สังคม
เดินหน้าทะลุซอย! 'สนธิ-ปานเทพ' ร้องสอบมรรยาททนาย 'ตั้ม-เดชา' ชี้เป้า ตร.เร่งสอบตัวละครลับเพิ่ม
โดย JitrarutP
9 ชั่วโมงที่แล้ว
31 views
'สนธิ' และ อาจารย์ปานเทพ ยื่นหนังสือให้สอบมรรยาททนายความ ทนายตั้มและทนายเดชา ยืนยันดำเนินคดี 'ตั้ม' สุดซอย ลั่นแม้ซอยตันก็จะทะลุซอย พร้อมชี้เป้าให้ตำรวจเร่งสอบตัวละครลับเพิ่ม ซึ่งอาจพัวพันกับตั้มคดีเงิน 39 ล้าน
เมื่อช่วงบ่ายวานนี้ (21 พ.ย.) นายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งสื่อเครือผู้จัดการและเจ้าของรายการสนธิทอล์ก พร้อมด้วยอาจารย์ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต เดินทางไปที่สภาทนายความ เพื่อยื่นหนังสือร้องเรียนต่อคณะกรรมการมรรยาททนายความ ให้ดำเนินการตรวจสอบและเอาผิดมรรยาทนายความกับนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม และทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ โดยมีนายสุชาติ ชมกุล อุปนายกฝ่ายกิจการพิเศษ กำกับดูแลงานมรรยาททนายความ เป็นผู้รับเรื่อง
นายสนธิเปิดเผยหลังยื่นหนังสือว่าดีใจที่สื่อมวลชนและตนได้ช่วยกัน ทำให้ความจริงปรากฏ และเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุดในสังคมไทย สิ่งที่นายษิทธาทำกับมาดามอ้อย ไม่ใช่การฉ้อโกงหรือฟอกเงินอย่างเดียว แต่เป็นกระบวนการของคนที่รู้กฎหมาย แล้วใช้ความรู้ทางกฎหมายเอารัดเอาเปรียบคนที่ไม่รู้กฎหมาย
ส่วนการเดินทางมาสภาทนายความในวันนี้ เพราะได้รับมอบอำนาจจากมาดามอ้อย ให้ดำเนินคดี และดำเนินกระบวนการทางยุติธรรมที่เกี่ยวข้องกับคดีที่ทนายตั้มฉ้อโกงทั้งหมด และมาดามอ้อยได้ทำหนังสือมอบอำนาจมาให้ตนเป็นผู้รับผิดชอบคดีนี้แต่เพียงผู้เดียว และในฐานะผู้ได้รับมอบอำนาจขอยืนยันว่าจะไม่มีการเจรจาใดๆ กับทนายตั้มเด็ดขาด จะดำเนินคดีจนสุดซอย ถ้าซอยมันตันก็จะทะลุซอยออกไป
ซึ่งทนายตั้มและทีมงานในคดีนี้ ไม่ว่าใครก็ตาม นอกจากจะถูกดำเนินคดีฉ้อโกงและฟอกเงินแล้ว ก็อาจจะถูกดำเนินคดีฐานอั้งยี่ซ่องโจรด้วย และในเดือนธันวาคมจะไปยื่นเรื่องที่กรมสรรพากร ให้ตรวจสอบเงิน 71 ล้านบาท ที่มาดามอ้อย โอนให้ทนายตั้มว่าทนายตั้มได้เสียภาษีหรือไม่
นอกจากนี้นายสนธิ ยังได้พูดถึงประเด็นให้ตรวจสอบและเอาผิดมรรยาททนายความกับทนายเดชา เพราะกล่าวหาตนโดยไม่มีหลักฐาน เช่น กล่าวหาว่าฉ้อโกงเงินธนาคาร ตบทรัพย์สายการบินใหญ่ของประเทศ และขอให้ทนายเดชา รอรับของขวัญจากตนได้เลยภายในเดือนธันวาคมนี้
ขณะที่อาจารย์ปานเทพ ได้เปิดข้อพิรุธ ในเรื่องการทำสัญญาแอพพลิเคชั่นหวย ออนไลน์ โดยอาจารย์ปานเทพเปิดเผยว่า ตัวสัญญาต้นฉบับที่ทนายตั้มเก็บไว้นั้น ไม่ปรากฏการลงลายเซ็นต์ในทุกหน้าของสัญญา
อีกทั้งยังเว้นหน้าสุดท้ายเอาไว้และเหลือพื้นที่เป็นจำนวนมาก โดยไม่ได้มีการลงลายเซ็นต์ของคู่สัญญาปิดท้ายหน้า นอกจากนี้การลงนามสัญญาฉบับดังกล่าว ทนายตั้มให้คู่สัญญาทั้งสองฝ่ายเป็นคนละแผ่น
โดยให้ฝั่งบริษัทเป็นคนลงนามก่อน แล้วค่อยมายื่นให้มาดามอ้อยลงนามที่หลัง ซึ่งถือว่าเป็นการผิดวิสัยทางกฎหมายนี่จึงเป็นประเด็นที่ส่อพิรุธได้ว่า หากไม่มีการลงนามปิดท้ายใบหน้าสัญญาทุกแผ่นกระดาษนั้น
ทนายตั้มอาจจะฉวยโอกาสในการแก้ไขเพิ่มเติมข้อสัญญาใด ๆ ก็ได้ เช่นสัญญาข้อ 1 ที่ระบุค่าจ้างทำ Application จำนวน 2 ล้านยูโรหรือตีเป็นเงินไทยประมาณ 71 ล้านบาท ซึ่งไม่รู้ว่าทนายตั้มและทนายสายหยุด ได้ส่งต้นฉบับสัญญาดังกล่าวให้กับทางตำรวจและได้มีการตัดข้อความข้อที่ 1 ดังกล่าวออกไปหรือไม่
นอกจากนี้อาจารย์ปานเทพ ยังย้ำว่าอยากให้ตำรวจตรวจสอบบุคคลรอบตัวของทนายตั้มทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นพี่สาว ของทนายตั้มทั้งสองคน เช่นคนที่ชื่อดาวที่ไปทำหน้าที่ขนเงิน 20 ล้านบาท จากจำนวน 39 ล้านบาทที่ธนาคารใน ศูนย์การค้าย่านลาดพร้าวไปเก็บไว้ที่บ้านย่านพุทธมณฑล เพราะคนที่ชื่อดาวมียอดเงินหมุนเวียนในบัญชีถึง 50 ล้านบาท
รวมถึงคนขับรถของทนายตั้มที่ชื่อเล็ก ซึ่งเป็นทหารและตั้มเคยช่วยเหลือให้รอดพ้นคดียาเสพติด ที่มีส่วนร่วมในการขนเงิน 20 ล้านบาทกับคนชื่อดาว ซึ่งควรออกมาให้ข้อมูลกับตำรวจ ในเรื่องนี้ เพราะจะเป็นตัวการร่วมหรือเป็นพยาน ก็อยู่ที่คำให้การว่าจะเป็นประโยชน์หรือไม่
รวมถึงพี่สาวของทนายตั้ม อีกคน ที่ชื่ออ้อ ที่ทนายตั้มเสนอให้ ลูกสาวของคนชื่ออ้อ ไปแต่งงานกับลูกชายของมาดามอ้อย ทั้งที่ลูกชายของมาดามอ้อย มีครอบครัวแล้ว ก็อยากให้ตรวจสอบพี่สาวของทนายตั้มอีกคนที่ชื่อว่าอ้อว่า มีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่ เพราะเนื่องจากพบว่า ทนายตั้มเคยเสนอกับมาดามอ้อย ให้ลูกสาวของอ้อ แต่งงานกับลูกชายของมาดามอ้อย
รับชมผ่านยูทูบ : https://youtu.be/WhgxH2qxGys