เจ้าของห้องเช่าผวา ลูกบ้านอาละวาด โยนข้าวของ-ขู่ฆ่า ค้นห้องพบอุปกรณ์เสพยา

เจ้าของห้องเช่าผวา ถูกคนมาเช่าห้องพักขู่ฆ่า อาละวาดโยนขวด โยนกระถางต้นไม้ใส่ประตูหน้าบ้าน พบประวัติเคยก่อเหตุขับรถจักรยานยนต์ไล่แทงชาวบ้านไปทั่วมาแล้วครั้งหนึ่ง ฝากถึงญาติหากรู้ว่าเป็นคนมีปัญหาด้านจิตควรดูแลให้ดีไม่ควรปล่อยออกมาเป็นภัยสังคม



ภาพจากกล้องวงจรปิดหน้าห้องเช่าแห่งหนึ่ง ในพื้นที่บ้านโคกฟันโปง ต.บ้านเป็ด อ.เมือง จ.ขอนแก่น บันทึกภาพเหตุการณ์ชายคนหนึ่งกำลังโวยวายอาละวาดโยนขวดโยนกระถางต้นไม้ใส่ประตูบ้านผู้เสียหาย พร้อมทั้งพูดขู่ฆ่าเจ้าของบ้านด้วย กระทั่งโวยวายสักพักผ่านไป 15 นาที ชายดังกล่าวก็ปั่นจักรยานหนีไป โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 18.00 น วันที่ 28 เม.ย.2565 ที่ผ่านมา



ล่าสุดเมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 30 เม.ย.2565 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปพบกับ น.ส.วรินทร์ลภัส คูชัยสิทธิ์ อายุ 31 ปี ที่บ้านโคกฟันโปง ม.4 ต.บ้านเป็ด อ.เมือง จ.ขอนแก่น เจ้าของอาคารห้องแถวที่เกิดเหตุ เป็นห้องแถว 4 คูหา พาผู้สื่อข่าวดูจุดที่ชายดังกล่าวหยิบเอาขวดและกระถางต้นไม้ที่อยู่หน้าบ้าน ทุ่มใส่ประตูเหล็กม้วนจนบุบเข้าไป ซึ่งหลังเกิดเหตุเจ้าของห้องเช่าได้มาเก็บกวาดทำความสะอาดทิ้งถังขยะไปทั้งหมด แต่ยังหลงเหลือร่องรอยความเสียหายเอาไว้ให้ดูต่างหน้า



น.ส.วรินทร์ลภัส เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า ก่อนเกิดเหตุเมื่อช่วง3-4วันที่ผ่านมา มีตำรวจมาขอเช่าห้องพัก ทีแรกคิดว่าจะมาเช่าให้ลูกน้อง พอติดต่อพูดคุยกันเสร็จแต่ยังไม่ได้ทำสัญญาเช่าและยังไม่ได้จ่ายเงิน ลูกน้องของนายตำรวจที่มาติดต่อเช่าห้องก็ขนของมา แต่วันที่ขนของมานั้นไม่ทราบว่าคนที่มาอยู่เป็นใคร



วันต่อมาทราบว่าเป็นนายปิงปอง ซึ่งตนเองทราบประวัติดีว่าเป็นใครเพราะเคยออกข่าวที่เคยขับรถจักรยานยนต์ไปไล่แทงคนไปทั่วและถูกจับไปหลายปีแล้ว สาเหตุเพราะมีอาการทางจิต พอตนเองทราบก็กลัวไม่อยากให้เช่า จึงแจ้งไปยังตำรวจที่มาติดต่อขอเช่าว่าอยากให้ย้ายออก โดยบอกว่าจะปรับปรุงห้องเช่าใหม่ ซึ่งตำรวจที่มาก็บอกขอเวลา 2-3 วันหาที่เช่าอื่นก่อน แล้วจะย้ายไป พร้อมทั้งบอกกับนายปิงปองว่าให้ย้ายออกไป แต่นายปิงปองไม่ยอมและโวยวายจนต้องเรียกตำรวจมาพาตัวไป



วันต่อมานายปิงปองกลับมาอีกครั้งแล้วโวยวายอาละวาดตามกล้องวงจรปิดที่บันทึกภาพได้ พร้อมทั้งขู่จะฆ่าให้ตาย ซึ่งโชคดีที่ไม่กี่นาทีก่อนที่นายปิงปองจะมาอาละวาด ตนเองได้ปิดประตูม้วนเหล็กลงและล็อคข้างใน ไม่งั้นอาจจะถูกนายปิงปองปาขวดปากระถางใส่ประตูกระจกแตก และเข้าไปทำร้ายคนในบ้านแน่นอน



ซึ่งตนเองอยู่กับสามีและลูกต่างก็กลัวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น สามีจะออกไปหานายปิงปองแต่ตนเองกลัวว่านายปิงปองจะมีอาวุธ เพราะลักษณะเหมือนเอามือล้วงที่กระเป๋าเป้อยู่ตลอด ซึ่งนายปิงปองได้โวยวายอาละวาดปากระถางต้นไม้ใส่ประตูบ้านอยู่ประมาณ 15 นาที ก็ปั่นจักรยานหนีไป ท่ามกลางสายตาของชาวบ้านที่อาศัยอยู่ละแวกนั้นแต่ไม่มีใครกล้าเข้าไปยุ่งเพราะกลัวจะได้รับอันตรายไปด้วย กระทั่งวันต่อมาตนเองได้เข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.บ้านเป็ด แต่ร้อยเวรอยู่คนเดียวและมีชาวบ้านมาแจ้งความเยอะ จึงเข้าแจ้งความอีกครั้งในวันนี้



น.ส.วรินทร์ลภัส บอกอีกว่า หลังจากที่นายปิงปองกลับไปและคิดว่าจะไม่ย้อนกลับมาแล้ว ตนเองก็เข้าไปดูภายในห้องพบว่ามีทั้งอุปกรณ์การเสพยาบ้า อุกรณ์การเสพกัญชา ทั้งมีดทั้งเขียง ทั้งฟอยและไฟแช็ค จึงได้ทำความสะอาดเก็บทิ้งถังขยะไปทั้งหมด



อยากฝากถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดการเรื่องนี้เพราะเป็นภัยสังคมอย่างมาก และฝากถึงญาติพี่น้องของนายปิงปองหากรู้ว่านายปิงปองมีอาการทางจิตต้องกินยารักษาก็ไม่ควรปล่อยออกมาสู่สังคม ควรดูแลอย่างใกล้ชิด เพราะอาจเกิดเหตุการณ์ที่รุนแรงกว่านี้ขึ้นได้