สังคม

ลูกชายตำรวจ ถูก บก.จร.รุมกระทืบกลางด่านตรวจ อ้างจำผิดคัน ขอโทษ เกลี้ยกล่อมไม่ให้เอาเรื่อง

โดย panisa_p

4 ธ.ค. 2567

430 views

น.ส.ธนัชตา อายุ 29 ปี น้องสาวของนายธนานพ อายุ 33 ปี พาทีมข่าวลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุ ตำรวจกองบังคับการตำรวจจราจร (บก.จร.) รุมกระทืบนายธนานพ ได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดเมื่อช่วงเวลาประมาณ 01.00 น. ของวันที่ 4 ธ.ค.2567 หรือเมื่อช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา บริเวณถนนเกษตร-นวมินทร์ พร้อมกับให้ข้อมูลว่า เมื่อเวลาประมาณ 01.00 น. ที่ผ่านมา พี่ชายได้ขับรถยนต์จากอุโมงค์เกษตร มุ่งหน้าแยกลาดปลาเค้า เมื่อถึงช่วงตอหม้อ 12-13 มีเจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งด่านตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ของกองบังคับการตำรวจจราจร โดยพี่ชายขับรถมาคนเดียว ถูกเรียกตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ และทำการเป่าถึง 3 ครั้ง แต่ปริมาณแอลกอฮอล์ยังเป็น 0 เจ้าหน้าที่ปล่อยตัวออกจากด่านไปตามปกติ


จากนั้นไม่เกิน 1 นาที ห่างจากด่าน 500 เมตร ปรากฏว่า มีรถจักรยานยนต์ 2-3 คัน พร้อมคนขับขี่ 4-5 คน เป็นตำรวจนอกเครื่องแบบ รวมทั้ง รถปิคอัพสายตรวจ ของตำรวจที่แต่งเครื่องแบบเต็มยศ ขับติดตามไล่มาด้านหลัง พร้อมกับขับประกบด้านซ้าย ขวา พร้อมกับเปิดสัญญานไฟ เพื่อให้นายธนานพ จอดชิดซ้าย ซึ่งเลยจากแยกลาดปลาเค้าไปประมาณ 300-400 เมตร จากนั้น นายธนานพ เปิดประตูลงจากรถ กลุ่มตำรวจพร้อมชายนอกเครื่องแบบ รวม 7 คน ซึ่งมีนายตำรวจระดับร้อยตำรวจเอก เป็นหัวหน้าด่าน ได้นำตัวนายธนานพ ไปบริเวณริมฟุตปาธ พร้อมกับใส่กุญแจมือ และรุมทำร้ายร่างกาย ด้วยการเตะเข้าที่ก้านคอ ใบหน้า และลำตัว จนเลือดอาบหน้า คอนแทคเลนส์หลุด ขณะเดียวกัน ยังกล่าวหาว่า นายธนานพ แหกด่าน โดยใช้คำพูดว่า “มึงแหกด่านมาทำไม เดี๋ยวจะเอาตัวไปตรวจสอบ ถ้าแหกด่านมาจริง จะโดนหนักกว่านี้”


หลังจากนั้น กลุ่มตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบ ได้คุมตัวนายธนานพกลับมาที่ด่านตรวจอีกครั้ง พร้อมกับตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด ประจำด่าน เมื่อตรวจสอบปรากฏว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ประจำด่าน พบว่า คนที่ตำรวจตามไปทำร้ายนั้น เป็นการทำร้ายผิดคัน โดยอ้างว่า รถลักษณะคล้ายกัน และได้กล่าวขอโทษ โดยมีพ่อของผู้เสียหาย ซึ่งเป็นตำรวจยศพันตำรวจโท เดินทางมาที่ด่านตรวจด้วย แต่ตำรวจที่ประจำด่านตรวจพยายามจะปกปิดข้อมูล ไม่ให้ข้อเท็จจริง พร้อมกับขอไม่ให้เอาเรื่อง และเปลี่ยนอารมณ์ที่เกรี้ยวกราดจากหน้ามือเป็นหลังมือ จากนั้น กลุ่มตำรวจได้พาคนเจ็บส่งโรงพยาบาล


ส่วนตัวมองว่า รถจะผิดคันหรือไม่ ตำรวจก็ไม่มีสิทธิ์ทำรุนแรงกับใครแบบนี้ เพราะการทำร้ายพี่ชาย นานถึง 5 นาที มันเป็นระยะเวลาที่ยาวนาน จนถึงขั้นคอนแทคเลนส์หลุด โดยพี่ชายบอกว่า ในใจตอนนั้น ต้องกลับไปหาแม่ที่บ้านให้ได้ เพราะยังไง ก็ไม่ยอมตาย โดยทางครอบครัว ยืนยันไม่ยอมความและจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด


ในวันนี้ ได้เข้าแจ้งความกับกองบังคับการปราบปรามไว้แล้ว เบื้องต้น ตำรวจจะดำเนินคดี ในฐานความผิด ทำร้ายร่างกาย กักขังหน่วงเหนี่ยว และให้พนักงานรสอบสวนพิจารณาว่า พฤติกรรมของกลุ่มตำรวจดังกล่าวเข้าข่าย พระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมาน และการกระทาให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. 2565 หรือไม่


ทางด้านพลตำรวจตรีสุรเชษฐ์ บัณฑิตย์ ผู้บังคับการตำรวจจราจร เปิดเผยว่าขณะนี้ได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว พร้อมมีคำสั่งให้ตำรวจทั้ง 7 นายหยุดปฏิบัติหน้าที่จากหน้าที่เดิม ให้เข้ามาปฏิบัติหน้าที่ที่ศูนย์ปฏิบัติการกองบังคับการจราจรแทน เพื่อรอผลการตรวจสอบข้อเท็จจริง แต่เบื้องต้นยอมรับว่าทางตำรวจทั้ง 7 นาย ได้ติดตามควบคุมตัวผู้ขับขี่รถยนต์คันหนึ่งที่พยายามขับฝ่าด่านตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ในจุดดังกล่าว จึงติดตามเพื่อสกัดจับ ก่อนพบรถยนต์ที่มีลักษณะคล้ายกันตำรวจจึงเข้าควบคุมตัว แต่ผู้ขับขี่มีท่าทีขัดขืน ทำให้ตำรวจใช้กำลังเข้าควบคุมตัว


ก่อนมาทราบภายหลังว่าเข้าจับผิดคัน ซึ่งหลังเกิดเหตุก็ได้นำตัวผู้ได้รับบาดเจ็บส่งโรงพยาบาล พร้อมขอโทษ แต่ทางญาติผู้ได้รับบาดเจ็บไม่ขอยอมความ จึงเดินทางเข้าแจ้งความกับตำรวจ สน.บางเขน ส่วนการใช้กำลังเข้าควบคุมตัวเกินกว่าเหตุหรือไม่ ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีที่ญาติประสงค์จะดำเนินคดีเป็นสิทธิ์ของผู้เสียหายว่าไปตามกฎหมาย

คุณอาจสนใจ

Related News