รอง ผบช.น.ยันวิสามัญคนร้ายลักจยย. ทำตามยุทธวิธี ป้องกันตัว เปิดวงจรปิด ชี้ กระสุนเกือบเฉียดหัวตร.

รอง ผบช.น.ยันวิสามัญคนร้าย "แก๊งลักมอเตอร์ไซต์" ตำรวจป้องกันตัว เพราะคนร้ายยิงใส่ตำรวจก่อน กระสุนเฉียดหัวตำรวจไปนิดเดียว ไปดูภาพวงจรปิด



เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นช่วงเที่ยงวานนี้ (11ก.พ.68) คนร้ายเป็นชาย 2 คนขี่มอเตอร์ไซต์เข้ามาจอดที่ทางเข้าหมู่บ้านประยูรทอง 2 ซอยวัดศิริพงษ์ธรรมนิมิต ถนนวัชรพล ย่านบางเขน กรุงเทพ จากนั้นคนซ้อนที่สวมหมวกกันน้อคสีขาวก็ลงจากมอเตอร์ไซต์ แล้วตำรวจสายสืบ สน.คันนายาวก็เข้าชาร์ตจับตัวทันที แต่คนขี่ลงจากมอเตอร์ไซต์แล้วคว้าปืนจ่อไปที่ตำรวจ จนตำรวจที่จับคนร้ายได้ 1 คน ต้องตะโกนว่า "เฮ้ย มีของ" แล้วล่าถอยออกมา ขณะที่ตำรวจอีกนายถือปืนคุมเชิงอยู่ห่างๆ



แล้วคนร้ายทั้ง 2 คน ก็ขึ้นมอเตอร์ไซต์แล้วขี่ออกไป แต่จังหวะที่ขี่ออกไป ได้ยิงปืนใส่ตำรวจ 1 นัด กระสุนเฉียดหัวตำรวจคนที่ถือปืนคุมเชิงไปนิดเดียว แล้วกระสุนพุ่งไปโดนกำแพงที่อยู่ด้านหลัง ในวงจรปิดจะเห็นว่ามีแสงแว้บขึ้นมาตรงกำแพง ทำให้ตำรวจนายนั้นต้องยิงต่อสู้กลับไป



กระสุนของตำรวจเข้าที่ต้นขาซ้าย 1 นัด และอีก 1 นัดทะลุหมวกกันน็อคเข้าที่ด้านหลังศีรษะของนาย ศุภัช ศรีแย้ม หรือ ติ๊ก สายไหม อายุ 27 ปี ซึ่งเป็นคนซ้อน ทำให้เสียชีวิตคาที่ ส่วนคนขี่มอเตอร์ไซต์ขี่รถหลบหนีไปได้



หลังเกิดเหตุตำรวจตรวจสอบรอบที่เกิดเหตุ เจอมอเตอร์ไซต์ฮอนด้า เวฟ 125 ไอ สีแดงไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน สภาพใหม่เอี่ยม เป็นรถที่คนร้ายขโมยมาจอดซ่อนอยู่ใต้สะพานทางด่วนฉลองรัช ห่างจากจุดที่พบศพไปประมาณ 50 เมตร จึงยึดไว้เป็นหลักฐาน



หลังเกิดเหตุตำรวจเชิญตัว นางสาว สุภารัตน์ ภรรยาของนาย ศุภัช ผู้ตาย อุ้มท้อง 9 เดือน และแม่ของผู้ตาย ไปให้ปากคำกับตำรวจที่ สน.บางเขน เธอให้การกับตำรวจว่า เธอและสามีช่วยแม่ยายขายของกิ๊ฟช็อป ตามตลาดนัดทั่วไป ก่อนหน้านี้ประมาณ 2 เดือน แม่ให้เธอและสามีสามีหยุดขายของก่อนเพราะเธอท้องแก่ ให้สามีมาช่วยดูแลเธอ แต่ตอนเช้าสามีออกจากบ้านไปแต่ไม่ได้บอกว่าไปไหนก่อนจะทราบข่าวว่าถูกวิสามัญ ทำให้เธอคาใจว่าตำรวจทำเกินกว่าเหตุหรือไม่



ขณะที่แม่ของผู้ตายเข้าให้ปากคำนานกว่า 3 ชั่วโมงก่อนจะออกมาบอกว่า ตำรวจให้ความเป็นธรรมดี เมื่อตำรวจถามว่ายังติดใจเรื่องการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจไหม แม่ของผู้ตายตอบว่า "ไม่ค่ะ" และปฏิเสธที่จะตอบคำถามอีก



วันนี้ (12ก.พ.68) พลตำรวจตรี นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่า เหตุการณ์นี้เริ่มมาจากตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.คันนายาว 4 นาย มาซุ่มจับคนร้ายแก๊งลักมอเตอร์ไซต์ หลังสืบทราบว่าคนร้ายเอามอเตอร์ไซต์ที่ลักได้ในพื้นที่รามอินทรามาซ่อนไว้ตรงจุดนี้ จนมีคนร้ายเป็นชาย 2 คน ขี่มอเตอร์ไซต์ยามาฮ่า เอ็กซ์แม็กซ์ 300 ซีซี สีดำวนมาดู และขี่รถไปจอดใกล้มอเตอร์ไซต์ที่ขโมยมาตำรวจจึงแสดงตัว และล็อคคอ 1 ในคนร้ายไว้ได้ แต่คนร้ายอีกคนชักปืนพกออโตเมติก สีเงิน ขนาด 9 มม. ออกมาจ่อขู่จะยิงตำรวจ ถ้าไม่ยอมปล่อยเพื่อน



เมื่อตำรวจยอมปล่อย คนร้ายทั้ง 2 คน ขี่มอเตอร์ไซต์หนี แต่คนขับใช้มือขวาบิดคันเร่ง ส่วนมือซ้ายยิงปืนมาที่ตำรวจ เพื่อเปิดทางหนี ทำให้โดนตำรวจยิงสวน เสียชีวิต 1 ศพ ยืนยันตำรวจทำตามหน้าที่ และที่ต้องยิงเพื่อป้องกันตัว เพราะคนร้ายยิงใส่ตำรวจก่อนเฉียดหัวไปนิดเดียว



สำหรับคดีนี้ ตำรวจแยกสำนวนเป็น 4 คดีสำนวนที่ 1 คือเรื่องของการชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิต สำนวนที่ 2 คือเรื่องที่ตำรวจวิสามัญคนร้าย สำนวนที่ 3 คือเรื่องการต่อสู้ขัดขวางและพยายามฆ่าเจ้าพนักงาน และสำนวนที่ 4 คือ เรื่องที่คนร้ายไปก่อเหตุลักมอเตอร์ไซต์ ท้องที่คันนายาวและโคกคราม



นอกจากนี้ตำรวจมีข้อมูลว่าเมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ คนร้าย 2 คนนี้ได้ไปก่อเหตุลักมอเตอร์ไซต์1 คันที่ซอยคู้บอน 13 และเอามาจอดใต้ทางพิเศษฉลองรัช ตอน 6 โมงเช้า แล้วบ่าย 2 โมงก็มาเอารถออกไป ต่อมาวันที่ 10 กุมภาพันธ์ คนร้ายทั้ง 2 ได้มาก่อเหตุลักมอเตอร์ไซต์ในซอยนวลจันทร์ 52 ซึ่งเป็นพื้นที่ของ สน.โคกคราม แล้วเอามาจอดที่เดิมอีก ตำรวจสายสืบเลยมาเฝ้าเพื่อจับ และเกิดเหตุวิสามัญขึ้น

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/U9H2DYtTj6I