ผู้กองเจ้าเสน่ห์ ซุกกิ๊กหลายคน ยิงขู่ "ผู้หมู่" ระแวงเอาเรื่องซุกกิ๊กบอกเมีย โร่ร้องหัวหน้า ยังเจอข่มขู่

นายตำรวจ ยศร้อยตำรวจเอก แอบพากิ๊กสาวเบอร์ 3 เข้าบ้านพักข้าราชการ ระแวงตำรวจรุ่นน้องยศ สิบตำรวจตรี จะเอาความลับเรื่องตัวเองมีเมียน้อยไปบอกภรรยาหลวง ใช้ปืนยิงข่มขู่ แถมบอกให้ระวังตัว



ภาพจากกล้องวงจรปิดบริเวณหน้าบ้านพักข้าราชการ เมื่อวันที่ 5 มกราคม ช่วงเวลาประมาณบ่าย 3 กว่า จะเห็น ร้อยตำรวจเอกพงษ์ หรือผู้กองพงษ์ และนางสาวอั้ม กิ๊กสาวเบอร์ 3 ยืนคุยกันหน้าห้องพัก หลังจากนั้นผู้กองพงษ์ เดินไปหยิบอะไรบางอย่างที่รถ แล้วเดินกลับมาหน้าห้องพัก



ก่อนผู้กองจะเดินหายไปจากกล้อง แล้วจากนั้นจะได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด จากนั้นจะได้ยินเสียงตะโกนว่า "ใคร" ต่อมากล้องวงจรปิดหันไปเห็นผู้กอง ซึ่งเรียกหมู่จอห์นมาหา จึงขี่รถมอเตอร์ไซค์เข้ามาใกล้ จะสังเกตเห็นว่า ในมือของผู้กองถือปืนอยู่ด้วย ก่อนจะพูดข่มขู่ว่า "เดี๋ยวยิงแม่งทะลุกำแพงบ้านเลย เดี๋ยวถ้ามีความเคลื่อนไหวนะ"



ซึ่งต่อมา หมู่จอห์น ได้ไปลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สภ.โคกสลุง ลพบุรี เมื่อวันที่ 8 มกราคมที่ผ่านมา แต่ยังไม่ประสงค์จะดำเนินคดี



ขณะที่เพจอีซ้อขยี้ข่าว : อีซ้อ โพสต์ถึงเหตุดังกล่าวว่า นายตำรวจคนนึงในจังหวัดลพบุรี หาเรื่องตำรวจรุ่นน้อง ยศสิบตำรวจตรี โดยใช้ปืนยิงข่มขู่ และบอกว่าให้ระวังตัว อีกทั้งยังใช้อำนาจในทางที่ผิดขู่จะสั่งย้าย สิบตำรวจตรี เพราะระแวงว่าจะเอาความลับเรื่องมีเมียน้อยไปบอกภรรยาหลวง หลังเกิดเหตุ สิบตำรวจตรี รายนี้ได้ร้องเรียนไปที่ผู้บังคับบัญชาแต่เรื่องกลับนิ่งสนิท



ล่าสุดผู้สื่อข่าว ลงพื้นที่พบกับ สิบตำรวจตรีรายนี้ หรือหมู่จอห์น ตำรวจฝ่ายปราบปราม สภ.โคกสลุง อำเภอพัฒนานิคม จังหวัดลพบุรี ซึ่งเจ้าตัวยังต้องทำงานอยู่ที่โรงพักเดียวกัน หลังจากที่แจ้งความเอาเรื่องแล้ว หมู่จอห์น เล่าว่า ผู้กองพงษ์ อายุ 57 ปี ผู้ก่อเหตุ เป็นรองสารวัตรสืบสวนที่โรงพักเดียวกัน เขามีพฤติกรรมเจ้าชู้ คบหาผู้หญิงพร้อมกัน 3 คน



ซึ่ง ผู้กองพงษ์ มีภรรยาอยู่แล้ว 1 คน เป็นภรรยาที่อยู่ต่างพื้นที่ แต่คบหากับผู้กองพงษ์ มานานกว่า 20 ปีแล้ว ลักษณะแบบไปๆ มาๆ ไม่ได้อยู่ด้วยกันที่แฟลตตำรวจ



ขณะที่แฟลตตำรวจ ผู้กองพงษ์ อยู่กับผู้หญิงคนสนิทอีกคน คบหากันมา ได้ 8-9 ปีแล้ว โดยวันที่ 31 ธันวาคม วันเคานท์ดาวน์ ทั้งคู่ทะเลาะกัน เพราะสาวเบอร์ 2 เปิดไปเจอภาพในสตอรี่ ที่เห็นว่า ผู้กองพงษ์ แอบไปเคาท์ดาวน์กับ ผู้หญิงคนใหม่ คือ นางสาวอั้ม จึงมีปากเสียงกัน



วันที่ 1 มกราคม ผู้กองพงษ์ เลยมายอมรับกับสาวเบอร์ 2 ว่าตัวเองมีผู้หญิงคนใหม่จริง ทั้งคู่จึงทะเลาะกันเรื่อยมาก



กระทั่งวันที่ 4 มกราคม สาวเบอร์ 2 ทนไม่ไหว ได้ย้ายข้าวของออกจากห้อง ทำให้ผู้กองพงษ์ โกรธ เข้าใจว่าตน เป็นคนถ่ายภาพไปฟ้องผู้หญิงเบอร์ 2



จนวันที่ 5 มกราคม อั้ม ผู้หญิงเบอร์ 3 ได้ย้ายเข้ามาพักในแฟลตตำรวจ แทน ส้ม เบอร์ 2 ก่อนจะเป็นไปตามคลิปวงจรปิด ผู้กองพงษ์ ยิงปืนขู่ใส่ตน 1 นัด โดยเข้าใจว่าตนเป็นคนถ่ายภาพ จนเขาถูกจับได้ แถมยังขู่อีกว่า "ถ้าไม่เลิกยุ่ง จะยิงทะลุกำแพงเข้าไปในห้อง" และ "จะให้ผู้บังคับบัญชาสั่งย้าย"



ตนรู้สึกว่าไม่ปลอดภัยตั้งแต่นั้นมา เกรงว่าถ้าวันไหน ผู้กองพงษ์ เมา แล้วจะมาไล่ยิงตนอีก เพราะในวันที่ 5 มกราคมที่เกิดเหตุ เขามีดื่มเหล้าเข้าไปก่อนก่อเหตุด้วย จึงตัดสินใจแจ้งความเอาไว้ วันที่ 8 มกราคม แต่เรื่องก็ยังเงียบ ผู้กองพงษ์ ยังทำงานในโรงพัก ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทั้งๆ ที่เป็นตำรวจ แต่ใช้ปืนยิงขู่ตำรวจด้วยกัน



หมู่จอห์น ยังบอกว่า ที่ผ่านมา ตนและครอบครัวต้องใช้ชีวิตด้วยความหวาดระแวง หัวหน้าสถานีไม่ได้ดำเนินการแต่อย่างใด กระทั่งวันที่ 14 มกราคมที่ผ่านมา ตนได้ทักท้วงเรื่องนี้ในที่ประชุม หัวหน้าสถานีจึงยอมเรียก ตนและผู้กองพงษ์ ไปพูดคุย สุดท้ายหัวหน้าสถานีได้ให้ ผู้กองพงษ์ ขอโทษตน เพื่อให้จบเรื่อง แต่ตนไม่อยากรีบคำขอโทษ เพราะมองว่ามันเป็นการขอโทษเพื่อให้เรื่องจบไป ตนอยากให้ผู้กองพงษ์ถูกสั่งย้ายออกไป รับผิดชอบกับสิ่งที่เขาทำ



ต่อมา ผู้สื่อข่าว เดินทางไปที่แฟลตตำรวจที่เกิดเหตุ พบว่า มีห้องพักทั้งหมด 10 ห้อง โดยห้องของหมู่จอห์น อยู่ห้องที่ 2 จากซ้ายส่วนห้องของ ผู้กองพงษ์ อยู่ห้องที่ 7 เมื่อตรวจสอบที่บริเวณหน้าห้องพักที่ 7 ปรากฏว่า ตะโกนเรียกเท่าไรก็ไม่มีใครตอบรับ ซึ่งหน้าห้องมีรถยนต์ ซึ่งไม่ใช่ของเจ้าของห้องจอดอยู่ 1 คัน



นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวได้ข้อมูลเพิ่มเติ่มช่วงที่ ผู้กองพงษ์ ถูกผู้บังคับบัญชาเรียกไปสอบสวน / โดย ผู้กองพงษ์ ให้การว่า ปมสาเหตุมาจากเรื่องผู้หญิงหรือไม่นั้น ตัวเองยืนยันว่าไม่เกี่ยว และมองว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องส่วนตัว ซึ่งถ้าจะบอกว่า ตัวเองเจ้าชู้ก็มีบ้าง แต่ไม่ได้หมายความว่า ตัวเองจะไปยิงทำร้ายใคร ซึ่งถ้า หมู่จอห์น ไม่สบายใจ ตัวเองก็พร้อมจะย้าย ตามที่เขาต้องการ แต่ขอให้เรื่องจบๆ กันไป

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/J0vOlsP9tO8