สำนักสงฆ์ไม่มีไฟใช้ 16 ปี หลวงพ่อประสานการไฟฟ้า โดนเรียกค่าดำเนินการ 1.5 ล้าน

หลวงพ่อร้องเรียนความเดือดร้อน สำนักสงฆ์ที่ศรีสัชนาลัย อยู่ห่างจากถนนเพียง 2 กม. แต่ไม่มีไฟฟ้าใช้มา 16 ปี สร้างความลำบากให้กับพระสงฆ์และญาติโยมที่มาทำบุญ ไปติดต่อการไฟฟ้าอ้างต้องเสียเงินค่าดำเนินการ 1.5 ล้านบาท ทุกวันนี้ต้องอาศัยใช้ไฟจากแผงโซล่าเซลล์ ซึ่งไม่เพียงพอ

วานนี้ (9 พ.ย.66) ผู้สื่อข่าวรายงาน กรณีพระสงฆ์ ที่สำนักสงฆ์วัดเขาคง หมู่10 ต.สารจิตร อ.ศรีสัชนาลัย จ.สุโขทัย ร้องขอความช่วยเหลือแก้ไขความเดือดร้อน เนื่องจากไม่มีไฟฟ้าใช้ มากว่า 16ปี ครั้นไปติดต่อขอใช้ไฟกลับถูกเรียกเก็บเงิน 1.5 ล้านบาท ทั้งที่ห่างแนวถนนเพียง 2 กม. ซ้ำถนนเข้าวัดพังจากรถบรรทุกดิน สร้างความลำบากให้กับพระสงฆ์และญาติโยมที่มาทำบุญ

ล่าสุด ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก นายชัยณรงค์ ศรีจันทรากูล หัวหน้าแผนกบริการลูกค้าและการตลาดสำนักงานไฟฟ้าส่วนภูมิภาคศรีสัชนาลัย เปิดเผยว่าบริเวณดังกล่าวอยู่นอกเขตที่การไฟฟ้าจะขยายเขตให้ฟรีและครัวเรือนมีน้อย ซึ่งเกินกว่าที่การไฟฟ้าจะสมทบให้รายละ 75,000 บาท โดยมีการรวบรวมรายชื่อครัวเรือนบริเวณนั้นอยู่ที่ 3-4 ราย ซึ่งเกณฑ์การสำรวจเวลานั้นค่าใช้จ่ายประมาณ 1 ล้านกว่าบาท อย่างไรก็ดี ขณะนี้กำลังจะมีการสำรวจใหม่ ซึ่งหาก อบต.สารจิตร ทำเรื่องเข้ามา และพร้อมสนับสนุนช่วย ก็จะเสนอขึ้นหน่วยเหนือ และดำเนินการได้ภายในเวลา 1 เดือนโดยประมาณ

สำหรับกรณีดังกล่าว ได้มีพระสงฆ์ที่สำนักสงฆ์ดังกล่าวร้องขอความช่วยเหลือว่า พระสงฆ์และพุทธศาสนิกชนที่มาทำบุญ ได้รับความเดือดร้อน เนื่องจากไม่มีไฟฟ้าใช้มากว่า16 ปี ทั้งที่อยู่ห่างจากถนนเพียง 2 กม. และถนนทางเข้าวัดพังเสียหายเนื่องจากรถบรรทุกดิน

จากการตรวจสอบพบเป็นสำนักสงฆ์ที่อยู่ระหว่างขอจัดตั้งเป็นวัด เนื้อที่ 12 ไร่ ล้อมรอบด้วยป่าไม้หลากหลายชนิด พบพระบัญชา สิริภัทโท อายุ77ปี จำพรรษาเพียงรูปเดียว พระบัญชาเปิดเผยว่า ก่อนที่จะบวช ทำงานรับราชการตำรวจ ตำแหน่งผู้กำกับการ สภ.หนองเสือ จ.ปทุมธานี ต่อมาย้ายสังกัดเป็นทหาร ที่กรมทหารหมาดเล็กรักษาพระองค์ รับใช้ใต้เบื้องพระยุคลบาท รวม 18 ปี จนปลดเกษียณ ต่อมาตัดสินใจละทางโลกจึงบวชเป็นพระและได้มาจำพรรษาที่นี่ 16 ปีกว่าแล้ว

ปัญหาที่พบคือญาติโยมที่มาทำบุญและผู้ปฏิธรรม ได้รับความลำบาก เนื่องจากไม่มีไฟฟ้าใช้ จึงดำเนินการประสานงาน กับอบต.สารจิตร และ อำเภอศรีสัชนาลัย เมื่อปี2559 ซึ่งก็มีเจ้าหน้าที่มาดูมาสอบถามและขอเรียกเงิน 4-5 แสนบาท ทางวัดไม่มีให้ ต่อมาต้นปีที่ผ่านมา สำนักงานใหญ่ของการไฟฟ้าที่ กทม.มีหนังสือมาที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคศรีสัชนาลัย และมีเจ้าหน้าที่มาพูดคุย แจ้งว่าต้องมีค่าใช้จ่าย 1.2 ล้านบาท อาตมาไม่รู้ว่าเรียกค่าอะไร และสงสัยว่าวัดนี้อยู่ห่างจากถนนซึ่งมีแนวสายไฟ เพียง 2 กม. ห่างที่ว่าการอำเภอเพียง 8 กม.เท่านั้น ที่อื่นอยู่ห่างเป็น 10-20 กม.มีบ้านเรือนเพียง 2-3 หลัง แต่กลับมีไฟฟ้าใช้สะดวกสบาย

ต่อมาเมื่อต้นปีที่ผ่านมา ฝ่ายปกครองโทรแจ้งให้เข้าร่วมประชุม ร่วมกับผู้นำท้องถิ่น, พระชั้นผู้ใหญ่, ศูนย์ดำรงธรรม ก็ได้รับแจ้งจากการไฟฟ้าว่าต้องมีค่าใช้จ่าย 1.5 ล้านบาท อาตมาแจ้งว่าอย่าว่าแต่เงินล้านเลย เงินพันเงินหมื่นแทบไม่ได้เจอ มีแต่แบงก์ 20 ที่ญาติโยมมาทำบุญ

เมื่อถามว่าเป็นค่าอะไร ก็ตอบไม่ได้ จากนั้นทุกอย่างก็เงียบไปเหมือนเดิม ตอนนี้ทางวัดต้องอาศัยใช้ไฟจากแผงโซล่าเซลล์ ซึ่งไม่เพียงพอ

สำหรับถนนทางเข้าวัดนี้ เมื่อก่อนอยู่ในสภาพใช้งานได้ดี ต่อมามีการขุดลอกหนองจระเข้ ผู้รับเหมาจึงนำดินมาทิ้งบริเวณนี้ รถบรรทุกดินวิ่งกันจนถนนพัง ซึ่งทางผู้รับเหมาแจ้งว่าจะมอบเงินหลักแสนบาทให้กับ อบต.เพื่อซ่อมแซมถนนหลังจากเสร็จงานแล้ว กระทั่งงานแล้วเสร็จจนถึงวันนี้ยังไม่มีการซ่อมแซมแต่อย่างได้ ชาวบ้านต้องร่วมกันบริจาคเงินได้ 2,000 กว่าบาท ก็ไปซื้อหินคลุกมาช่วยกันซ่อมเพื่อให้พอใช้สัญจรมาทำบุญกันได้ ซึ่งทางหลวงพ่อกล่าวทิ้งท้ายว่า ขอบิณฑบาตหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ช่วยดำเนินการให้ด้วย สำหรับญาติโยมที่มาทำบุญ สามารถติดต่อได้ที่เบอร์โทรพระบัญชา 065-9134993