4 วัยรุ่นบุกบ้าน 'บาส' เข้ารับทราบข้อกล่าวหา - 'หมอปลา' ไม่กลัว 'เด็กวัดม่วง' ขู่บุกบ้าน

4 วัยรุ่น คู่กรณีนายบาส เข้ารับทราบข้อกล่าวหาที่ สน.เพชรเกษม แล้ว แต่ตำรวจปล่อยตัวและนัดสอบปากคำอีกครั้งในวันจันทร์นี้ เพราะไม่มีพฤติการณ์หลบหนี

โดยนาย ณัฐพล, นาย พันกร, นาย ภาสกร และ นาย ปราเมษ ซึ่งเป็นคู่กรณีของนายบาส เข้าพบพนักงานสอบสวน สน.เพชรเกษม เพื่อรับทราบข้อกล่าวหา ร่วมกันทำร้ายร่างกายทำให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บสาหัส และร่วมกันบุกรุกเคหสถาน

ผู้กำกับการ สน.เพชรเกษม กล่าวว่า วันนี้เรียกตัวทั้ง 4 คน มารับทราบ 2 ข้อกล่าวหา ส่วนข้อหาส่วนตัวอื่น ๆ เช่น ทำลายทรัพย์สินเสียหาย ต้องรอให้ผู้เสียหายเข้ามาแจ้งความอีกครั้ง จึงจะดำเนินคดีได้ เบื้องต้นทั้งหมดไม่มีพฤติการณ์หลบหนี จึงปล่อยตัวชั่วคราว และนัดมาสอบปากคำเพิ่มเติมอีกครั้ง ในวันจันทร์ที่ 18 ตุลาคม ก่อนจะสรุปสำนวนส่งให้พนักงานอัยการ

นายพันกร หรือ เย่อ 1 ในผู้ต้องหา ที่ได้รับบาดเจ็บสาหัส หลังได้รับทราบข้อหา ก็เดินทางกลับทันที เป็นคนแรก และปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ ซึ่งญาติบอกว่า ต้องกลับไปรักษาตัวที่โรงพยาบาล ต่อมา ผู้ต้องหาอีก 3 คน ก็ได้เดินทางกลับ โดย 1 คน วิ่งหนีขึ้นสะพานไปฝั่งตรงข้าม และขี่จักรยานยนต์ออกไปทันที ส่วนอีก 2 คน ก็ซ้อน 3 รถจักรยานยนต์ของญาติออกไป โดยไม่ให้สัมภาษณ์

ทีมข่าว ได้ตรวจสอบประวัติย้อนหลัง พบว่านายสมเดส หรือ ต้น 1 ในผู้เสียชีวิต เคยถูกดำเนินคดีข้อหา ร่วมกันปล้นทรัพ์ เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2556 หรือเมื่อ 8 ปีก่อน และถูกจับพร้อมพวกรวม 5 คน ในนาม "แก๊งสมเด็จ" ซึ่งครั้งนั้นไปก่อเหตุร่วมกันดักปล้นตำรวจ บริเวณสะพานข้ามคลองภาษีเจริญ จุดยูเทิร์นศาลเจ้าแม่ทับทิม ย่านบางแค ใช้ไม้ตีตำรวจบาดเจ็บสาหัส ก่อนจะร่วมกันปล้นทรัพย์ ได้ทั้งเงินและปืนของตำรวจไป

จากนั้น ทีมข่าวลงพื้นที่จุดเกิดเหตุเมื่อ 8 ปีก่อน เพื่อสอบถามความเป็นมาของแก๊งสมเด็จ พบว่า บริเวณดังกล่าวเป็นถนนเลียบคลองภาษีเจริญ ออกไปได้หลายเส้นทาง รวมถึงที่ สน.เพชรเกษม ชาวบ้านนิยมใช้เป็นเส้นทางลัด แต่หลังเกิดเหตุปล้นทรัพย์ เมื่อ 8 ปีก่อน ถนนเส้นนี้ชาวบ้านจัดให้เป็นพื้นที่อันตราย เพราะเส้นทางค่อนข้างเปลี่ยว ไม่มีไฟส่องสว่าง มักจะเกิดเหตุจี้ชิงทรัพย์บ่อยครั้ง และช่วงกลางคืน ชาวบ้านก็จะเลี่ยงไม่ใช้เส้นทางนี้

ส่วนแก๊งสมเด็จ ชาวบ้านย่านนี้รู้จักกันดี เป็นกลุ่มวัยรุ่นที่ชื่นชอบห้อยพระสมเด็จ จึงตั้งชื่อแก๊งสมเด็จ และมักจะรวมตัวกันไปก่อเหตุอาชญากรรม

ส่วนกรณีที่มีการข่มขู่จากเพื่อนของผู้เสียชีวิต ว่าจะเอาคืนนายบาส หรือผู้ที่ช่วยเหลือนายบาสนั้น ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล บอกว่าหากรู้สึกไม่ปลอดภัย สามารถแจ้งข้อมูลได้ที่ 191 ซึ่งตำรวจมีมาตรการดูแลพยาน และบุคคลที่เกี่ยวข้องอยู่แล้ว พร้อมกำชับให้ตำรวจ สน.เพชรเกษม ทำคดีอย่างตรงไปตรงมา และเป็นธรรมกับทุกฝ่าย

หมอปลาไม่กลัวเด็กวัดม่วง นัดรวมตัวหน้าบ้านพรุ่งนี้ ถามกลับจะมาทำไม ยืนยันจะช่วยเหลือน้องบาสถึงที่สุด ตอนนี้ต้องผ่าตัดด่วนเพราะกระดูกหัก หมอหวั่นติดเชื้อ

ผู้สื่อข่าวไปที่บ้านนายจีรพันธ์ เพชรขาว หรือ หมอปลา ที่จังหวัดเพชรบุรี โดยเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาหมอปลาได้โกนหัวให้น้องบาส เพื่อเป็นการแก้เคล็ด ล้างซวย นำสิ่งไม่ดี สิ่งอัปมงคลออกจากชีวิต น้องอยู่ของน้องดี ๆ แต่คู่กรณีเอาเรื่องมาให้เรา อีกทั้งน้องเพิ่งออกจากเรือนจำ เหมือนตัดสิ่งที่ไม่ดี ให้สิ่งที่งอกมาใหม่เป็นมงคลกับเขา ส่วนน้องบาสมาถึงบ้านหมอปลาตั้งแต่คืนก่อน บอกว่า สบายใจ และรู้สึกปลอดภัยที่ได้มาอยู่ที่นี่

จากนั้นหมอปลาพาน้องบาสไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาล ก่อนกลับบ้านมาอีกครั้งในตอนเย็น โดยให้สัมภาษณ์นักข่าวกรณีเด็กวัดม่วง นัดรวมตัวกันที่หน้าบ้านหมอปลาวันพรุ่งนี้ ล้อหมุน 9 โมง โดยหมอปลา เผยว่า ไม่กลัวที่เด็กวัดม่วงจะนัดกันมาที่บ้าน คนที่หมอปลากลัว มีแค่คนดี ถ้าไม่ใช่คนดี หมอปลาไม่กลัว ไม่รู้สึกอะไร แต่ก็อยากถามว่า จะมากันทำไม มาเพื่ออะไร

ส่วนการช่วยเหลือน้องบาส ยืนยันว่า จะดูแลเต็มที่ จนกว่าเขาจะดูแลตัวเองและครอบครัวเขาได้ ล่าสุด น้องบาสต้องเข้ารับการผ่าตัดด่วน เพราะกระดูกหัก และบาดแผลเปิด ยังดีที่ไม่ถึงขั้นติดเชื้อ หากติดเชื้ออาจต้องตัดแขนทิ้ง ตอนนี้ต้องรักษาตัวอีกเป็นสัปดาห์

ทำให้ตนตั้งข้อสังเกตว่า ก่อนน้องอยู่ในห้องขัง น้องไม่เป็นอะไร แต่ตอนนี้หมอเอกซเรย์แล้วพบว่า กระดูกหัก ทำไมตำรวจถึงไม่เป็นห่วงเด็ก ปล่อยเด็กไว้แบบนั้น 5 วัน แต่วันนี้หมอถอดเฝือกมาตรวจกลับตกใจ ต้องส่งตัวเข้าห้องผ่าตัดด่วน ซึ่งน้องอาการสาหัสจากการที่ถูกคู่กรณีทำร้าย ไม่ได้ถูกมดกัด