สังคม
สาวร้อง ถูกสาวร้านคาราโอเกะยกพวกกระทืบ ปมหึงหวง ลั่นรู้จักทั้งสน. ล่าสุดมอบตัวแล้ว ยันไม่ได้พูด
โดย panwilai_c
19 ก.พ. 2568
100 views
สาวพนักงานร้านชาบูแห่งหนึ่ง ย่านสายไหม 73 ร้องนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด หลังถูกแก๊งสาวร้านคาราโอเกะทะลุถุงบุกมาหาเรื่อง เตะเสยหน้า สลบ พร้อมประกาศศักดาว่า "แจ้งความไปก็ทำไรกูไม่ได้ ที่นี่กูใหญ่ ตำรวจกูรู้จักทั้งโรงพัก"
โดยจากคลิปวงจรปิด จะเห็นว่า เมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ เวลา 22.56 น. แก๊งสาวคาราโอเกะ มากันจำนวน 5-6 คน มานั่งรอหน้าร้านชาบู เมื่อผู้เสียหายมาถึง ก็เข้าไปดึงหัวมารุมทำร้ายจนสลบ
นางสาวป๊อป อายุ 22 ปี ผู้เสียหาย เล่าให้ฟังว่า วันดังกล่าว มีกลุ่มชายฉกรรจ์ 10 คนและหญิงอีก 10 คน รวมเป็น 20 คน บุกมาที่ร้านชาบู เพื่อทำร้ายแฟนหนุ่มของเธอ ที่ทำงานร้านเดียวกัน แต่เมื่อมาถึงก็ไม่มีการทำร้ายอะไรกัน กลุ่มชายฉกรรจ์ ก็ต่างกลับไป แต่กลุ่มผู้หญิงที่มาด้วย มีบางคนไม่กลับ ประมาณ 5-6 คน กลับรออยุ่หน้าร้าน จนเธอเลิกงานเดินออกมา จังหวะที่เธอเดินออกมาก็ได้ยิน เสียงเจ้าของร้านคาราโอเกะ ได้สั่งให้ลูกน้องให้เข้ามาทำร้าย บอกเอาให้สลบ ซึ่งเจ้าของร้านได้ยืนดู และตะโกนพูดว่า "แจ้งความไปก็ทำไรกูไม่ได้ ที่นี้กูใหญ่ ตำรวจกูรู้จักทั้งโรงพัก" และยังสั่งให้ทำร้ายเต็มที่ ยังไงก็ช่วยเหลือทุกคนได้ เพราะไม่มีใครทำอะไรได้
นางสาวป๊อป ได้รับบาดเจ็บ เป็นรอยช้ำที่บริเวณคอ ศีรษะปูดโน และเดินทางไปแจ้งความที่ สน.สายไหม แต่ก็ยังไม่มีความคืบหน้า
นางสาวป๊อป บอกอีกว่า เธอไม่เคยรู้จักกับแก๊งสาวร้านคาราโอเกะมาก่อน แต่เชื่อว่าสาเหตุเกิดมาจากก่อนหน้านี้ พนักงานชายร้านชาบูคนหนึ่งมีแฟนเป็นสาวคาราโอเกะ แล้วสาวคาราโอเกะคนนั้นมาหึงน้องสาวเธอ เพราะเข้าใจผิดว่า น้องสาวเธอไปยุ่งกับแฟนหนุ่ม ซึ่งจริงๆแล้วน้องสาวไม่ได้ไปยุ่ง ข้องเกี่ยวกับแฟนของสาวคาราโอเกะ และเมื่อเดือนที่แล้ว น้องสาวเธอถูกสาวคาราโอเกะ มาตบที่หน้าร้าน ซึ่งเธอก็เข้าไปช่วย และถูกฝั่งสาวคาราโอเกะด่าว่า เธออย่าปากดี แต่เหตุการณ์ครั้งนั้นเคลียร์จบไปแล้ว
ทีมข่าวลงพื้นที่ไปกับนายเอกภพ ไปยังร้านคาราโอเกะ ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากร้านชาบู ห่างประมาณ 60 เมตร ปรากฏว่าร้านคาราโอเกะดังกล่าวยังไม่เปิดทำการและไม่มีใครอยู่ในร้าน
จากนั้นก็พบกับนายโอม อายุ 21 ปี อดีตพนักงานร้านชาบูและคู่กรณของ นายโปรย แฟนของ นางสาวป๊อป โดย โอม เล่าว่า ตนเองมาทำงานที่ร้านชาบู ก็เห้นว่านายโปรย มากล่าวหาว่าตนไปแอบมีใจให้กับ ป๊อป ทั้งที่ โอมยืนยันว่าไม่เคยคิดมีใจ หรือ ชอบ ป๊อปเลย
แต่วันที่ 15 กุมภาพันธ์ เวลาประมาณ 22.00 น. โปรย ได้เข้ามาหาเรื่อง โอม ที่บริเวณโซนล้างจานหลังร้าน โปรยเข้ามา ด่า ตนเรื่องการทิ้งขยะในร้าน แต่ยอมรับว่าตนมีอาการไม่พอใจ โปรย อยู่แล้ว เลยเดินตามเข้าไปหวังจะมีเรื่อง ซึ่งก็มีการชี้หน้าด่าใส่ จนพนักงานอาวุโสในร้านมาห้ามและจับแยกกันไป
จากนั้นโอม กลับไปตามพรรคพวก เป็นกลุ่มชายฉกรรจน์ประมาณ 5-6 คน มายังร้านชาบู เพื่อจะเคลียร์ใจกับโปรย แต่เมื่อมาถึง โปรยก็ยกมือไหว้ขอโทษ ซึ่งตนเองก็พอใจและบอกพรรคพวกกลับ
ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกันกับที่กลุ่มสาวร้านคาราโอเกะ ประมาณ 5-6 คน เดินมาที่หน้าร้านชาบู ซึ่งนายโอม ยืนยันว่า ตนเองไม่ได้รู้จักกับสาวร้านคาราโอเกะ เลยไม่ได้ถามว่ามาทำอะไรกัน และยืนยันว่า โอมไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับที่สาวคาราโอเกะไปทำร้ายป๊อป แฟนโปรย อีกด้วย
หลังที่ป๊อบถูกรุมทำร้ายจนสลบ และคนในร้านได้เข้ามาช่วยเหลือพาไปส่งโรงพยาบาล
นอกจากนี้ ยังมีผู้จัดการร้านคาเฟ่ ที่เปิดอยู่ด้านหลังร้านชาบู เล่าเหตุการณ์ ว่า เธอเห็นเหตุการณ์ทั้งหมด ตั้งแต่มีกลุ่มวัยรุ่นชายเข้ามาหาเรื่องกับแฟนของป๊อป ก่อนจะแยกย้ายกลับออกไป และเธอยังเห็นเจ้าของร้านคาราโอเกะ แต่ตอนนั้นยังคงเหลือกลุ่มสาวร้านคาราโอเกะพร้อมเจ้าของร้านมานั่งรอหน้าร้านชาบู โดยเจ้าของร้านคาราโอเกะมานั่งข้าง ๆ ตน ตนก็สอบถามไปว่ามานั่งรออะไรหรอคะ เจ้าของร้านคาราโอเกะก็ไม่ตอบและพยายามเบี่ยงประเด็นไปคุยเรื่องอื่น ก่อนที่ตนจะลุกไปรับโทรศัพท์ หันกลับมาอีกทีก็เห็นว่าเกิดการชุลมุนและทำร้ายร่างกายผู้เสียหายแล้ว ซึ่งตนมองว่าเป็นพฤติกรรมที่เกินกว่าเหตุไปมาก
จากนั้นช่วงเย็น เจ้าของร้านคาราโอเกะ และลูกน้อง รวม 5 คน เข้าพบพนักงานสอบสวน สน.สายไหม โดยกลุ่มผู้ก่อเหตุทั้ง 5 คน เดินก้มพบพนักงานสอบสวนโดยสวมใส่แมสก์และใส่เสื้อฮู้ดปิดบังใบหน้า ซึ่งทั้ง 5 คนไม่ให้ข้อมูลใด ๆ กับผู้สื่อข่าว
ด้านเจ้าของร้านคาราโอเกะเปิดใจกับผู้สื่อข่าวว่า เรื่องราวดังกล่าวที่เกิดขึ้น เกิดจากจากผู้ชายที่ทำงานในร้านชาบู ซึ่งมีเรื่องบาดหมางกันเรื่องชู้สาว จนทำให้ก่อนหน้านี้มีการทำร้ายร่างกายกันมาแล้วหนึ่งครั้ง
กระทั่งในวันเกิดเหตุ (15 กุมภาพันธ์) ตนเองยอมรับว่า ได้เข้าไปในที่เกิดเหตุด้วยเช่นกัน แต่ไม่ได้เป็นผู้สั่งการและไม่เคยกล่าวอ้าง ว่ารู้จักกับตำรวจ สน.สายไหม แต่อย่างไร ยืนยันว่าตนไม่ได้พูด หากตนพูดจริงจะยอมก้มลงกราบเท้า ถ้าหากมีพยานหลักฐานและหากตนเองทำจริง ก็ให้เอามาพิสูจน์กัน แต่หากไม่มีและเป็นการกล่าวหา อันทำให้เกิดความเสื่อมเสียทั้งตนเองและธุรกิจร้านคาราโอเกะ ตนเองจะดำเนินคดีในข้อหาหมิ่นประมาท
อย่างไรก็ตาม ในกรณีที่ตนเดินเข้าร้านชาบูและทางเจ้าของร้านชาบูประสงค์จะแจ้งข้อหาบุกรุก กรณีนี้ตนยอมรับว่าทำผิดจริง
สำหรับสาวคาราโอเกะลูกน้องตยที่พามาวันนี้นั้น หากพบว่าใครกระทำความผิด ก็ต้องรับบทลงโทษไปตามกฏหมาย ยืนยันเรื่องที่เกิดขึ้น ตนเองไม่เคยรู้จักกับผู้เสียหายมาก่อน แต่ยอมรับตนเองก็ไม่ได้เข้ามาห้ามปรามลูกน้องที่ทำร้ายผู้เสียหาย เนื่องจากเข้าใจว่าเป็นเรื่องของวัยรุ่นที่มีปัญหากัน จึงอยากเรียกร้องให้ฟังความทั้งสองฝ่ายเพื่อความเป็นธรรม
ทั้งนี้ พนักงานสอบสวน สน.สายไหม ได้แจ้งดำเนินคดีสาวร้านคาราโอเกะทั้ง 5 คน ในข้อหาร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุทำให้ได้รับบาดเจ็บ ส่วนจะสาหัสหรือไม่นั้น อยู่ในระหว่างการรอผลตรวจสอบทางการแพทย์
ส่วนร้านคาราโอเกะดังกล่าว เบื้องต้นไม่ใช่สถานประกอบการ จึงไม่จำเป็นต้องมีใบขออนุญาต แต่จะให้ทางฝ่ายปราบปรามเข้าตรวจสอบว่ามีใบอนุญาตการขายสุราหรือไม่
อย่างไรก็ตาม ในส่วนเจ้าของร้านที่ถูกหญิงผู้เสียหายกล่าวหาว่าเป็นผู้สั่งการ จะต้องตรวจสอบจากพยานหลักฐานว่ามีการกระทำความผิดจริงหรือไม่ ในเบื้องต้นขณะนี้จึงยังไม่สามารถแจ้งข้อกล่าวหาหญิงเจ้าของร้านคาราโอแกะได้
นายเอกภพ บอกว่า ได้ประสาน ผกก.สน.สายไหมแล้ว บอกว่า ไม่มีตำรวจคนไหนรู้จักคนในร้าน คาราโอเกะและจะดำเนินคดีทั้งหมด รวมถึงข้อหาบุกรุกด้วย ซึ่งพฤติกรรมของแก๊งสาวร้านคาราโอเกะ ถือว่าเหิมเกริมและท้าทายกฎหมายบ้านเมือง ยืนยันว่า 1-2 วัน จะสามารถจับได้หมด
รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/I4Y1MIbau_I
แท็กที่เกี่ยวข้อง หึงหวง ,สาวร้านคาราโอเกะ ,พวกกระทืบ