สังคม

โวยแม่ลูก ค้างค่าเช่าบ้าน กองขยะเน่าเหม็นเต็มบ้าน ซ้ำไม่จ่ายค่าไฟ 1.3 หมื่น

โดย thichaphat_d

6 ส.ค. 2567

184 views

ผบ.เรือนจำและภรรยา เปิดบ้านเช่าถูกผู้เช่าย้ายหนีค้างค่าไฟ 1.3 หมื่น ไม่พอทรัพย์สินเสียหาย พบกองขยะเน่าเหม็นกองเต็มบ้าน หนีหายติดต่อไม่ได้

จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊ก เอเจ้นท์สาวรายหนึ่งได้โพสต์ภาพบ้านเช่าหลังหนึ่งได้ถูกผู้เช่าค้างค่าไฟเป็นจำนวนเงินสดกว่า 13,000 บาท แล้วย้ายหนีออกไป โดยสภาพบ้านเต็มไปด้วยกองขยะ ตั้งแต่หน้าประตูรั้ว จนถึงในบ้านชั้น 1 และชั้น 2 มีเศษอาหารกองขยะมีหนอนขึ้น และยังมีชุดชั้นในกางเกงในกองอยู่รวมกันอีกด้วย ทั้งนี้ยังพบอ่างล้างมือแตกชำรุดในห้องน้ำชั้น 2 ของบ้าน


โดยเจ้าของพยายามติดต่อผู้เช่า แต่ถูกบล็อกไม่สามารถติดต่อได้  โดยโพสต์ระบุข้อความว่า “ฝากเจ้าของบ้านระวังผู้เช่ารายนี้ด้วยนะคะ หากใครต้องการข้อมูลทักแชทได้เลยค่ะ ผู้เช่าค้างค่าไฟ 10,000 กว่าบาท ย้ายออกโดยไม่แจ้งแจ้งเป็นข้อมูลเพื่อให้เจ้าของและเอเจ้นบ้านอื่นระวังกันค่ะ ”

ล่าสุดวันนี้เวลา 18.00 น.วันที่ 5 ส.ค.67 ทีมข่าวได้ลงพื้นที่ไปยังหมู่บ้านดังกล่าวตั้งอยู่ ต.บางไผ่ อ.เมือง จ.นนทบุรี เข้าพบนายศุภโชค ควรฦาชัย ผู้บัญชาการเรือนจำกลางเขาบิน และภรรยานางขวัญฤดี ควรฦาชัย เจ้าของบ้านหลังดังกล่าว ได้พาผู้สื่อข่าวเดินดูภายในบ้านบริเวณชั้น 1 และชั้น 2 ที่ทางผู้เช่าได้ทิ้งเศษขยะเน่าเหม็น และสิ่งของเอาไว้ไม่ยอมขนย้าย แต่ปรากฏว่าทางเจ้าของได้จ้างแม่บ้านออนไลน์มาทำความสะอาด เป็นที่เรียบร้อย โดยนำของที่ผู้เช่าทิ้งไว้ใส่ถุงขยะกองรวมเป็นภูเขาอยู่บริเวณหน้าบ้าน


นางขวัญฤดี เปิดเผยว่า ทางผู้เช่านั้นมาขอเช่าบ้านกับตนในช่วงเดือนมีนาคม 2567 โดยมีการบอกกับตนว่าได้ย้ายออกมาจากบ้านเอื้ออาทร เพราะว่ามีการก่อสร้างอยู่ และผู้มาขอเช่านั้นมีลูกเล็ก ตนจึงเห็นว่าผู้เช่านั้นดูเป็นคนเรียบร้อยและสะอาดจึงได้ให้เช่าไป ในเดือนแรกนั้นผู้เช่าได้แจ้งกับตนว่าอ่างล้างมือแตก ตนจึงให้ผู้เช่าเปลี่ยนแล้วแจ้งตนมาแต่ก็เงียบหายไป จนมาถึงเดือนนี้ซึ่งถึงครบกำหนดที่ผู้เช่านั้นต้องจ่ายค่าเช่าให้ตน แต่ผู้เช่าหายไปติดต่อไม่ได้  

ตนจึงได้เข้าไปดูในไลน์กรุ๊ปที่ได้สร้างไว้มีทั้งเอเจ้นท์และผู้เช่าอยู่รวมถึงตนด้วย ถึงได้เห็นว่าผู้เช่ามีการกดออกจากกลุ่มในไลน์ไป ตนจึงรู้สึกว่าผิดสังเกตจึงได้มีการเข้าไปเช็คค่าไฟในบ้านของที่ตนให้เช่าไปปรากฏว่ามีการค้างค่าไฟอยู่เป็นเงิน 13,000 บาท หลังจากนั้นในวันที่ 4 ส.ค.67 ตนได้พยายามเข้ามาดูบ้านแต่เห็นบ้านถูกล็อกไว้และไฟปิดสนิท เลยไม่ได้เข้ามาดูในบ้าน วันนี้ช่วงเช้าตนจึงได้เข้ามาดูในบ้านปรากฏว่า ทุกพื้นที่ในบ้านมีแต่ขยะและได้ส่งกลิ่นเน่าเหม็น มีหนอนชอนไช และท่อน้ำตันจนเกิดการเอ่อล้นลงมาข้างล่างทำให้น้ำขังและเน่าเหม็น ผู้เช่าได้มาเช่าบ้านกับตนเป็นระยะเวลา 5 เดือน ที่ผ่านมายังไม่เคยมีปัญหาการค้างค่าเช่าบ้าน ตนจึงไม่ผิดสังเกตอะไรเพราะตนเห็นว่าครอบครัวนี้เรียบร้อยดี ดูไม่น่ามีปัญหาอะไร ตนจึงไม่เคยเข้ามายุ่งวุ่นวายที่บ้านเลย


แต่พอตนได้มาเห็นสภาพบ้านจึงตกใจว่าสิ่งที่ตนมองนั้นไม่ใช่อย่างที่ตนคิดเลย ตนไม่ทราบว่าผู้เช่ามีการย้ายออกไปตอนไหน ตนมาทราบก็ตอนที่ผู้เช่านั้นได้ออกจากไลน์กลุ่มบ้าน ไม่ได้จ่ายค่าไฟและการไฟฟ้ามีการตัดไฟ ผู้เช่านั้นค้างค่าไฟเป็นเงิน 13,000 บาทและค่าน้ำ 500 บาท  หลังจากที่เกิดเรื่องตน รู้สึกว่าเรื่องนี้ไม่น่าจะเกิดขึ้นกับตนเองเพราะก็เคยเห็นในข่าวมาบ้าง เพราะว่าตนนั้นก็คัดกรองผู้เช่าอย่างดี เห็นหน้าค่าตาคิดว่าจะเป็นคนเรียบร้อยสะอาด และเห็นว่ามีลูกเล็กด้วย ตนจึงไม่ได้คิดว่าผู้เช่านั้นจะมีสภาพการเป็นอยู่แบบนี้ ตอนเข้าบ้านตนได้ทำสัญญาเป็นระยะเวลา 1 ปี และมีค่ามัดจำบ้านไว้แต่ค่าเสียหายมันเกินกับค่ามัดจำบ้านแล้ว และรวมถึงค่าไฟด้วย ตนต้องมีการรีโนเวทใหม่ ห้องน้ำมีการขึ้นรา ต้องทาสีใหม่ และท่อน้ำข้างหลัง ที่น้ำขังจนเป็นคราบและขัดออกไม่ได้ ตนประเมินค่าเสียหายไว้น่าจะไม่ต่ำกว่า 100,000 บาท

ด้านนายศุภโชค กล่าวว่า เรื่องนี้ตนอยากให้เป็นตัวอย่างกับสังคมว่าคนเราสามารถพูดคุยกันได้ การเช่าบ้านผมกับภรรยาและครอบครัวตน ได้ให้เช่าบ้านมาตั้งแต่รุ่นคุณแม่แล้ว เพราะฉะนั้นการที่ทำแบบนี้ได้คือคุณไม่รับผิดชอบ ต่อสังคมและไม่รับผิดชอบต่อตนเอง จะทำให้เป็นการติดนิสัย เค้าอาจจะไปทำอย่างนี้กับเจ้าของบ้านรายอื่นอีก ซึ่งตนนั้นอยากให้เคสนี้เป็นตัวอย่างของสังคม อยากให้เห็นใจคนที่ปล่อยเช่าด้วยอย่างเช่นตนและภรรยาตน เพราะตนรีโนเวทบ้านหลังนี้มาก็เป็นเงินหลายแสนบาท ตนจึงอยากฝากให้ทางผู้เช่าช่วยกันดูแลรักษา แต่สุดท้ายนี้ถ้าผู้เช่าได้ดูอยู่ตนอยากฝากบอกว่า “การพูดคุยกันดีมันดีกว่าหนีปัญหา คนเรามันไม่สามารถหนีปัญหาไปได้ตลอด เปรียบเสมือนกับผู้ต้องขังในเรือนจำ หากหนียังไงก็หนีไม่พ้นต้องถูกจับอยู่ดี อย่างไรก็ตามตอนนี้ตนยังให้โอกาสที่จะติดต่อให้กลับเข้ามาพูดคุยกัน หากนิ่งเฉยก็ต้องดำเนิดการตามขั้นตอนกฏหมายต่อไป


ด้าน น.ส.ตุ่ม แม่บ้านที่มาทำความสะอาด กล่าวว่า ตอนที่ตนเข้ามาเห็นสภาพบ้าน รู้สึกว่าสภาพเหมือนกองขยะเพราะมีทั้งหนอนและกลิ่นเน่าเหม็น ขนาดตนนั้นเป็นแม่บ้านที่ไปทำความสะอาดมานานกว่า 17 ปี หลังนี้เป็นหลังแรกที่สภาพแย่แบบนี้ ตนรู้สึกสงสารเจ้าของบ้านมาก ขยะเต็มบ้านและมีหนอนชอนไชเต็มไปหมด เสื้อชุดชั้นในกระจุยกระจาย ขยะกองตั้งแต่หน้าบ้านจนเข้าไปในบ้านเกลื่อน มีขยะทุกห้อง และไม่มีการเก็บของอะไรให้เจ้าของบ้านเลย ขยะทุกชิ้นเหมือนกับผู้เช่าไม่ได้มีการเอานำขยะออกไปทิ้งข้างนอก แต่ทิ้งไว้ในบ้านเลย  

ต่อมาผู้สื่อข่าวได้ติดต่อสอบถามด้านกฎหมาย ไปยังนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานมูลนิธิรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม เปิดเผยว่า  กรณีนี้น่าเห็นใจเจ้าของหอพักและบ้านเช่าที่จะเจอลูกค้าแบบนี้ ในทางกฎหมายการเช่าอยู่แบบนี้คือสัญญาเช่า ในสัญญาเช่าก็จะมีเขียนภาระหน้าที่ของผู้เช่าและผู้ให้เช่าอยู่แล้ว ผู้เช่าก็มีหน้าที่ดูแลรักษาทรัพย์สินของผู้ให้เช่า ใช้งานตามสมควร ใช้งานตามการใช้สอยปกติ ในระหว่างการเช่าถ้ามีทรัพย์สินเสียหาย โดยไม่ได้เกิดจากการใช้ปกติถือได้ว่าผู้เช่านั้นละเมิดสิทธิและผิดกฎสัญญาเช่ากับเจ้าของบ้าน ถึงแม้ว่าผู้ให้เช่าจะได้ทำการย้ายแบบไม่แจ้ง และยังค้างค่าไฟอยู่


เจ้าของบ้านสามารถใช้สิทธิ์ทางศาลในการเรียกค่าเสียหายได้ 1.ค่าเช่าที่ค้าง 2.ค่าซ่อมบ้าน 3.ค่าน้ำ-ค่าไฟที่ต้องชำระ นอกจากนี้ในระยะเวลาที่รีโนเวทบ้านหรือว่าซ่อมบำรุง ยังหาผู้เช่าใหม่ไม่ได้ในช่วงที่ขาดประโยชน์ จากการต้องซ่อมก็ยังสามารถเรียกค่าเสียหาย จากคนเช่าบ้านได้อีก ถึงผู้เช่าถ้าได้ดูคลิปนี้ตนก็อยากให้เข้าใจ ที่เรายังไม่โดนตำรวจจับ เพราะเป็นเรื่องผิดสัญญาทางแพ่ง แต่ไม่ได้หมายความว่าเราจะไม่ต้องชดใช้ค่าเสียหาย หรือกระทั่งค่าเช่าและค่าไฟที่เกิดขึ้น ถ้าเจ้าของบ้านเกิดการฟ้องขึ้นมาเราก็ต้องรับผิดชอบในสัญญาเช่า อยู่แบบไหนใช้แบบนั้นถ้าเราทำของเค้าเสียหายยังไงเราก็ต้องจ่ายเพราะมันเป็นหน้าที่ของพลเมืองที่ดี

คุณอาจสนใจ