จับสึกแล้ว หลวงพี่อ้างเป็นพระผู้ใหญ่ ทักแชทเลือกซื้อบริการหนุ่ม นัดมานวดในกุฏิ

ตามที่พระณัชวัจน์ ชัยสินเดชาวัฒน์ หรือพระดรีม อ้างตัวเป็นพระผู้ใหญ่ อยู่วัดแห่งหนึ่ง จ.ร้อยเอ็ด เดิมเคยอยู่ วัดแห่งหนึ่ง อ.เมืองสุพรรณบุรี มีพฤตกรรมไม่ดี เจ้าอาวาสจึงให้ออกจากวัดไป กระทั่ง ไปอยู่ ที่ จ.ร้อยเอ็ด และอ้างตัวเป็นพระผู้ใหญ่ จนกระทั่งมีโปรไฟล์เฟสบุ๊คออกมา ลักษณะทักแซตซื้อบริการหนุ่มมานวดตามลำพังในกฏิและได้ย้ายมาอยู่วัดแห่งหนึ่ง อ.เดิมบางนางบวช จ.สุพรรณบุรี


กระทั่งพระสุพรรณวชิราภรณ์ เจ้าคณะจังหวัดสุพรรณบุรี เจ้าอาวาสวัดดอนเจดีย์อำเภอดอนเจดีย์ จังหวัดสุพรรณบุรี ทราบเรื่อง จึงได้สั่งเจ้าคณะอำเภอ เจ้าคณะตำบล ทั้งจังหวัดสุพรรณบุรี หากมีพระณัชวัจน์ ชัยสินเดชาวัฒน์ หรือพระดรีม มาขออยู่ที่วัดใด ให้ปฏิเสธ จนต่อมาทราบว่าพระดรีม ได้มาอยู่ มาอยู่วัดแห่งหนึ่ง อ.เดิมบางนางบวช จ.สุพรรณบุรี โดยทางคณะกรรมวัดไม่ทราบพฤติกรรมที่ทำตัวเสื่อมเสียของพระดรีม เลยให้อยู่วัดนี้ จนล่าสุดเจ้าคณะจังหวัดสุพรรณบุรี ทราบเรื่อง จึงติดต่อให้มีทำการลาสิกขา สึกจากการเป็นพระภิกษุสงฆ์


โดยพระสุพรรณวชิราภรณ์ เจ้าคณะจังหวัดสุพรรณบุรี เจ้าอาวาสวัดดอนเจดีย์ อำเภอดอนเจดีย์ จังหวัดสุพรรณบุรี เปิดเผยว่า หลังทราบเรื่องว่าพระณัชวัจน์ ชัยสินเดชาวัฒน์ หรือพระดรีม ทำเรื่องเสื่อมเสียหายแก่พระพุทธศาสนา ในพื้นที่ ภาคอิสาน แล้วพระดรีม และได้เข้ามาอยู่ที่วัดในพื้นที่ อ.เดิมบางนางบวช จ.สุพรรณบุรี จึงได้ติดต่อให้พระดรีม เข้ามาทำการสึก ลาสิกขาจากการเป็นพระ โดยพระณัชวัจน์ ชัยสินเดชาวัฒน์ หรือพระดรีม ได้เข้ามาพบ พระสุพรรณวชิราภรณ์ เจ้าคณะจังหวัดสุพรรณบุรี ที่วัดป่าเลไลยก์วรวิหาร อ.เมืองสุพรรณบุรี ซึ่งเจ้าคณะจังหวัดสุพรรณบุรี จึงได้ทำการสึกให้พระดรีม จากนั้นอดีตพระดรีม ได้ออกจากวัดป่าเลไลยก์วรวิหาร ไม่มีไครทราบว่า อดีตพระดรีม เดินทางไปอยู่ที่ไหน


พระสุพรรณวชิราภรณ์ เจ้าคณะจังหวัดสุพรรณบุรี เจ้าอาวาสวัดดอนเจดีย์ อำเภอดอนเจดีย์ จังหวัดสุพรรณบุรี เปิดเผยว่า ก็ในฐานะเป็นเจ้าคณะผู้ปกครอง ทราบว่ามีประเด็นนี้ตั้งแต่เมื่อเย็นวานที่มีเพจหนึ่งนำเอาข้อมูลไป เผยแพร่เพื่อ ให้ช่วยกันดูแลปัญหาบางอย่างในทางคณะสงฆ์ตรงนี้ อาตมาก็ยอมรับก็ได้ติดต่อให้เขามาพบก็ได้สอบถามเกี่ยวกับประเด็นที่เป็นข่าวตามภาพท่านก็ยอมรับ ว่ามันเป็นข้อมูลของท่านจริงประเด็นเกี่ยวกับเรื่องการมีภาพหรือพัดยศฐานานุกรมท่านยืนยันว่าเพราะว่าถูกหลอกมีพวกแก๊งมิจฉาชีพ มาเสนอให้ท่านรับและท่านก็ด้วยความที่ไม่รู้เรื่องพวกนี้ ซึ่งก็รับไป ก็เป็นภาพที่เกิดขึ้นนานแล้วไม่ได้เพิ่งเกิด


ส่วนประเด็นที่มี การแชทข้อความก็ท่านก็บอกว่าเป็นพวกที่อยู่ในเฟซติดต่อเข้ามาแล้วท่านก็ไม่ได้ใช้คือไม่ได้พบกัน เป็นการพูดคุย ก็ยุติบทสนทนาอยู่แค่นั้น ไม่มีการต่อจากนั้นอันนี้คือข้อมูลที่ท่านให้แต่ถึงที่สุดแล้วท่านก็ยอมรับว่าเมื่อทำให้ภาพลักษณ์ของคณะสงฆ์เสียหายท่านก็ยินดีที่จะลาสิกขา ก็ลาสิกขาแล้ว กระผม อาตมภาพพระสุพรรณวชิราภรณ์เจ้าคณะจังหวัดสุพรรณบุรี ให้คำรับรองว่าก่อนที่จะให้สัมภาษณ์เนี่ยทำการลาสิกขาให้กับรูปนั้นด้วยตนเองคือตอนนี้ท่านเป็นฆราวาสแล้วส่วนท่านจะไป อยู่ที่ไหนอย่างไรต่อไปอันนี้ก็ไม่ทราบ


เนื่องจากว่ากรณีนี้เนี่ยอาตมาเห็นภาพจากเพจหนึ่งตั้งแต่เย็นวานแล้ว แล้วก็ติดตามเกาะติดมาตลอดเบื้องต้นจะเจริญพรหรือเรียนพระเถระให้ทราบว่ามันไม่ใช่ปัญหาที่เกิดขึ้นในสุพรรณมาแต่เดิมนั่นคือไม่ใช่หมายความว่าพระรูปเนี่ย อยู่ในสุพรรณมาตลอด ท่านเคยมาอยู่ตั้งแต่ปีสองปีก่อนแล้วก็ท่านก็ออกไป ทราบว่าไปอยู่จังหวัดอื่นแล้วก็มีปัญหาที่จังหวัดนั้นด้วยเหตุใดอันเนี่ยก็ไม่ทราบ จึงเป็นที่มาของภาพที่มีข้อความ ไปถึงเลขาเจ้าคณะอำเภอว่าถ้าพระรูปนี้จะเข้าเขตสุพรรณเนี่ยไม่ให้รับ เสร็จแล้วหลังจากส่งภาพนั้นออกไปเมื่อ 29 พฤษภาคม อีกไม่นานท่านก็เข้ามาอยู่เมื่อต้นเดือนมิถุนายน เจ้าคณะตำบลที่ปกครองวัดฉวาก ก็คือตำบลน้ำพุเนี่ยวัดน้ำพุเนี่ยตำบลหัวเขา


ท่านก็ไปที่วัดนั้นก็ไปแจ้ง ให้ทราบว่าเจ้าคณะจังหวัดไม่ประสงค์จะต้อนรับที่นี้ปัญหาก็คือว่ากรรมการของวัดนั้นเนี่ยไม่รู้ข้อเท็จจริงอะไรมาก่อนก็มีความคิดว่าที่วัดก็ไม่มีพระ ก็เลยท่านอาจจะถูกใส่ร้ายเพราะว่ายังไม่มีหลักฐานเท็จจริงอย่างไรเนี่ยก็คือเลยเป็นฝ่ายที่ให้อยู่ที่นั่นเสร็จแล้วที่เป็นประเด็นข่าวขึ้นมาเนี่ย ก็เนื่องจากคนที่เขามีปัญหากันมาจาก นอกจังหวัดสุพรรณ เขาทราบว่ามาอยู่ที่วัดนี้คือเขาก็ ต้องการจะให้พระรูปนี้พ้นออกไปจากสมณเพศเมื่อออกนอกเขตนั้นมาแล้วเขา ไม่รู้จะทำยังไงเขา จึงไปให้ข่าวกับเพจที่เป็นต้นตอของข่าวทีนี้กลับเข้ามาประเด็นที่ว่า