นักธุรกิจญี่ปุ่น ขอบคุณ ตร.บางขุนเทียน ตามรวบโชเฟอร์มหาภัย ลักทรัพย์ขณะนั่งหลับในแท็กซี่

นักธุรกิจชาวญี่ปุ่น ขอบคุณ ตร.บางขุนเทียน ตามรวบโชเฟอร์แท็กซี่มหาภัย ลักทรัพย์ขณะนั่งหลับ

เมื่อเวลา 23.10 น. วันที่12 มิ.ย. ที่ สน.บางขุนเทียน พ.ต.อ.พายับ สมบูรณ์ ผกก.สน.บางขุนเทียน พ.ต.ท. ขจร ธูปประกายศรี สว.สส.สน.บางขุนเทียน พ.ต.ต. สังคม หาญณรงค์ สว.สส สน.บางขุนเทียนและจนท.ฝ่ายสืบสวน สน.บางขุนเทียน ร่วมกันจับกุมตัว นาย ศิริชัย แสงอมร อายุ 45 ปี อาชีพ คนขับแท็กซี่ ในข้อหาลักทรัพย์รับของโจร พร้อมของกลาง นาฬิกาโรเล็กซ์ มูลค่า 1 ล้านบาท,โทรศัพท์มือถือยี่ห้อ ไอโฟน 14 โปรแม็ก 1 เครื่อง มูลค่า 4 หมื่นบาท, คอมพิวเตอร์แม็คบุ๊ค 1 เครื่อง มูลค่า 6 หมื่นบาท และ บัตรเครดิด 1 ใบ ซึ่งมีมูลค่ารวมกว่า 1.2 ล้านบาท จับกุมได้ที่ ภายในห้องพัก เลขที่ 65 ดอนโด ศรีทองคอนโด ซ. เอกชัย 40 บางบอนเหนือ เขตบางบอน กทม.

สืบเนื่องจาก ช่วงเวลาประมาณ 02.30 ของวันที่ 8 มิ.ย. ที่ผ่านมา MR. Nammo hiroshi อายุ 40 ปี นักธุรกิจ สัญชาติญี่ปุ่น เข้าแจ้งความร้องทุกกับพนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ ว่า ในคืนเดียวกัน ( 8 มิ.ย. ) ตน ได้ไปเทียวที่สถานบันเทิงแห่งหนึ่งย่านอโศก และได้เรียกแท็กซี่สีชมพู ไม่ทราบทะเบียน เพื่อกลับไปยังห้องพักย่าน สุขุมวิท ต่อมาแท็กซี่คันแรก ได้ขอให้ Mr. Nammo เปลี่ยนรถไปขึ้นอีกคันหนึ่ง ต่อมา Mr. Nammo เผลอหลับไป จนถึงห้องพัก และมาทราบว่าทรัพย์สินของตนได้หายไป ซึ่งเป็นของกลางที่ถูกผู้ต้องหาลักไป

ต่อมาช่วงเที่ยง ของวันที่ 12 มิ.ย. นส. จำเนียน เทพทิพย์ อายุ 43 เพื่อนสาวของ Mr.Nammo ได้เข้าพบกับ พ.ต.ท. ขจร ธูปประกายศรี สว.สส.สน.บางขุนเทียน เพื่อขอความช่วยเหลือ เนื่องจาก ได้รับข้อความ sms จากธนาคารว่ามีการใช้บัตรเครดิต 2 ครั้ง ในพื้นที่บางขุนเทียนในช่วงเช้าของวันที่ 12 มิ.ย. ฝ่ายสืบสวน จึงออกติดตาม จนสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ที่ ภายในห้องพักซอยเอกชัย40 พร้อมของกลาง และรถแท็กซี่ สีชมพูขาว ทะเบียน ทฬ 3433 กรุงเทพ ซึ่งเป็นคันเดียวกันกับที่ใช้ก่อเหตุ จอดอยู่ใกล้ที่พัก พร้อมของกลางจึงควบคุมตัวมาสอบปากคำ พร้อมประสานให้ผู้เสียหายเข้ามาดูของกลางที่ สน.

ต่อมาเมื่อ Mr.Nammo เดินทางมาถึง และเห็นของกลาง มีท่าทีดีใจมากและกล่าวว่า ตนได้มาเที่ยวที่ไทยตั้งแต่ช่วงต้นเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา โดยมีกำหนดกลับ ญี่ปุ่นวันที่ 19 มิ.ย.นี้ ซึ่งตั้งแต่เกิดเหตุ ตนเครียดมากนอนไม่หลับมาหลายวัน และเมื่อทราบว่า ทางฝ่ายสืบสวน สน.บางขุนเทียน จับกุมผู้ต้องหาได้แล้ว และสามารถนำของกลางกลับได้ด้วย ตนรู้สึกยินดีและดีใจมาก ที่ได้ทรัพย์สินคืน รวมถึงอยากขอบคุณ ตร.สน.บางขุนเทียนเป็นอย่างสูง ซึ่งหลังจากนี้ ตนยืนยันว่า จะกลับมาเที่ยวที่ไทยอีก

ทั้งนี้จากการตรวจสอบประวัติ ผู้ต้องหา เคยมีประวัติ เสพยาเสพติดประเภท1 เมื่อปี 2555 ที่สน.บุคโล และคดีครอบครองยาเสพติด เมื่อปี 2558 ที่สน.บางขุนเทียน

จากการสอบสวนผู้ต้องหายอมรับสารภาพว่าได้นำนาฬิกาไปจำนำในราคา 25,000 บาท เบื้องต้นจึงถูกแจ้งข้อหาลักทรัพย์และรับของโจร ก่อนจะประสานให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ทองหล่อ มารับตัว เพื่อนำตัวไปดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป