สังคม

มือรัวยิงหนุ่มวัย 27 ดับ เผยสาเหตุเจ็บแค้น ผู้เสียชีวิตมาติดพันแม่ แถมด่าถึงบุพการี

โดย pattraporn_a

30 พ.ย. 2564

500 views

ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 แถลงสรุปคดีมือปืนก่อเหตุรัวยิงหนุ่มวัย 27 เสียชีวิตคาลานจอดรถ ศูนย์การค้าดังมือปืนเผยสาเหตุลงมือ เพราะเจ็บแค้นที่ผู้เสียชีวิตมาติดพันแม่ ตนเองขอให้เลิก แต่ไม่ยอมแถมยังด่าหยามถึงบุพการี


ความคืบหน้าคดีมือปืนก่อเหตุกลัวยิงนายอำพล บุ้งทอง อายุ 27 ปี เสียชีวิตคาลานจอดรถภายในศูนย์การค้าวังสารภีพลาซ่า ตำบลปากแพรก อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 29 พฤศจิกายน 2564 ซึ่งหลังจากเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดตามสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานจนสามารถขอศาลอนุมัติออกหมายจับ นายสิทธิชัย หรือ แม็ก มั่นคง อายุ 29 ปี หนุ่มพนักงานกองช่าง ขององค์การบริหารส่วนจังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งเป็นผู้ก่อเหตุ หลังศาลอนุมัติออกหมายจับ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ออกติดตามจับกุมพร้อมกดดันจนกระทั่ง นายแม็ก ตัดสินใจขอเข้ามอบตัว พร้อมรับสารภาพว่าเป็นผู้ลงมือก่อเหตุใช้อาวุธปืนสังหารนายอำพลจริง


ล่าสุด เมื่อเวลา 14.00 น. (30 พ.ย.) พลตำรวจโทธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ได้เดินทางลงพื้นที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาญจนบุรี เพื่อทำการสอบปากคำนายแม็ก ด้วยตนเอง โดยใช้เวลาการพูดคุยอยู่ประมาณ 20 นาที ก่อนจะลงมาแถลงสรุปคดีให้สื่อมวลชนได้รับทราบ โดยผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 กล่าวว่า หลังจากเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนคลี่คลายคดีได้ระดมกำลัง สอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานจนกระทั่งขอศาลอนุมัติออกหมายจับ และเฝ้าติดตามกดดันจนทำให้คนร้ายเข้ามามอบตัว จนสามารถปิดคดีได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งคดีนี้ ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ลงมือก่อเหตุจริง เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการตรวจค้นบ้านของผู้ต้องหา จนพบอาวุธปืน automatic ขนาด 9 มม. ที่ใช้ในการก่อเหตุ รวมถึงรถจักรยานยนต์และเสื้อผ้าที่ผู้ก่อเหตุใช้ในวันก่อเหตุ ในส่วนของมูลเหตุการลงมือสังหารโหดนั้น


เบื้องต้นผู้ก่อเหตุ ให้การว่า เกิดจากความไม่พอใจที่ผู้เสียชีวิต มามีความสัมพันธ์ลึกซึ้งและติดพันแม่ของตน ที่ผ่านมา ผู้ก่อเหตุพยายามพูดคุยเพื่อขอให้ยุติความสัมพันธ์ลง แต่ผู้เสียชีวิตไม่ยินยอม โดยในวันเกิดเหตุนั้น ผู้ก่อเหตุทราบข่าวว่า แม่ของตนเองและผู้เสียชีวิตจะเดินทางไปฉีดวัคซีน ที่โรงพยาบาลพหลพลพยุหเสนา จึงได้ขี่รถจักรยานยนต์ออกมาเพื่อหวังจะพบและพูดคุยกับผู้เป็นแม่ แต่เมื่อขับรถมาจนพบ รถยนต์กระบะของผู้เป็นแม่แล้ว กลับมีปากเสียงกับผู้เป็นแม่อย่างรุนแรงอีกทั้งยังถูกผู้เสียชีวิตด่าเหยียดหยามถึงบุพการี ทำให้ผู้ก่อเหตุเกิดอารมณ์โมโหหนัก จนถึงขั้นใช้อาวุธปืนของผู้เป็นพ่อที่พกติดตัวมา กระหน่ำยิง นายอำพลจนเสียชีวิตคาที่ดังกล่าว


ในส่วนของการแจ้งข้อหาและการสอบสวนเอาผิดกับผู้ก่อเหตุนั้น ทางผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ยืนยันว่า จะให้ความเป็นธรรมกับทั้งผู้เสียชีวิตและญาติของผู้ก่อเหตุอย่างเต็มที่ โดยจะดูจากพยานหลักฐาน วัตถุพยาน ต่างๆอย่างรอบด้าน เพื่อ ทำคดี ให้เกิดความยุติธรรมและตรงไปตรงมาที่สุด


ทั้งนี้ ในระหว่างการแถลงข่าว มีบรรดาญาติของผู้ก่อเหตุเดินทางมาเฝ้ารอดูการแถลงข่าวกันเป็นจำนวนมาก แต่ก็ไม่มีเหตุการณ์วุ่นวายใดๆเกิดขึ้น หลังแถลงข่าวเสร็จเรียบร้อย ไม่ได้มีการนำตัวผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพแต่อย่างใด โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจให้เหตุผลว่า เป็นความต้องการของผู้ก่อเหตุและญาติของผู้ก่อเหตุที่ไม่ต้องการไปทำแผนยังจุดเกิดเหตุ ซึ่งก็สามารถทำได้ตามกฎหมาย แต่ก็ไม่ได้มีผลใดๆในเรื่องของการดำเนินคดีเอาผิดกับผู้ก่อเหตุ เนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจมีพยานหลักฐานครบถ้วน ทั้งกล้องวงจรปิด อาวุธปืน ยานพาหนะ และเสื้อผ้าที่ผู้ก่อเหตุสวมใส่ไปในวันก่อเหตุ

คุณอาจสนใจ