รวบแล้ว! ชายฆ่าโหดหนูน้อยวัย 3 ขวบ กระทำชำเราก่อนนำศพอำพรางในแอ่งน้ำ

ตำรวจรวบแล้ว ชายฆ่าโหดเด็ก 3 ขวบ กระทำชำเราก่อนนำศพอำพรางในแอ่งน้ำ

ความคืบหน้ากรณีเด็กหญิง เอ (สนามสมมุติ) อายุ 3 ขวบ หายตัวปริศนา เมื่อวันที่ 14 พ.ค.66 ที่ผ่านมา และมาพบศพนอนเสียชีวิตในแอ่งน้ำ ซึ่งห่างจากบ้านพักประมาณ 500 เมตร ในสภาพสวมเสื้อตัวเดียวแต่ท่อนร่างเปลือย เมื่อวันที่ 16 พ.ค.66 หายออกจากบ้านขณะเล่นอยู่ที่บริเวณหน้าบ้านพัก ซึ่งทางด้านบิดากำลังวุ่นอยู่กับการขายกรือโป๊ะทอด หรือข้าวเกรียบ ให้กับลูกค้าอยู่

ต่อมา พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ได้ลงมากำชับแนวทางในการสืบสวนสอบสวน รวมทั้งการรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ ทางคดีในการแกะรอยหาตัวคนร้าย เมื่อวันที่ 22 พ.ค.66 ที่ผ่านมา ซึ่งคดีดังกล่าวเจ้าหน้าที่ได้เชิญตัวผู้ต้องสงสัยมาสอบสวนปากคำ จำนวน 35 คน และได้ทำการซุ่มตรวจ ดี.เอ็น.เอ.ของกลุ่มผู้ต้องสงสัยที่อาศัยอยู่ในละแวกบ้านพักของเด็กหญิง เอ ในรัศมี 2 ก.ม. กว่า 60 คน เพื่อนำไปตรวจสอบทางนิติวิทยาศาสตร์ ในการนำมาเปรียบเทียบกับหลักฐานที่เจ้าหน้าที่สามารถตรวจสอบพบในศพของเด็กหญิง เอ นั้น

ล่าสุดแหล่งข่าวรายหนึ่งได้เปิดเผยว่า ในช่วงคืนของวันที่ 12 มิ.ย.66 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติศาล จ.นราธิวาส ออกหมายจับผู้ต้องหา จำนวน 1 คน คือ นายมะยาการียา อายุ 46 ปี ในข้อหา พรากเด็กอายุยังไม่เกิน 15 ปีไปเสียจากบิดามารดา ผู้ปกครองหรือผู้ดูแล เพื่อการอนาจาร ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ซ่อนเร้น ย้าย หรือทำลายศพ หรือ ส่วนของศพเพื่อปิดบังการการเกิด การตายหรือเหตุแห่งการตาย

ซึ่งจากการรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ จนเชื่อว่าเป็นผู้กระทำความผิด และเจ้าหน้าที่ได้เข้าจับกุมที่บ้านพักทันที และนายมะยาการียา เป็น 1 ในผู้ต้องสงสัยที่เจ้าหน้าที่เคยเชิญตัวมาสอบสวนในคดีดังกล่าว เมื่อวันที่ 18 พ.ค. 66 ที่ผ่านมา และเจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบสารเสพติดพบว่าปัสสาวะเป็นสีม่วง จึงถูกเจ้าหน้าที่จับกุมดำเนินคดี แต่นายมะยาการียา ไม่มีเงินเสียค่าปรับเจ้าหน้าที่จึงได้กักขังในการเสียค่าปรับ และได้พ้นโทษออกมา จนกระทั่งเจ้าหน้าที่สามารถรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆในคดีสังหารโหด เด็กหญิง เอ ซึ่งนายมะยาการียา ตกเป็นผู้ต้องสงสัยในคดีดังกล่าว

เจ้าหน้าที่จึงได้เชิญตัวนายมะยาการียา ผู้ต้องสงสัยในคดีดังกล่าวอีกครั้งหนึ่ง ไปเข้าเครื่องจับเท็จที่ จ.ปทุมธานี เมื่อวันที่ 5 มิ.ย.66 เพื่อตอบคำถามสิ่งที่เจ้าหน้าที่ยังเป็นข้อสงสัย ว่านายมะยาการียาพูดความจริงหรือโกหก โดยวัดจากการแสดงออกทางร่างกาย เช่น อัตราการหายใจ ชีพจร ความดันโลหิตและเหงื่อปกติมากน้อยเพียงใดเมื่อเปรียบเทียบกับบุคคลทั่วไป ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะปล่อยตัวเป็นอิสรภาพอีกครั้ง และเมื่อพยานหลักฐานต่างๆครบถ้วน เจ้าหน้าที่ได้ขอหมายจับและจับกุมตัวมาสอบสวน ที่ห้องสวนสอบกองกำกับการตำรวจภูธร จ.นราธิวาส อย่างเคร่งเครียด โดยมีเครือญาติของนายมะยาการียา จำนวน 7 คน เดินทางมาเฝ้าสังเกตการณ์การสอบสวนในครั้งนี้ด้วยความเป็นห่วง

ด้านน้องสาวนายมะยาการียา ผู้ต้องหาคดีดังกล่าว กล่าวว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นวันอาทิตย์ตรงกับวันเลือกตั้ง แกก็เดินทางไปเลือกตั้งตามปกติ หลังจากนั้นตอนเย็นแกไปซื้อกับข้าวกิน หลังจากนั้นประมาณ 16.00 น. เด็กหาย แม่ของเด็กมาแจ้งให้หนูทราบว่าเด็กหายมาแถวบ้านไหม หนูก็ตอบว่าไม่มาค่ะ เพราะหนูไม่รู้จักกับครอบครัวเด็กแกก็กลับบ้านไป ถัดมาวันที่ 15 ก็ช่วยกันหา แม่เด็กคิดว่ารถพาเด็กไปก็ไม่ได้หาอะไรกันมาก แกไปตามไล่เรื่องรถที่เชื่อว่านำเด็กลูกสาวแกไป แล้วมาวันที่ 16 มีชาวบ้านมาแจ้งว่า พบศพเด็กในแอ่งน้ำซึ่งอยู่ไกลจากบ้านหนูหลายร้อยเมตร ซึ่งถือว่าอยู่ใกล้เคียงที่สุดแกก็ถูกตำรวจสอบปากคำ พี่ชายแกว่าแกไม่ทราบแกไม่รู้เรื่องนี้ แกไม่รู้จักเด็กด้วยซ้ำ เพราะแกทำงานในมาเลเซียตามปกติของแก แกว่าแกไม่ได้ทำแกโดนใส่ร้าย ถ้าผลออกมาเป็นผู้ต้องหาหนูไม่ยอมเพราะแกเป็นผู้บริสุทธิ์ ก็จะสู้ในชั้นศาลให้ถึงที่สุด ขอความยุติธรรมให้กับครอบครัวหนูด้วย แกรักเด็กไม่มีนิสัยแบบนั้นตั้งแต่แรก ไม่ใช้คนโหดร้าย