สังคม

'ดีเอสไอ' ออก 9 หมายจับ คดีเนื้อสัตว์เถื่อน เชื่อมโยงเฮียเก้า พบหลักฐานจ่ายส่วย

โดย parichat_p

29 ก.พ. 2567

175 views

จากกรณีเมื่อวันที่ เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา พันตำรวจตรีณฐพล ดิษยธรรม ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม ในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนคดีหมูเถื่อน พร้อมด้วยคณะพนักงานสอบสวน และเจ้าหน้าที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม ร่วมกันนำหมายค้นจากศาลจังหวัดนนทบุรี เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย 2 แห่งใน จังหวัดนนทบุรี ประกอบด้วย 1.บริษัท พีซี โฟรเซ่น จำกัด จังหวัดนนทบุรี และ 2.บจก.พีมาร์ท ซุปเปอร์สโตร์ จังหวัดนนทบุรี


ก่อนดำเนินการตรวจค้นเอกสารและพยานวัตถุต่าง ๆ เพื่อนำประกอบเข้าสำนวนคดีพิเศษที่ 127/2566 หรือคดีเนื้อสัตว์เถื่อนนานาชนิดกว่า 10,000 ตู้ (หมู วัว ไก่)


ความคืบหน้าในช่วงบ่ายวันนี้ มีรายงานว่าคณะพนักงานสอบสวนได้ทำการ รวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม เพื่อนำไปประกอบสำนวนคดีพิเศษที่ 127/2566 หรือคดีตีนไก่สวมสิทธิ โดยได้เข้าตรวจค้นบริษัท พีซี โฟรเซ่น จำกัด และ บจก.พีมาร์ท ซุปเปอร์สโตร์ (โรงงานแช่เนื้อสัตว์และชิ้นส่วนสัตว์ขนาดใหญ่ ประเภทหมู ไก่ และวัว) ซึ่งทั้งสองแห่งตั้งอยู่ในพื้นที่ จังหวัดนนทบุรี ทั้งยังอยู่ในพื้นที่เขตปลอดอากร (Free Zone)


โดยการเข้าตรวจค้นก็เพื่อค้นหาและรวบรวมพยานวัตถุ พยานเอกสาร สิ่งของที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด และทรัพย์สินอื่น ๆ และได้ทำการตรวจยึด อาทิ ซากสัตว์ เอกสารที่เกี่ยวข้องกับการรับขนสินค้าระหว่างประเทศ คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์ สมุดบัญชีธนาคาร ใบถอนเงิน-ฝากเงิน เอกสารการโอนเงินระหว่างประเทศ เอกสารทางการเงิน เป็นต้น เป็นเหตุให้มีการขยายผลต่อเนื่องก่อนดำเนินการขอศาลอาญาออกหมายจับแก่บุคคลธรรมดาซึ่งเป็นกรรมการผู้มีอำนาจลงนามของบริษัทฯ และบางส่วนรับหน้าที่เป็นนอมินี จำนวน 5 ราย



ประกอบด้วย

1.นายประกร มหากิจโภคิณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พีมาร์ท ซุปเปอร์สโตร์ จำกัด หรือ P-MART

2.น.ส.ชนิสรา มหากิจโภคิณ กรรมการผู้จัดการผู้จัดการ บริษัท พีมาร์ท ซุปเปอร์สโตร์ จำกัด

3.นายกิตติ ราชเนตร

4.นายภูวดล เกลียวจยกูล

5.นายพลภัทร สุขหน้าไม้


นอกจากนี้ยังมีการดำเนินการออกหมายจับนิติบุคคลอีก 4 หมายจับ ได้แก่


1.บริษัท พีซี ฟูดส์ เซ็นเตอร์ จำกัด

2.บริษัท มั่นคง โฟรเซ่น จำกัด

3.บริษัท โคลเวอร์ซัพพลาย จำกัด

4.บริษัท โปรดักส์-มี จำกัด


รวมทั้งสิ้น 9 หมายจับ ส่วนสาเหตุที่ออกหมายจับเนื่องมาจากทั้งหมดมีความเกี่ยวข้องกับตู้คอนเทเนอร์ จำนวน 90 ตู้ ที่ตกค้างอยู่ท่าเรือแหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี โดยเกี่ยวข้องในจำนวน 25 ตู้ ซึ่งภายในบรรจุสินค้าแช่แข็งประเภทหมูและไก่ โดยสินค้าไม่ได้มีการเปิดตู้ออกของที่ท่าเรือฯ แต่นำเข้ามาในเขตปลอดอากร จากนั้นมีการอำพรางขายกระจายทั่วประเทศไทย


ยังมีรายงานอีกว่าอีกสำหรับบุคคลในหมายจับถือเป็นนายทุนรายใหญ่ และใหญ่กว่านายหลี่ เซิ่งเจียว หรือเฮียเก้า (ผู้ต้องหารายสำคัญในคดีตีนไก่สวมสิทธิ) เนื่องจากกลุ่มคนตามหมายจับมีการจ่ายส่วยให้บุคคลที่ถูกระบุว่า เฮียเก้า โดยการจ่ายผ่านบัญชีธนาคาร ยอดเงินเดือนละ 400,000 บาท พบรายการการจ่ายเงินเพียง 2 เดือนในห้วงปี พ.ศ. 2565 และชิ้นส่วนสุกร กว่าครึ่งประเทศอยู่ภายในโรงงานเหล่านี้


ล่าสุดวันนี้ ดีเอสไอสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้แล้ว 3 ราย คือ

1.นายประกร มหากิจโภคิณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พีมาร์ท ซุปเปอร์สโตร์ จำกัด หรือ P-MART โดยนายประกร มีพฤติการณ์รับรู้การจ่ายส่วยต่าง ๆ 2.น.ส.ชนิสรา มหากิจโภคิณ กรรมการผู้จัดการผู้จัดการ บริษัท พีมาร์ท ซุปเปอร์สโตร์ จำกัด

3.นายพลภัทร สุขหน้าไม้ โดยในส่วนของนายพลภัทร พบว่ามีชื่อเป็นผู้จ่ายส่วยให้กับเจ้าหน้าที่รัฐ คือ เจ้าหน้าที่กรมศุลกากรและกรมปศุสัตว์ โดยจ่ายส่วยแบบรายเดือนและเป็นการจ่ายรายตู้


ส่วนผู้ต้องหาที่เหลืออีก 2 ราย เจ้าหน้าที่จากกรมสอบสวนคดีพิเศษโดยชุดสืบ อยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวนติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดี


นอกจากนี้ จากการตรวจค้นบริษัทฯ เรายังพบเอกสารจดบันทึกรายการจ่ายเงิน หรือบัญชีส่วย บัญชีธนาคาร ซึ่งพบผู้เกี่ยวข้องจำนวนมากทั้งนายตำรวจ ทหาร ปลัด เจ้าหน้าที่ของรัฐ และสื่อมวลชนบริเวณจังหวัดชายแดนที่บริษัทมีการส่งสินค้าข้ามแดนและรับสินค้าข้ามแดน ซึ่งคณะทำงานจะมีการเชิญบุคคลที่พบอยู่ในรายชื่อบัญชีส่วยทั้งหมด มาทำการสอบปากคำเพิ่มเติมในฐานะพยานต่อไป


สำหรับผู้ต้องหาทั้งห้ารายมีการถูกแจ้งข้อกล่าวหา ฐานกระทำความผิดโดยหลีกเลี่ยงหรือพยายามหลีกเลี่ยงการเสียอากรโดยเจตนาจะฉ้ออากรที่ต้องเสียสำหรับของนั้น ๆ โดยหลีกเลี่ยงข้อจำกัดหรือข้อห้ามอันเกี่ยวกับของนั้นตาม พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ. 2560 มาตรา 243 มาตรา 244 และนำเข้า ส่งออก หรือนำผ่านราชอาณาจักรซึ่งสัตว์หรือซากสัตว์โดยไม่ได้รับใบอนุญาตจากอธิบดีหรือผู้ซึ่งอธิบดีมอบหมายตาม พ.ร.บ.โรคระบาดสัตว์ พ.ศ. 2558 มาตรา 31 ประกอบมาตรา 68 ฐานฟอกเงิน และสมคบกันฟอกเงินตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 มาตรา 5 มาตรา 7 มาตรา 8 และมาตรา 9 ประกอบมาตรา 60 มาตรา 61 ฐานเป็นอั้งยี่ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 209 ประกอบมาตรา 83

คุณอาจสนใจ

Related News