา เพื่อดูแลพวกเรา คนไทยทุกคนต้องซาบซึ้งในความเสียสละนี้
ขณะที่ศูนย์ช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบเหตุปะทะชายแดน ที่ตั้งอยู่หน้า อบต.กระแชง อำเภอกันทรลักษ์ วันนี้โรงครัวยังคงทำอาหารอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าการเจรจาจะจบลงด้วยดี เพื่อส่งอาหารให้กับทหารในแนวหน้า ที่ยังตรึงกำลังเข้มอยู่บริเวณชายแดน โดยเฉพาะที่ภูมะเขือ โดยเจ้าหน้าที่ที่โรงครัวแห่งนี้บอกว่า ตราบใดที่ทหารยังปฏิบัติหน้าที่อยู่ที่ฐาน ศูนย์ช่วยเหลือแห่งนี้ก็จะยังไม่ปิดตัว จะอยู่ทำอาหารส่งให้กับเจ้าหน้าที่ทุกนายได้อิ่มท้องต่อไป
ส่วนนายภูมิธรรม เวชชชัย ในฐานะรักษาการนายกฯ ย้ำว่า ยังไม่มีการประกาศให้ประชาชนเดินทางกลับบ้าน โดยให้กองทัพภาคที่ 2 ไปหารือกับผู้ว่าราชการจังหวัด ที่มีเขตติดต่อชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งให้ยึดความปลอดภัยประชาชนเป็นหลัก
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี บอกว่าในวันพรุ่งนี้ ตนเดินทางลงพื้นที่ ไปพร้อมนายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ โดยจะลงพื้นที่ไปดูสถานที่ต่างๆ ที่ได้รับความเสียหาย เช่น ปั๊มน้ำมันที่ได้รับความเสียหาย เนื่องจากมีการระบุว่ายังไม่ได้รับการดูแล และหากสามารถเข้าพื้นที่ได้จะเข้าไปยังโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพประจำตำบลที่ได้รับความเสียหาย
โดยแนวทางการลงพื้นที่ จะประสานไปยังพื้นที่ก่อนว่ามีความพร้อมหรือไม่ เพื่อไม่ให้เป็นภาระกับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานนอกจากนี้จะลงพื้นที่ไปตรวจสอบ ตามที่มีกระแสข่าวว่า ไม่ได้รับงบประมาณ ในการเยียวยาดูแลประชาชน
นายภูมิธรรม ย้ำว่า ยังไม่มีประกาศให้ประชาชนเดินทางกลับบ้าน เนื่องจากขณะนี้ได้ให้กองทัพภาคที่ 2 ไปหารือกับผู้ว่าราชการจังหวัด ที่มีเขตติดต่อชายแดนไทย-กัมพูชา ว่ามีความพร้อมหรือยัง หากปลอดภัยก็ให้กลับบ้านได้ โดยจะพิจารณาเป็นพื้นที่ไป
ขณะที่ พลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยกลาโหม บอกว่า "สิ่งที่ทหารเป็นห่วง อาวุธที่กัมพูชายิงเข้ามา ลูกรวดบางส่วนยังตกค้างอยู่ในพื้นที่ ทำให้ฝ่ายทหารขอประเมิน ก็บอกว่า ไม่ใช่เราไม่มั่นใจในสถานการณ์ แต่เราไม่มั่นใจในความปลอดภัยของประชาชน"
รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/VpPuAc3EUoM
แท็กที่เกี่ยวข้อง ศูนย์อพยพ ,ชายแดน ,ภูมิธรรมเวชยชัย ,ณัฐพลนาคพาณิชย์