สังคม

'ทนายเดชา' งัดหลักฐานโชว์ 'หมอเกศ' จบป.เอกจริง แค่ในไทยยังไม่รับรอง

โดย chawalwit_m

12 ก.ค. 2567

1.6K views

วันนี้ 12 ก.ค.67 ที่สำนักงานทนายคลายทุกข์ นาย เดชา กิตติวิทยานันท์ หรือ ทนายเดชา ประธานเครือข่ายทนายคลายทุกข์ พร้อมด้วย ผศ.ดร.สุขุมพงศ์ ชาญนุวงศ์ อุปนายกสมาคมนิติธรรมหรรษา (ประเทศไทย) ในฐานะอาจารย์ที่ปรึกษาของ น.ส.เกศกมล เปลี่ยนสมัย หรือ หมอเกศ สมาชิกวุฒิสภา (สว.) สมัยเรียนปริญญาโท และ ดร.ณัฐวัชร จันทโรธรณ์ อดีตผู้สมัครสว. ซึ่งเป็นที่ปรึกษาของหมอเกศ ร่วมกันแถลงข่าว ถึงกรณีที่มีดรามาวุฒิการศึกษาของหมอเกศ ที่อ้างว่าได้จากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา เป็น วุฒิการศึกษาปลอมหรือไม่

โดยการแถลงข่าวในวันนี้ ผศ.ดร.สุขุมพงศ์ได้แสดงหนังสือจดทะเบียน California University ที่ได้รับการรับรองจาก กระทรวงศึกษาธิการ ในสหรัฐฯ ซึ่งเป็นสถาบันประเมินวุฒิการศึกษา เพื่อจะมอบปริญญาตรี โท เอก เทียบเท่าปริญญาของสหรัฐอเมริกา และมอบตำแหน่งทางวิชาการให้ด้วย


ฉะนั้น ประเด็นที่บอกว่าว่ามหาวิทยาลัยไม่ได้จดทะเบียนนั้นไม่เป็นความจริง และมหาวิทยาลัยนี้ไม่ได้ตั้งอยู่ประเทศฟิลิปปินส์  แต่อยู่ที่สหรัฐอเมริกา อย่างที่กล่าวไปว่า สถาบันนี้ได้รับการรับรองตรงโดยกระทรวงศึกษาธิการ สหรัฐอเมริกา แต่ถึงอย่างั้น ก็ไม่ได้ผ่านสมาคมการศึกษาในสหรัฐฯ จึงทำให้ถ้าหากไปค้นก็จะไม่เจอ เพราะค้นหาไม่ตรงจุดและต้องไปค้นในกระทรวงศึกษาธิการของสหรัฐอเมริกา

ผศ.ดร.สุขุมพงศ์ ยังกล่าวต่อว่า มหาวิทยาลัย แห่งนี้ก่อตั้งมา 22 ปีแล้ว ถ้าหากมีการทำผิดกฎหมายจริงป่านนี้คงถูกสั่งปิดไปแล้ว และจะเห็นได้ว่าหน้าเว็บไซต์ของมหาวิทยาลัยก็ได้ประกาศชัดเจนว่ารับรองโดยกระทรวงศึกษาธิการของสหรัฐฯ ซึ่งสหรัฐอเมริกาเป็นประเทศที่เจริญแล้ว ไม่สามารถเขียนคำนี้ได้ ไม่เช่นนั้นก็จะถูกสั่งปิดได้ ถ้าไม่ดำเนินการถูกต้องตามกฎหมาย

รวมทั้งมีหนังสือรับรองความถูกต้องทางกฎหมายในการออกใบปริญญาบัตรให้ทุกคน รวมถึงหมอเกศด้วย ซึ่งลงนามโดยเทศมณฑลนครรัฐลอสแองเจลีส และให้กระทรวงต่างประเทศทับตรา จึงจะนำไปใช้อ้างอิงได้

ผศ.ดร.สุขุมพงศ์ ได้กล่าวต่อว่า ปริญญาของหมอเกศ ที่ด้านหลังปริญญาบัตรจะมีการประทับตราจากรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐฯ และรัฐแคลิฟอเนีย ซึ่งนั่นหมายความว่า ปริญญาฉบับนี้จะสามารถใช้ได้ทั่วโลกนั่นเอง

นอกจากนี้ ผศ.ดร.สุขุมพงศ์  ยังได้เปิดเผยอีกว่า ตนเคยเป็นอาจารย์ที่ให้คำปรึกษาเรื่องการทำวิจัยของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ และเคยทำเอกสารยืนยัน และชี้แจงถึงความถูกต้องของสถาบันต่อนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภาในขณะนั้น เนื่องจากมีการอภิปรายพาดพิงถึงตน และสถาบัน รวมถึงชี้แจงต่อคณะกรรมาธิการ ป.ป.ช. ของ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส เป็นประธานในสมัยนั้น และมีการบินไปสำรวจมหาวิทยาลัย ที่สหรัฐอเมริกา จนที่สุดยุติเรื่อง และ ไม่มีการสอบต่อ ส่วนประธานอนุรรมการท่านอนุดิษฐ์ นาครทัพ แจ้งว่าเข้าใจตามที่อาจารย์ชี้แจง และขอยกเลิกคณะกรรมการ ไม่ต้องมีการสอบต่อเรื่องคุณวุฒิ

ผศ.ดร.สุขุมพงศ์  กล่าวต่ออีกว่า สำหรับมหาลัยแห่งนี้ ถ้านักศึกษาที่จบปริญญาตรี ปริญญาโท สามารถทำรายงานส่งเทียบรายวิชา และทำงานวิจัยเพื่อไปเทียบได้ ซึ่งทางมหาลัยก็จะดูว่าวิชาไหนบ้างที่จะเทียบได้ อันไหนที่ไม่เข้ากันก็ให้ทำรายงานส่ง และทำวิจัยตีพิมพ์ เพื่อออกปริญญาเป็นของตัวเองได้

ซึ่งคุณหมอเกศก็ได้ทำรายงานวิจัยตีพิมพ์เพื่อที่จะเทียบ โดยยื่นคำร้องเพื่อขอรับปริญญา แล้วทางมหาลัยก็ได้กำหนดมา แต่ไม่ได้เอาวุฒิที่จบในไทยไปขอเทียบ ทางมหาวิทยาลัยเขาก็เลยให้นักศึกษาทำรายงานส่ง เพื่อเทียบรายวิชา และทำวิจัยเพื่อเทียบวุฒิ คุณหมอทำวิจัยร่วมกับคนอื่นด้วย และมีที่ทำเดี่ยเช่นกัน แต่มีงานวิจัยตีพิมพ์ต่อเนื่อง ไม่ได้ตีพิมพ์เพื่อขอจบปริญญา ส่วนที่มีการค้นหาผลงานต่อไม่เจอเป็นเพราะมีปัญหาทางเว็บไต์นั่นเอง

หลังจากนั้นผู้สื่อข่าวก็ได้ถามว่า งานวิจัย ไม่จำเป็นต้องเดินทางไปที่สถาบันหรือเรียนออนไลน์ใช่หรือไม่ ผศ.ดร.สุขุมพงศ์  กล่าวว่า สถาบันนี้เป็นลักษณะการเทียบประเมิน ไม่จำเป็นต้องเดินทางไป

ซึ่งหลังจากนั้นทางผู้สื่อข่าวก็ได้ค้นหางานของหมอเกศ ซึ่งก็พบว่าเป็นงานวิจัยเดี่ยวที่ตีพิมพ์ในนิตยสารสกอร์พลัส เรื่อง แนวคิดในการพัฒนาองค์กรของรรัฐไทยในระบบโลกยุคใหม่

ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า จากข้อมูลบอกว่า แคลิฟอเนียร์ ยูนิเวอร์ซิตี้ ไม่ได้จดทะเบียนเป็นมหาวิทยาลัย แต่จดเป็นแค่เกรด 9-12 จึงไม่ใช่มหาวิทยาลัย แล้วกระทรวงศึกษาธิการของอเมริกาเคยออกคำสั่งห้ามไม่ให้ใช้คำว่า ยูนิเวอร์ซิตี้ ตรงนี้มั่นใจได้อย่างไรว่าข้อมูลหลักฐานที่เรายื่นถูกต้อง จะไม่มีผลตามมา

เมื่อถูกถามว่าหมอเกศทำวิทยานิพนธ์เรื่องอะไร ผศ.ดร.สุขุมพงศ์ กล่าวว่า มีเรื่องธรรมาภิบาลที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพองค์การ มีรูปเล่มแต่ไม่ได้นำมาด้วย ซึ่งบางบทความก็ทำมาหลายปีแล้ว

ส่วนประเด็นเรื่องของค่าใช้จ่าย รวมถึงค่าเทอมนั้น ผศ.ดร.สุขุมพงศ์ กล่าวว่า ทางมหาลัยเป็นระบบการเทียบโอน การทำงานวิจัยตีพิมพ์ก็จะมีค่าใช้จ่าย เป็นการเทียบโอนและทำรายงานส่ง เป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินการ ตรงนั้นถือว่าเป็นเรื่องส่วนตัว

ผศ.ดร.สุขุมพงศ์ กล่าวต่ออีกว่าการใช้ ศาสตราจารย์นำหน้าชื่อนั้น เชื่อว่าหมอเกศใช้ได้ เพราะไม่มีกฎหมายข้อใดบังคับตายตัวว่าตำแหน่งทางวิชาการต้องได้ในประเทศไทยเท่านั้น

ส่วนทางด้านทนายเดชา กล่าวเพิ่มเติมว่า ได้มีการคุยกับหมอเกศ และ ผศ.ดร.สุขุมพงศ์แล่้ว  ซึ่งตนพบว่า ไม่มีอะไรที่เป็นเอกสารเท็จ เป็นเอกสารจริงหมด ส่วนใครที่มองว่าเป็นเท็จก็ขอให้ไปพิสูจน์กันในชั้นศาล  และตอนนี้หมอเกศแจ้งว่า จะดำเนินคดีกับผู้รู้ 2 คน  และเป็นพวกหิวแสง 1 คน รวม 3 คน

คุณอาจสนใจ

Related News