สังคม

ชาวบ้านสงสัยกลุ่มนายทุนปรับดิน 1 พันไร่ ปลูกยูคาลิปตัสในเขตห้ามล่าสัตว์ป่าฯ หลังพื้นที่มีการครอบครองมิชอบด้วยกฎหมาย

โดย parichat_p

27 ส.ค. 2566

918 views

ชาวบ้านสงสัยกลุ่มนายทุนปรับสภาพดินปลูกยูคาลิปตัสเกือบ 1,000 ไร่ ในพื้นที่เขตห้ามล่าสัตว์ป่าทะเลน้อย ได้อย่างไร ทั้งที่ก่อนหน้านี้พบพื้นที่ดังกล่าวมีการครอบครองโดยมิชอบด้วยกฎหมาย


ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดพัทลุงว่า สภาพพื้นที่ป่าพรุทะเลน้อยระดับน้ำเริ่มลด จนบางจุดแห้งสนิทเนื่องจากปรากฏการธรรมชาติฝนทิ้งช่วง เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดไฟไหม้ป่าพรุ ในพื้นที่เขตห้ามล่าสัตว์ป่าทะเลน้อย จ.พัทลุง


แต่ล่าสุดนอกเหนือจากปัญหาไฟไหม้ป่าพรุแล้ว วันนี้ยังมีกลุ่มนายทุนนำรถแบคโฮ จำนวน 6 ตัว เร่งปรับพื้นที่ยกคันคันดินเพื่อปลูกต้นยูคาลิปตัส โดดขุดและปลูกไปแล้วกว่า 300 ไร่ และกำลังดำเนินการขุดอยู่อย่างต่อเนื่อง ทำให้ชาวบ้านที่ทำมาหากินในพื้นที่ชุ่มน้ำทะเลน้อยหวั่นรับผลกระทบหากมีการนำต้นยูคาลิปตัส มาปลูกจำนวนมากและเป็นบริเวณกว้าง จะส่งผลกระทบระยะยาวต่อระบบนิเวศน์ของที่นี่ ไม่ว่าทั้งพืช ทั้งสัตว์ โดยเฉพาะสัตว์น้ำจืดหลายชนิดอาจจะสูนพันธ์ เมื่อต้นยูคาลิปตัสเจริญเติบโต และน้ำในทะเลสาบลดลงไม่เป็นไปตามระบบนิเวศน์ก่อนหน้า


ชึ่งนอกจากจะส่งผลกระทบกับระบบนิเวศน์แล้วล่าสุดเริ่มส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิตการเลี้ยงควายน้ำทะเลน้อย เนื่องจากพื้นที่ทุ่งหญ้า ที่กลุ่มนายทุนดำเนินการขุดนั้นเป็นทุ่งหญ้าป่าพรุ ที่ชาวบ้านนำควายไปเลี้ยงปล่อยทุ่ง ในจุดดังกล่าวกว่า 1,000 ตัว โดยพื้นที่น้ำหลากควายจะอาศัยดำน้ำกินหญ้า หน้าแล้งน้ำลดควายได้เดินหากินได้ตลอดทั้งวัน แต่เมื่อกลุ่มนายทุนเริ่มปรับพื้นที่อาชีพการเลี้ยงควายน้ำ ตรงจุดนี้ ก็เริ่มได้รับความเดือดร้อน


ด้านนายศักดิ์ดา อายุ 59 ปี  และนายบุญส่ง ไล่สาม เกษตรกรเจ้าของควายน้ำทะเลน้อยกล่าวว่า ปกติพื้นที่ดังกล่าว ตรงรอยต่อต.ทะเลน้อย อ.ควนขนุน จ.พัทลุง กับ ต.บ้านขาว อ.ระโนด จ.สงขลา เป็นพื้นที่ในเขตห้ามล่าสัตว์ป่าทะเลน้อย และเป็นพื้นที่อนุรักษ์  ชาวบ้านที่เลี้ยงความขอความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ในการปรับดินเพื่อสร้างคอกควายให้สูงช่วงน้ำหลากมันแสนยาก ขอกันมาเป็น10 ปี ยังไม่ได้เลย  แต่มาปีนี้หลังเจอสภาพแล้ง มีกลุ่มนายทุนนำรถแบคโฮ มาขุดปรับสภาพดินยกคันสูงเพื่อปลูกต้นยูคาลิปตัสส่งออก เจ้าหน้าที่กลับปล่อยให้ขุดเฉย โดยไม่มีการตรวจสอบแต่อย่างได ชึ่งหากชาวบ้านนำแบคโฮมาขุดสร้างที่พักควายถูกเจ้าหน้าที่ไล่จับกุมทันที


นายศักดิ์ดา ยังกล่าวอีกว่า พื้นที่ที่มีการปรับดินปลูกต้นยูคาลิปตัสนั้น เป็นทุ่งหญ้าที่ชาวบ้านเลี้ยงควายน้ำทะเลน้อยมาแล้วหลายช่วงอายุคน โดยตนนั้นเป็นรุ่นที่ 3 ต่อไปหากมีการรุกพื้นที่เลี้ยงควาย วิถีการเลี้ยงควายน้ำแม้จะยกให้เป็นมรดกโลก ก็คงจะเหลือเพียงตำนาน


ขณะที่ผู้สื่อข่าวได้ติดต่อสอบถามอดีตหัวหน้าเขตห้ามล่าสัตว์ป่าทะเลน้อยพัทลุง ว่าพื้นที่ตรงที่มีการนำแบคโฮ เข้ามาปรับพื้นที่เพื่อปลูกต้นยูคาลิปตัส ส่งออกนั้น เป็นพื้นที่ 1 ใน 70,000 ไร่ ที่มีการออกเอกสารสิทธิ์ ครอบครองโดยมิชอบ หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า นส.3 บิล  และก่อนหน้านี้ทางเขตห้ามล่า พร้อมทั้งเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ เข้ามาตรวจสอบครั้งหนึ่งแล้ว และทำการเพิกถอน แต่ไม่แน่ใจว่ารอบนี้มาดำเนินการขุดได้อย่าง


ขณะที่พรุ่งนี้ วันที่ 28 สิงหาคม 66 ชาวบ้านที่ประกอบอาชีพเลี้ยงควายน้ำทะเลน้อย และชาวบ้านที่มีอาชีพหาปลาน้ำจืดขายในพื้นที่ชุ่มน้ำทะเลน้อย จะเดินทางไปสอบถามด้วยวาจากับหัวหน้าเขตห้ามล่าสัตว์ป่าทะเลน้อยว่าเจ้าหน้าที่ส่งเสริมให้มีการปลูกต้นยูคาลิปตัสในพื้นที่ชุ่มน้ำได้อย่างไร  และมีการอ้างเอกสารสิทธิครอยงได้อย่าง  ทั้งที่ต้นยูคาลิปตัส จะส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศน์ของพื้นที่ป่าพรุที่นี่

คุณอาจสนใจ

Related News