นักศึกษาเกือบร้อยร้องทุกข์ "หอ หึหึ" ตร.ลงพื้นที่ติดหมายเรียก แต่มือดีดึงออกหน้าตาเฉย

ยอดผู้เสียหายหอพัก พุ่งทะลุ 71 ราย ด้าน สคบ.ลงพื้นที่ติดหมายเรียก หลังส่งเป็นจดหมายแล้วไม่ตอบรับ แต่มีมือดีดึงหมายออกหน้าตาเฉยและไม่คุยกับเจ้าหน้าที่



บรรยากาศหอพักชื่อดังย่านรังสิตตลอดทั้งวันของเมื่อวานนี้ หลังจากมหาวิทยาลัยรังสิตตั้งศูนย์รับแจ้งความเป็นครั้งที่ 2 มีนักศึกษาและผู้ปกครองเดินทางไปแจ้งความจำนวนมาก บางส่วนแจ้งความแล้วก็แห่ไปขนของย้ายออกจากหอพักดังกล่าวทันที เพราะเห็นว่ามีเจ้าหน้าที่หลายภาคส่วนลงพื้นที่มาช่วยเหลือ กลัวว่าถ้ามาวันหลังอาจจะเจอเจ้าของหอพักแล้วจะมีปัญหา



เมื่อวานบางรายโชคดีเข้าไปช่วงที่เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่พอดี ทำให้ไม่เจอกับเจ้าของหอพัก นักศึกษาบางส่วนก็สามารถขนของสำคัญออกมาได้หลายอย่างเหลือเพียงของชิ้นใหญ่ที่ยังไม่ได้ขนออกมา แต่เมื่อวานมีบางรายโชคไม่ดี เข้าไปเจอกับทางเจ้าของหอพัก ซึ่งเป็นสามีป้าที่เป็นอดีตนายตำรวจ และถูกไล่แห่ออกมาและห้ามไม่ให้ขนของด้วย



ขณะที่ทีมข่าวได้พูดคุยกับผู้ปกครองนักศึกษารายหนึ่งบอกว่า เธอเช่าหอพักแห่งนี้ให้ลูกชายมา 3 ปี ตั้งแต่ลูกเรียนอยู่ชั้นปีที่ 1 แต่ลูกไม่ค่อยได้อยู่ต้องหนีไปอยู่หอเพื่อน เพราะมีปัญหาเวลาพื่อนจะมาหาลูกชาย ทางหอพักจะต้องให้ซื้อคีย์การ์ดเพิ่มอีก 1 ใบ ราคา 1,000 บาท และค่าอินเตอร์เน็ตอีกปีละ 10,000 บาท เธอก็ทนจ่ายมานาน 3 ปี พอมีข่าวว่ามีผู้เสียหายแบบเดียวกันหลายรายและมีการตั้งศูนย์รับแจ้งความเธอจึงพาลูกชายมาแจ้งความ และเข้ามาขนของย้ายออก



ซึ่งก่อนหน้านี้เธอ ได้โทรไลน์มาแจ้งกับทางหอพักแล้วว่าไม่เกินวันที่ 5 พฤษภาคมจะมาย้ายของออก แต่ทางหอพักบอกว่าย้ายออกไม่ได้ เดี๋ยวยังไงติดต่อกันอีกที พอกลับมาดูไลน์อีกที เจ้าของหอพักบล็อกไลน์ของเธอไปแล้ว เมื่อวานนี้เธอจึงตัดสินใจแจ้งความร้องทุกข์ไว้ที่ศูนย์วอร์รูม มหาวิทยาลัยรังสิต



นายเลิศศักดิ์ รักธรรม ผู้อำนวยการกองคุ้มครองผู้บริโภคด้านสัญญา (สคบ.) พร้อมด้วยพันตำรวจเอกพัฒนชัย ภมรพิบูลย์ ผู้กำกับการสภ.ปากคลองรังสิต นำหมาย เรียก เจ้าของหอพักมาติดประกาศไว้ที่หอพักตรงกระจกด้านล่างอาคาร หลังจากที่ก่อนหน้านี้ สคบ.ส่งหมายเรียกมาทางไปรษณีย์ แล้ว แต่ไม่มีใครตอบรับเอกสาร เอกสารจึงถูกตีกลับ เจ้าหน้าที่จึงต้องลงมาติดหมายด้วยตัวเอง



โดยทาง ผอ.เลิศศักดิ์ บอกว่า ที่ตนเข้าไปติดหมายเรียกภายในหอพัก ไม่มีบุคคลใดแสดงตัวหรือออกมาพบเจ้าหน้าที่จึงต้องติดหมายเรียกดังกล่าวไว้ ซึ่งหมายเรียกนี้เพื่อให้เจ้าของหอพักเข้าไปชี้แจงข้อเท็จจริงกับทางเจ้าหน้าที่ ในวันที่ 8 พฤษภาคมที่สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค



หากวันดังกล่าวทางเจ้าของหอพักไม่มาตามหมายเรียกก็จะถูกดำเนินคดีเพิ่มฐานขัดหมายเรียก โทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือนปรับไม่เกิน 20,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ



อย่างไรก็ตาม ในส่วนของผู้เช่าไม่ต้องกังวลเรื่องเงินประกันว่าจะได้คืนหรือไม่ เพราะตามประกาศว่าด้วยเรื่องสัญญา หากมีเหตุที่รบกวน ขัดขวาง การครอบครองการอยู่อาศัยของทางผู้เช่า ผู้เช่าสามารถบอกเลิกสัญญาและเรียกเงินประกันคืนได้เต็มจำนวน แม้ว่าจะอยู่ไม่ครบตามกำหนดสัญญาหรืออยู่ได้ไม่กี่เดือนก็สามารถเรียกเงินประกันคืนได้



ภายหลัง ผอ.เลิศศักดิ์ และผู้กำกับ สภ.ปากคลองรังสิตเข้าไปติดประกาศหมายดังกล่าว พอเจ้าหน้าที่กลับไปหมดแล้ว ปรากฏว่าเจ้าของหอพักผู้ชายเดินออกมาดึงหมายออก



ขณะที่ศูนย์รับแจ้งความ ม.รังสิต ระดมพนักงานสอบสวน สภ.ปากคลองรังสิตและเจ้าหน้าที่ สคบ.มาอำนวยความสะดวกให้กับผู้เสียหาย เปิดวอร์รูม ตั้งแต่ 9.30 น.กำหนดเดิมปิดศูนย์ 16.00 น. แต่มีผู้เสียหายทยอยเดินทางมาแจ้งความจำนวนมากจึงต้องขยายเวลาออกไป สรุปปิดศูนย์ 21.00 น. (เกือบ 12 ชั่วโมง) ตำรวจรับแจ้งความ จำนวน 55 ราย แยกเป็นคดีอาญา จำนวน 5 ราย



หลังจากนั้นส่งเรื่องต่อสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) จำนวน 50 ราย อย่างไรก็ตาม มีผู้เสียหายรวมกับของเก่าที่แจ้งความไว้ก่อนหน้านี้เป็น 71 ราย



ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้เสียหายจะเข้าไปขอความช่วยเหลือจากสภาทนายความ ในเรื่องการช่วยเหลือคดีความในวันที่ 8 พฤษภาคม 2568 ตั้งแต่เวลา 09.00 น.เป็นต้นไป

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/h_pUAOyZV2U