จับ 32 ชาวอินโดนีเซีย ทำงานแก๊งคอลเซ็นเตอร์ หนีจากเมียวดี ลักลอบเข้าไทย

ปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่ใช้ไทยเป็นทางผ่าน ล่าสุด ตำรวจที่แม่สอด จังหวัดตาก จับกุมชาวอินโดนีเซีย 32 คน เดินทางไปทำงานกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่เมืองเมียวดี เมียนมา ถูกจับขณะหนีออกจากแก๊งและลักลอบเข้าไทย


เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ ตม. ปกครอง ร่วมกันสนธิกำลังจับกุมตัวชาวอินโดนีเซีย 32 คน เป็นชาย 30 คน หญิง 2 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนหนุ่มสาว กำลังจะลักลอบข้ามแดนไปฝั่งเมียนมา ได้ระหว่างตั้งจุดสกัดลาดตะเวนร่วมบริเวณ บ้านวังตะเคียนใต้ หมู่ 7 ต.ท่าสายลวด อ.แม่สอด ห่างจากสะพานมิตรภาพไทยเมียนมาแห่งที่ 2 ราว 500 เมตร


เบื้องต้นสอบสวนชาวอินโดนีเซียกลุ่มนี้ ทราบว่า ได้ถูกว่าจ้างจากนายหน้า จากคนอินโดนีเซียและชาวไทย นายหน้าแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์ ให้ไปทำงานในบ่อนคาสิโนและคอลเซ็นเตอร์ ในฝั่งเมียนมา พื้นที่ควบคุมกลุ่มจีนเทา นานเป็นปี และแอบหนีออกจากฝั่งเมียนมา เพื่อข้ามเข้ามาฝั่งไทย เพราะไม่อยากจะทำงานต่อ


อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่จึงได้สอบสวนข้ามไปเมื่อไหร่ และกลุ่มไหนว่าจ้างไปทำอะไร ซึ่งเป็นที่หน้าสังเกตว่า นายหน้าไม่ได้สนใจคำเตือนจากเจ้าหน้าที่ไทยแม้แต่น้อย ขณะที่ผู้ลักลอบข้ามไปทำงานก็อ้างว่า มาท่องเที่ยว จึงทำให้ช่วงนี้ต้องกวดขันทุกจุดข้ามแดนกันอย่างเข้มงวด


ด้านชาวเน็ตต่างเริ่มลงคลิปภาพกลุ่มจีนเทา จากศูนย์ปฎิบัติการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในเมียวดี ของเมียนมา ขณะทำร้ายร่างกายเหยื่อที่ไม่ปฏิบัติตัวตามคำสั่ง โดยการทุบตีอย่างรุนแรง บางรายเป็นหญิงถูกถอดเสื้อผ้า ทำร้ายร่างกายอย่างหนัก ซึ่งมีการทำแผนที่จุดเกิดเหตุ อยู่ตรงข้าม อ.แม่สอด โดยทั้งหมดตั้งอยู่ในฝั่งเมียนมาที่จังหวัดเมียวดี


ส่วนนี่เป็นภาพประกาศเตือนภัย จากตรวจคนเข้าเมืองตาก ที่เผยแพร่ในโซเชียล ได้โพสต์ภาพร่องรอยบาดแผลตามร่างกายของผู้ที่ถูกกระทำรุนแรงของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ พร้อมเตือนเป็นภาษา จีน อังกฤษ เวียดนาม อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ รวมถึงภาษาไทย มีใจความว่า บาดแผลของเหยื่อ ที่เกิดจากการหลอกไปทำงานและบังคับใช้แรงงาน อย่างผิดกฎหมาย บริเวณชายแดน อ.แม่สอด จ.ตาก

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/XkOq8w5uWh4