สังคม
ผู้ปกครองไม่ทน! รร.ปิดข่าวเงียบ ไร้มาตรการจัดการ หลังคนร้ายบุกเข้าไปล่วงละเมิดเด็กถึงในห้องเรียน
โดย panisa_p
9 ก.ค. 2567
446 views
วันที่ 9 กรกฎาคม 2567 ที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ประถมศึกษาชุมพร เขต 1 ได้มีตัวแทนผู้ปกครองกว่า 20 คน เข้าร้องเรียนต่อนายศักดิ์สิทธิ์ แร่ทอง ผอ.เขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาชุมพร เขต 1 โดยตัวแทนผู้ปกครองได้ยื่นหนังสือข้อเรียนร้องจำนวน 12 ข้อ เกี่ยวกับการบริหารงานของผู้บริหารโรงเรียนแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นโรงเรียนประจำจังหวัด ที่ไม่โปร่งใส มีการลิดรอนสิทธิของนักเรียน ส่งผลกระทบต่อการเรียนรู้ทางวิชาการ การพัฒนาศักยภาพทางการศึกษาของนักเรียน โดยเจ้าหน้าที่ได้เชิญตัวแทนผู้ปกครองทั้งหมดเข้าไปพบพูดคุยถึงปัญหาและยื่นหนังสือร้องเรียนดังกล่าวภายในห้องประชุมชั้น 3
หนึ่งในตัวแทนผู้ปกครองกล่าวว่า ปัญหาที่พวกตนมาร้องเรียนในวันนี้ที่ต้องพูดเป็นเรื่องแรก คือ ความปลอดภัยในสถานศึกษา ซึ่งถือว่าเป็นเป็นเซฟโซน แต่ปรากฏว่าเมื่อ 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา มีเด็กนักเรียนอนุบาลถูกล่วงละเมิดทางเพศ มีคนร้ายเข้าไปกระทำชำเราเด็กภายในโรงเรียน เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นผู้ปกครองไปแจ้งความไว้ที่ สภ.เมืองชุมพรแล้ว แต่ปรากฏว่าผู้บริหารโรงเรียนปิดข่าวเงียบ ไม่มีการแก้ไขหรือป้องกันปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นอีก
ขณะที่ผู้ปกครองต้องการให้ผู้บริหารโรงเรียนได้ประชุมร่วมกับผู้ปกครอง และหน่วยงานเกี่ยวข้อง เพื่อหามาตรการป้องกัน แต่ผู้บริหารโรงเรียนไม่สนใจและปิดข่าวเงียบกลัวจะเสียชื่อเสียง ทำให้ผู้ปกครองมองว่าไม่มีมาตรการป้องกันความปลอดภัย กลัวว่าจะเกิดขึ้นอีก เรื่องนี้ถือว่าเป็นเรื่องที่ร้ายแรงมาก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างรับฟังปัญหากรณีดังกล่าว นายศักดิ์สิทธิ์ แร่ทอง ผอ.เขตพื้นที่การศึกษา ประถมศึกษาชุมพร เขต 1 ถึงกับอุทานด้วยความตกใจว่า เกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้นได้อย่างไร และเกิดมานานถึง 1 สัปดาห์แล้ว ทำไมตนจึงไม่รู้ ไม่มีใครรายงานให้ตนทราบ ทั้งๆ ที่เป็นเรื่องร้ายแรง และเป็นนโยบายสำคัญเกี่ยวกับความปลอดภัยในโรงเรียน
สำหรับข้อร้องเรียนทั้ง 12 เรื่อง ที่ผู้ปกครองยื่นต่อ ผอ.เขตพื้นที่การศึกษา ประถมศึกษาชุมพร เขต 1 อาทิเรื่องปัญหาคอมพิวเตอร์ในห้องนักเรียนห้อง MEP โดยมีคอมพิวเตอร์เก่าใช้งานมานานกว่า 10 ปี แต่ไม่สามารถใช้งานได้ตั้งแต่ปีที่แล้ว จำนวน 5 เครื่อง ซึ่งในห้องมีนักเรียน 30 คน ครู 1 คน ต้องการใช้คอมพิวเตอร์ทั้งหมด 31 เครื่อง แต่มีเครื่องคอมพิวเตอร์ใช้อยู่เพียง 25 เครื่อง นักเรียนจึงไม่สามารถเรียนรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เรื่องการทุบรื้อเปลี่ยนห้องน้ำชาย จากที่เป็นชักโครกมาเป็นแบบส้วมซึม และเหลือห้องน้ำผู้หญิงไว้เพียง 3 ห้อง ซึ่งมีไม่เพียงพอ ทำให้เด็กจำนวนหนึ่งที่ไม่ถนัดการใช้ส้วมซึมและห้องน้ำไม่เพียงพอ จึงต้องอั้นปัสสาวะ อุจจาระ รอจนกว่าผู้ปกครองจะไปรับ ทั้งๆ ที่โลกเจริญก้าวหน้าไปไกลแล้วแต่โรงเรียนกลับล้าหลังใช้ส้วมซึม
นอกจากนั้นยังตัดกิจกรรมต่างๆ ของนักเรียนโครงการ MEP โครงการ English เข้าแคมป์เรียนรู้เสริมทักษะ ตัดกิจกรรมโครงการพาเด็กเข้าวัดไปค่ายคุณธรรมที่วัดแบบไปเช้ากลับเย็น ในระดับ ป.1 และ ป.2 โดยให้เหตุผลว่าเด็ก ๆ ยังเล็กเกินไป ส่วนเด็ก ป.3 ป.4 จากเคยเข้าค่ายนอนวัด 3 วัน 2 คืน ปฏิบัติธรรม นั่งสมาธิ ก็เปลี่ยนเป็นไปเช้ากลับเย็น การสับเปลี่ยนครูชำนาญการของโครงการ MEP การลดคาบเรียนวิชาภาษาอังกฤษ การเปลี่ยนกระเป๋านักเรียนใหม่ต้องมาใช้ที่มีโลโก้ของโรงเรียนที่มีคุณภาพต่ำ ต้องเปลี่ยนเทอมละ 1-2 ใบ สิ้นเปลืองค่าใช้จ่าย และการปิดห้องซ้อมดนตรีไทย
นายศักดิ์สิทธิ์ แร่ทอง ผอ.เขตพื้นที่การศึกษา ประถมศึกษาชุมพร เขต 1 กล่าวว่า ตามที่ผู้ปกครองร้องเรียนตนเข้าใจดี เพราะบางอย่างเป็นเรื่องของความรู้สึก บางอย่างเป็นเรื่องข้อเท็จจริง และบางอย่างเป็นทั้งข้อเท็จจริงและความรู้สึก ตนจึงขอเวลาตรวจสอบข้อเท็จจริงและต้องให้ผู้บริหารของโรงเรียนได้ชี้แจงด้วย ซึ่งจะสรุปและให้คำตอบกับผู้ปกครองได้
นายศักดิ์สิทธิ์ กล่าวว่ากรณีเด็กนักเรียนถูกล่วงละเมิดการทำชำเราภายในโรงเรียนตั้งแต่เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมานั้น ตนยังไม่รู้เรื่องมาก่อน และรู้สึกตกใจมา ซึ่งยังไม่มีใครรายงานมาให้ตนทราบ ผู้ปกครองมีการแจ้งความดำเนินคดีแล้ว เรื่องนี้ถือว่าเป็นเรื่องร้ายแรงมาก ซึ่งหลังจากนี้ตนจะขอลงพื้นที่ไปตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อนว่าเกิดขึ้นได้อย่างไรและทำไมตนจึงไม่ได้รับรายงาน
แท็กที่เกี่ยวข้อง โรงเรียน ,ล่วงละเมิดเด็ก ,ผู้ปกครอง