หนุ่มแสบตุ๋นสาวแต่งงาน สูญกว่า 7 หมื่น เจ้าตัวปฏิเสธ อ้างถูกคนรู้จักในเฟซบุ๊กวานให้มาเป็นเจ้าบ่าวแทน

ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งได้นำเรื่องราวที่ถูกหนุ่มแสบหลอกจัดงานแต่งงานมาโพสต์เตือนภัยทางโซเชียล โดยระบุว่า เตือนภัยคนโคราช น้องเจอหลอกจัดงานแต่ง บอกจะมาแต่ง 120,000 บาท ทองคำ 1 บาท เร่งเตรียมของ ซื้อของ ค่าเสียหาย 60,000 – 70,000 บาท ทางน้องแจ้งความไว้แล้ว

ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ตำบลโนนไทย อำเภอโนนไทย จังหวัดนครราชสีมา และได้สอบถามว่าที่เจ้าสาว คือ นางสาวปวีณา อายุ 20 ปี เปิดเผยว่า ตนได้คบหาดูใจกับว่าที่เจ้าบ่าวมาได้ประมาณ 1 เดือน โดยรู้จักกันผ่านทางโซเชียล ซึ่งว่าที่เจ้าบ่าวอ้างว่าเป็นลูกชายของครูในพื้นที่ และจะให้แม่มาสู่ขอกันตามประเพณี ทางครอบครัวจึงไม่เรียกค่าสินสอด โดยแล้วแต่ทางฝ่ายว่าที่เจ้าบ่าวจะหามาให้

ซึ่งว่าที่เจ้าบ่าวบอกว่าจะให้ค่าสินสอด 120,000 บาท พร้อมด้วยทองคำหนัก 1 บาท วันที่ 10 มกราคม 2566 จะให้ทางครอบครัวเดินทางมาทำการหมั้นหมายสู่ขอกันตามประเพณี และจะจัดงานแต่งงานในวันที่ 16 มกราคม 2566 นี้

แต่เมื่อถึงวันที่ 10 มกราคม 2566 ทางฝ่ายว่าที่เจ้าบ่าวก็ไม่ได้เดินทางมาตามที่นัดหมายไว้ แต่กลับมาในวันที่ 11 มกราคม โดยไม่มีทางญาติของเจ้าบ่าวมาด้วย ซึ่งฝ่ายว่าที่เจ้าบ่าวอ้างว่า ทางครอบครัวจะเดินทางมาวันแต่งงานเลยทีเดียว ทางครอบครัวของตนจึงไม่ได้ติดใจอะไร

กระทั่งใกล้ถึงวันงาน ทางฝ่ายตนเตรียมสิ่งของที่ใช้จัดงานแต่ง โดยได้ไปเช่าเต็นท์ ซื้อเครื่องดื่ม ซื้อของชำร่วย เป็นเงินจำนวนประมาณ 70,000 บาท พร้อมทั้งยังได้ไปจองโต๊ะจีนอีก 30 โต๊ะ จนกระทั่งวันที่ 15 มกราคมก่อนถึงวันงาน 1 วัน ได้มีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งติดต่อเข้ามาหาตน แจ้งให้ทราบว่า ว่าที่เจ้าบ่าวได้ไปก่อเหตุแบบนี้มาแล้วหลายครั้งแล้ว

โดยหลอกให้หญิงสาวจัดงานแต่งงาน และหลอกยืมเงินฝ่ายหญิงมาแล้วหลายราย จนกระทั่งถึงวันงานก็ไม่พบเห็นหน้าว่าที่เจ้าบ่าวรายนี้แต่อย่างใด ตนจึงรู้ตัวว่าถูกหลอก และได้เดินทางไปแจ้งความดำเนินคดีกับฝ่ายว่าที่เจ้าบ่าวอย่างถึงที่สุด

ล่าสุดวันนี้ (18 มกราคม 2566) พันตำรวจเอก อิษฎ์ บุญญะฤทธิ์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรโนนไทย ได้สั่งการให้ชุดสืบสวนเดินทางไปที่บ้านพักของฝ่ายว่าที่เจ้าบ่าวในอำเภอพิมาย จังหวัดนครราชสีมา

โดยฝ่ายว่าที่เจ้าบ่าวที่ล่องหนไม่มางานแต่ง คือ นายเมธี อายุ 21 ปี ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้เชิญตัวว่าที่เจ้าบ่าวให้มาเจรจากับฝ่ายว่าที่เจ้าสาวที่ สภ.โนนไทย โดยในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ยังไม่ได้แจ้งข้อหากับฝ่ายว่าที่เจ้าบ่าว และได้ให้ทั้งสองฝ่ายไปพูดคุยเจรจากันก่อน ซึ่งหากยังตกลงกันไม่ได้ก็จะต้องดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป

จากการสอบถาม นายเมธี ว่าที่เจ้าบ่าวที่ล่องหนไม่มางานแต่ง เปิดเผยว่า ตนเองไม่เคยไปขอผู้หญิงคนดังกล่าวแต่งงานเลย แต่สาเหตุที่ตนไปรับปากจะแต่งงาน เพราะตนรู้จักกับคนชื่อ ต๊ะ ผ่านทางเฟซบุ๊ก โดยนายต๊ะได้วานให้ตนไปแต่งงานแทนตัวเขา เพราะนายต๊ะอ้างว่าตัวเองประสบอุบัติเหตุ ทำให้ไม่สามารถไปงานแต่งงานได้

ตนจึงอาสาจะเข้าพิธีแต่งงานแทน แต่พอถึงวันแต่งงานจริง ตนไม่สามารถติดต่อกับทางนายต๊ะได้ ตนเองจึงไม่เดินทางไปงานแต่ง อีกทั้งตนเองก็มีครอบครัวอยู่แล้ว ตนจะไปหลอกผู้หญิงคนอื่นแต่งงานอีกทำไม

ผู้สื่อข่าวได้พบกับ นายพงศา พยานที่ถูกว่าที่เจ้าบ่ายว่าจ้างให้ไปรับที่บ้านในอำเภอพิมาย และมาส่งที่บ้านเจ้าสาวที่อำเภอโนนไทย จ.นครราชสีมา โดยเปิดเผยว่า ได้รับการว่าจ้างให้ขับรถมารับว่าที่เจ้าบ่าวที่อำเภอพิมายให้ไปส่งที่บ้านว่าที่เจ้าสาวในอำเภอโนนไทย โดยได้ค่าจ้าง 1,500 บาท

พอมาถึงบ้านว่าที่เจ้าสาว ฝ่ายว่าที่เจ้าบ่าวได้ขอให้ตนพาไปซื้อของชำร่วยในตัวเมืองนครราชสีมา และให้ค่าน้ำมันตนเพิ่มอีก 500 บาท ซึ่งหลังจากที่ซื้อของเสร็จ ฝ่ายว่าที่เจ้าบ่าวก็ได้ชักชวนขอให้ตนอยู่ช่วยเตรียมงานแต่งงานที่บ้านของว่าที่เจ้าสาว ตนก็เลยอยู่ช่วยงาน

ซึ่งตนยืนยันว่าไม่ได้รู้จักส่วนตัวกับฝ่ายว่าที่เจ้าบ่าวมาก่อน แต่ตนเคยได้รับการว่าจ้างให้พาไปส่งที่บ้านของหญิงสาวในลักษณะแบบเดียวกันนี้มาแล้วหลายครั้ง ตนก็ยังแปลกใจว่าทำไมถึงเปลี่ยนหน้าผู้หญิงทุกครั้ง ตนก็เริ่มเอะใจ และพยายามติดต่อฝ่ายว่าที่เจ้าสาวให้ระวังตัว เพราะเชื่อว่าน่าจะมีหญิงสาวผู้เสียหายหลายรายเคยโดนว่าที่เจ้าบ่าวคนนี้หลอกลวง