สังคม

รวบแม่บ้านโหด ทำร้ายยายป่วยติดเตียงวัย 85 น่วม ฟันหัก ฟกช้ำทั่วตัว

โดย panisa_p

18 ธ.ค. 2567

246 views

หลังจากที่ชุดสืบนครบาลได้นำกำลังเข้าจับกุม น.ส. นภสร หรือ กระต่ายแสนกล อายุ 49 ปี ซึ่งเป็นผู้ต้องหาในคดีทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กาย ซึ่งเมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม เพจสายไหมต้องรอด พร้อมทีมงาน ได้พายายฮวย วัย 85 ปี เข้าพบ ผกก.สน.มีนบุรี เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับแม่บ้าน น.ส.นภสร หรือกระต่าย ที่ครอบครัวจ้างมาดูแลผู้สูงอายุ หลังทำร้ายยายฮวยจนได้รับบาดเจ็บ


ทีมข่าวจึงได้มาพูดคุยกับนายมานพ ติณสิริสุข ซึ่งเป็นลูกเขยของยายฮวย โดยนายมานพ เล่าว่ายายฮวยป่วยเป็นโรคอัลไซเมอร์ และติดเตียง ก่อนหน้านี้ก็มีแม่บ้านที่เป็นชาวต่างด้าวที่คอยดูแล แต่แม่บ้านคนก่อนต้องการที่จะลาออกตนจึงได้โพสต์หา แม่บ้านคนใหม่ในเพจ Facebook ที่ชื่อว่า “หาพนักงานดูแลผู้สูงอายุ“ ซึ่งก็มีหลายคนที่มาสมัครพอทักไปพูดคุยสอบถามรายละเอียดบางรายก็ไม่ตอบ หรือบางรายก็นัดมาคุยแล้วก็ไม่น่าไว้ใจ จนเหลือตัวเลือกสุดท้าย คือ นางกระต่าย และพบว่าตัวนางกระต่ายอาศัยอยู่ที่ปทุมธานี บริเวณคลอง 1 ซึ่งก็ใกล้กับที่ทำงานของตนจึงได้สินใจทักไปคุย แต่ก็ยังไม่ได้ตัดสินใจที่จะรับนางกระต่ายมาทำงาน


กระทั่งวันที่ 11 มิถุนายน 2567 ได้นัดแม่บ้านไว้หนึ่งคนซึ่งเป็นคนที่คาดหวังว่าจะรับมาเป็นแม่บ้านประจำบ้าน ปรากฏว่าแม่บ้านคนดังกล่าวไม่มา จึงตัดสินใจรับนางกระต่ายมาเป็นแม่บ้าน ตกลงค่าจ้างกันอยู่ที่วันละ 500 บาททำงานตั้งแต่ 6.30 ถึง 17.00 น. มีหน้าที่แค่เพียงดูแลคุณยายเท่านั้น นายมานพกับภรรยาตัดสินใจว่าให้นางกระต่ายอาศัยอยู่ที่บ้านไปเลย เมื่อนางกระต่ายเข้ามาอยู่ในบ้านผ่านไปสามวันก็พบความผิดปกติกล้องวงจรปิดใช้การไม่ได้เหมือนมีคนดึงปลั๊กออก จึงได้ไปถามนางกระต่ายซึ่งเจ้าตัวตอบว่าคุณยายเป็นคนที่ดึงออกเอง แต่ในความเป็นจริงคุณยายทำไม่ได้ เพราะเป็นผู้ป่วยติดเตียงและไม่มีแรงมากพอ


หลังจากเหตุการณ์นั้นตนก็เก็บความสงสัยไว้แล้วก็เริ่มมาสังเกตคุณยายพบว่าคุณยายมีความผิดปกติ คุณยายเริ่มเป็นซึมเศร้า จนกระทั่งวันที่ 1 กรกฎาคม 2567 ตนและภรรยาพบว่าคุณยายมีรอยฟกช้ำ ตามร่างกาย และที่บริเวณปากคุณยายมีรอยช้ำขนาดใหญ่ เหมือนกับโดนกระแทก จึงให้คุณยายอ้าปากพบว่า ฟันคุณยายหักหนึ่งซี่ จึงถามนางกระต่ายว่าเกิดอะไรขึ้นกับคุณยาย แต่นางกระต่าย อ้างว่าคุณยายกัดฟันจนทำให้ฟันหักเอง และขณะที่คุณยายกัดฟันตัวเอง นางกระต่ายก็อ้างว่าตนเองกำลังไปซักผ้า ตนและภรรยาจึงไปดูก็ไม่เห็นผ้าที่ซักแล้วตากไว้แต่อย่างใด จึงทำให้ตนและภรรยาเริ่มเอะใจ และเริ่มสังเกตพฤติกรรมของนางกระต่าย


พบว่าหลังจากเหตุการณ์นั้นนางกระต่ายมีพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปมีท่าทีที่นิ่งเฉยใส่ตน และภรรยา เวลาชวนคุยก็มันจะไม่ตอบโต้ ตั้งแต่วันนั้นก็ได้มีการกดบันทึกกล้องวงจรปิดไว้ตลอดจนกระทั่งวันที่ 5 กรกฎาคม 2567 ภรรยาส่งคลิปกล้องวงจรปิดมาให้ดูเป็นช่วงที่นางกระต่ายทำร้ายคุณยายโดยการทุบตี ทำให้ตนโกรธ และรู้สึกทนไม่ไหว ตัดสินใจลางานกลับไปที่บ้าน พร้อมกับพี่ชายที่เป็นทนาย เมื่อไปถึงที่บ้านนางกระต่ายก็ยังคงปฏิเสธว่าไม่ได้ทำร้ายคุณยาย แต่ตนมีคลิปกล้องวงจรปิดที่เป็นหลักฐานจึงทำการเค้นถามจนนางกระต่าย ยอมรับว่าทำร้ายร่างกายคุณยายจริง และท้าทายให้ตนไปแจ้งความที่โรงพักไหนก็ได้


ตน ภรรยา และพี่ชายจึงตัดสินใจนำตัวนางกระต่ายจะไปแจ้งความใน สน.ใกล้บ้าน จังหวะที่กำลังจะออกจากหมู่บ้าน นางกระต่าย อ้างว่าลืมสายชาร์จไว้ที่โทรศัพท์เมื่อกลับไปเอาที่บ้านไม่รู้ว่านางกระต่ายเจรจาอะไรกับภรรยาทำให้ภรรยาใจอ่อน


รู้เพียงแค่นางกระต่ายบอกว่าจะมาไหว้ขอขมาคุณยาย ตนจึงบอกให้นางกระต่ายกราบขอโทษคุณยายตอนนั้นเลย ซึ่งบอกอยู่หลายรอบนางกระต่ายก็ไม่ยอมทำเอาแต่ยืนนิ่ง จนสุดท้ายนางกระต่ายก็ยอมกราบคุณยาย จากนั้นตนก็ขับรถไปส่งนางกระต่ายที่รถไฟฟ้าสายสีชมพูใต้ดินสายสีชมพู พร้อมให้ค่าจ้างครบถ้วนเพื่อไม่ให้มีอะไรติดค้างต่อกัน


แต่สุดท้ายตนเป็นหัวหน้าครอบครัว จึงมองว่าเหตุการณ์นี้มันไม่ควรจะเป็นอย่างนี้ เพราะดูจากพฤติกรรมแล้วน่าจะเคยมีประวัติก่อเหตุแบบนี้มาก่อน ซึ่งตนก็ไม่รู้ ตนจึงตัดสินใจนำเรื่องราวทั้งหมดไปร้องที่เพจสายไหมต้องรอด ก่อนที่ทางเพจสายไหมต้องรอจะประสานงานกับตำรวจ สน.มีนบุรีให้ดำเนินการทางกฎหมาย เมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม 2567 จนล่าสุดตนรู้สึกดีใจที่สืบนครบาลสามารถจับกุมนางกระต่ายได้แล้ว เพราะเป็นเหมือนการกำจัดภัยสังคม ซึ่งเป็นมนุษย์ที่โหดร้ายต่อสังคม กังวลว่าถ้าปล่อยตัวเขาไปเขาจะไปทำร้ายคนอื่นอีกหรือไม่เราก็ไม่รู้ จึงมองว่าถ้าตอนนั้นตนปล่อยให้มันผ่านไปก็เหมือนตนทำบาปกับคนอื่น


เมื่อถามว่ามีอะไรอยากจะฝากถึงนางกระต่ายหรือไม่ นายมานพ ระบุว่าก็ขึ้นอยู่กับจิตของเขาว่าจะปรับตัวได้หรือไม่ ถามว่าสังคมจะให้อภัยเขาไหม มองว่าทุกวันนี้สังคมให้อภัยคนที่ไม่ดีแต่กลับใจเป็นคนดีได้อยู่แล้ว แต่ถ้านิสัยของคุณไม่เปลี่ยนก็คงจะลำบากและอยู่ในสังคมอย่างลำบาก และสังคมก็พร้อมจะลงโทษคุณได้เสมอ พร้อมกล่าวขอบคุณชุดสืบนครบาลที่ทำการจับกุมในครั้งนี้ พร้อมบอกว่าตอนนี้อาการของคุณยายก็เป็นไปตามโรคที่เป็นอยู่ แต่ก็ดีขึ้นยังคงสื่อสารได้อยู่บ้าง และตอนนี้ได้มีการจ้างแม่บ้านคนใหม่มาเป็นที่เรียบร้อยซึ่งแม่บ้านคนปัจจุบันดูแลคุณยายเป็นอย่างดี


ต่อมาทีมข่าวได้ลงมาติดตามความคืบหน้าคดีที่สน.มีนบุรี ได้ข้อมูลมาว่า หลังจากที่ชุดสืบนครบาลเข้าทำการจับกุมนางกระต่าย ผู้ต้องหาในคดีทำร้ายคุณยายฮวย อายุ 85 ปีทางชุดสืบนครบาลก็ได้นำตัวนางกระต่าย มาควบคุมตัวไว้ที่ สน.มีนบุรีเป็นที่เรียบร้อย พร้อมให้ข้อมูลว่าก่อนหน้านี้หลังจากที่ ครอบครัวคุณยายได้มีการแจ้งความไว้เมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม 2567 พนักงานสอบสวนได้ทำการรวบรวมพยานหลักฐาน และได้ทำการออกหมายเรียกผู้ต้องหาถึงสองครั้ง แต่ผู้ต้องหาก็ไม่เข้าพบพนักงานสอบสวนจนพนักงานสอบสวนไปขออำนา ศาลอาญามีนบุรีออกหมายจับ นางกระต่ายในข้อหาทำร้ายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กาย


โดยหลังจากที่ออกหมายจับชุดสืบนครบาลก็ได้เข้าทำการจับกุมผู้ต้องหาเมื่อวานที่ผ่านมา ก่อนจะนำตัวมาควบคุมตัวไว้ที่สน.มีนบุรี และหลังจากนี้พนักงานสอบสวนก็จะมีการสอบปากคำผู้ต้องหาเพิ่มเติม ก่อนที่จะนำฝากขังภายในวันพรุ่งนี้ ที่ศาลอาญามีนบุรี

คุณอาจสนใจ

Related News