'ครูปรีชา' พร้อม 3 เจ๊-พยานรวม 7 ปาก เดินหน้าสู้ต่อคดีหวยอลเวง ลั่นความจริงคือความจริง

ครูปรีชาพร้อม 3 เจ๊แม่ค้าลอตเตอรี่ และพยานฝั่งครูปรีชารวม 7 ปาก ลั่นเดินหน้าสู้ต่อ เจ๊เกียวยืนยันให้การตามความเป็นจริง ไม่ได้ทำอะไรผิด ขณะที่ทนายตั้มพร้อมลุงจรูญประกาศกร้าว ถ้าคิดว่าจะรอดก็ลองดู

ความคืบหน้า กรณีศาลจังหวัดกาญจนบุรี นัดพร้อมสอบคำให้การ ในคดีที่ร้อยตำรวจโทจรูญ วิมูล หรือ ลุงจรูญ เป็นโจทย์ยื่นฟ้อง นายปรีชา ใคร่ครวญ หรือ ครูปรีชา พร้อมด้วย เจ๊บ้าบิ่น เจ๊พัด เจ๊เกียว 3 แม่ค้าลอตเตอรี่ พร้อมด้วยนายแผน และพยานที่ขึ้นให้การฟังครูปรีชารวมทั้งหมด 10 บาท ในความผิดฐานร่วมกันให้การเท็จ ซึ่งศาลได้นัดพร้อมสอบคำให้การในเวลา 10.00 นาฬิกา ของวันนี้นั้น

ล่าสุด เมื่อเวลา 12.00 นาฬิกา นายฐนุกร เหลืองใหม่เอี่ยม หรือ นายแผน ได้ลงมาจากห้องพิจารณาคดีเป็นคนแรก และรีบเดินออกไปทันทีโดยไม่ให้สัมภาษณ์ใดๆกับสื่อมวลชน หลังจากนั้น นางปนัญชญา สุขพูล หรือเจ๊เกียว พร้อมด้วยนางพัชริดา พรมตา หรือ เจ๊พัด และนางรัตนาภรณ์ สุภาทิพย์ หรือเจ๊บ้าบิ่น ได้เดินออกมาจากห้องพิจารณาคดีพร้อมกัน ก่อนจะให้ข้อมูลกับสื่อมวลชนว่า ทั้ง 3 คนได้ยื่นประกันตัวต่อศาลเรียบร้อยและจะขอเดือนหน้าสู้คดีต่อไป เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า รู้สึกหนักใจหรือไม่เมื่อมีพยานฝั่งครูปรีชาจำนวน 3 ปาก ที่ได้กลับคำรับสารภาพและมาขอโทษกับลุงจรูญไปก่อนหน้านี้ เส้นทางเจ๊เกียว ยืนยันว่า เรื่องนี้เป็นสิทธิส่วนบุคคลที่ใครสามารถจะทำอะไรก็ได้ ส่วนตนเองพร้อมด้วยเจ๊พัดและเจ๊บ้าบิ่นยืนยันว่าที่ผ่านมา ได้ขึ้นให้การไปตามความเป็นจริง ไม่ได้มีการให้การเท็จอย่างที่ถูกกล่าวหาและพร้อมจะต่อสู้พิสูจน์ความจริงในชั้นศาลต่อไป

หลังจากนั้น นายปรีชา ใคร่ครวญ หรือ ครูปรีชา ได้เดินลงมาจากห้องพิจารณาคดี ด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส ก่อนจะตอบคำถามของสื่อมวลชน ถึงกรณีที่มีพยานในฝั่งของครูปรีชาจำนวน 3 ปาก กลับคำให้การยอมรับสารภาพและขอโทษต่อหน้าลุงจรูญ โดยครูปรีชากล่าวว่า เรื่องนี้เป็นสิทธิส่วนบุคคล ที่สามารถจะทำได้ แต่อย่างไรก็ตามทุกสิ่งในโลกนี้ล้วนเกิดขึ้นตั้งอยู่และดับไป ความจริงก็คือความจริง ซึ่งตนพร้อมด้วยพยานที่เหลือรวม 7 ปาก ได้ยื่นประกันตัวพร้อมยืนยันที่จะเดินหน้าต่อสู้คดีพิสูจน์ความจริงในชั้นศาลต่อไป

หลังจากนั้น นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม พร้อมด้วยลุงจรูญและภรรยา ได้เดินลงมาจากห้องพิจารณาคดีเป็นกลุ่มสุดท้าย ก่อนจะให้ข้อมูลกับสื่อมวลชนว่า ในวันนี้ที่ศาลนัดพร้อมสอบคำให้การ ในคดีที่ลุงจรูญฟ้องครูปรีชาพร้อมพวกรวมสิบปาก ในข้อหาเบิกความเท็จนั้น ได้มีพยานฟังครูปรีชาจำนวน 3 ราย ซึ่งเป็นแม่ค้าในตลาดเรดซิตี้ ที่ครูปรีชาอ้างว่าเป็นสถานที่เดินทางไปซื้อลอตเตอรี่ฉบับที่ถูกรางวัล ได้ออกมา กล่าวคำขอโทษ กับลุงจรูญ พร้อมยอมรับสารภาพว่าให้การเท็จ ซึ่งลุงจรูญก็ให้อภัย และได้ให้ตนเองทำเรื่องถอนฟ้องให้กับพยานทั้ง 3 ปากไปเรียบร้อยแล้ว โดยพยานทั้ง 3 ปากได้ลงนามในหนังสือ รับสารภาพเรียบร้อยแล้วด้วยเช่นกัน โดยนางวาสนา ซึ่งเป็นหนึ่งในพยานฝั่งครูปรีชาที่กลับคำรับสารภาพ ได้ให้ข้อมูลกับลุงจรูญว่า คดีที่ตนเองมีชื่อเป็นผู้ยื่นฟ้องลุงจรูญในข้อหาแจ้งความเท็จนั้น นางวาสนาเองไม่ได้รู้เรื่องดังกล่าว แต่เป็นเจ๊เกียวที่เอาเอกสารมาให้นางวาสนาเซ็นขณะนอนพักรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล ซึ่งนางวาสนาคิดว่าเป็นเอกสารสำหรับการเซ็นแต่งตั้งทนายสู้คดี แต่ไม่คิดว่าจะถูกนำไปใช้ในการยื่นฟ้องลุงจรูญแต่อย่างใด ซึ่งหลังจากนี้นางวาสนาก็จะได้ไปถอนฟ้องลุงจรูญต่อไป

ในส่วนของครูปรีชา พร้อมด้วยสารเจ๊แม่ค้าลอตเตอรี่ รวมถึงนายแผน และพยานรวมทั้งสิ้น 7 ปาก ยังคงยืนยันที่จะเดินหน้าต่อสู้คดี ซึ่งหากพูดถึงแนวทางในการต่อสู้คดีนั้น ตอนยืนยันว่าเรื่องนี้ไม่น่าหนักใจใดๆ เพราะในคดีหลัก ลุงจรูญก็ได้ต่อสู้จนชนะคดีมาเรียบร้อยแล้ว อีกทั้งในคดีก่อนหน้านี้ ที่ลุงจรูญเป็นโจเจี้ยนฟ้องครูปรีชา พร้อมด้วยเจ๊พัดและเจ๊บ้าบิ่น ในข้อหาร่วมกันเบิกความเท็จ ทั้ง 3 คนก็ให้การรับสารภาพไปก่อนหน้านี้แล้ว แต่เมื่อคิดจะมาต่อสู้คดีในชั้นนี้ ตนก็จะนำเอาคำรับสารภาพในคดีก่อนหน้านี้มาใช้และเชื่อว่าจะสามารถเอาผิดกับจำเลยทั้งหมดได้

ขณะที่ ลุงจรูญ เปิดใจกับสื่อมวลชนว่า วันนี้ในระหว่างอยู่ในห้องพิจารณาคดี ครูปรีชามีสีหน้าไม่สู้ดีนัก แล้วพยายามเข้ามาพูดคุยถึงเรื่องคดีกับตน แต่ตนก็ไม่ได้พูดด้วย ได้แต่รับฟังอย่างเดียว เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า หากครูปรีชารวมถึงจำเลยที่เหลือมากล่าวคำขอโทษกับลุงจรูญจะสามารถให้อภัยได้หรือไม่ ซึ่งเรื่องนี้ ลุงจรูญยืนยันว่าจะมาขอโทษในตอนนี้ก็ช้าไปแล้ว เพราะที่ผ่านมาจนเคยให้โอกาสแล้วหลายครั้ง แต่ทางฝั่งครูปรีชาและจำเลยที่เหลือก็ไม่เคยใช้โอกาสดังกล่าว กลับทำให้ตนต้องต่อสู้คดีมายาวนาน กว่า 7 ปี จากนี้ก็จะขอเดินหน้า ดำเนินคดีกับจำเลยที่เหลือให้ถึงที่สุด