สังคม

เปิดพิรุธ ออก ส.ป.ก.ทับซ้อนแปลงสวนป่า ที่มวกเหล็ก สระบุรีอีกกว่า 600 ไร่

โดย panisa_p

16 ธ.ค. 2567

123 views

ตามต่อกรณี "ไร่ภูนับดาว" เเละปมการออก.ส.ป.ก.4-01 ทับซ้อนเเปลงสวนป่าที่มวกเหล็ก สระบุรี อีกกว่า 600 ไร่ ซึ่งหลายฝ่ายต่างก็ตั้งคำถามไปถึงสำนักงานปฏิรูปที่ดินฯ เเละคณะกรรมการที่ร่วมกันพิจารณาออกใบ ส.ป.ก.ในพื้นที่พิพาท ถูกต้องตามเงื่อนไขเเละเป็นไปตามกระบวนการหรือไม่ หลังปรากฏรายชื่อผู้ที่ได้รับสิทธิ์ในที่ดินบางส่วน มีทั้งนักธุรกิจ ลูกหลานข้าราชการ นายทุนเจ้าของกิจการ ไปจนถึงทายาทตระกูลดัง



พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานเเก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ตั้งคำถามถึงกระบวนการออก ส.ป.ก.4-01 ในพื้นที่พิพาทกว่า 600 ไร่ ซึ่งทับซ้อนกับเเปลงสวนป่าปางหัวช้าง-คลองไทร ที่เมื่อปี 2521 เคยมีการใช้งบประมาณเเผ่นดิน เข้ามาปลูกป่าฟื้นฟูมากถึง 6,640 ไร่



เเม้สำนักงานปฏิรูปที่ดินฯ จะชี้เเจงว่า การสำรวจรังวัดพื้นที่ อ้างอิงตามเเนวเขต One map ซึ่งไม่ตรงกับระวางเเผนที่ของกรมป่าไม้ เเต่สำนักงานทป.ป.ท.เขต 1 ที่เข้ามาสืบสวนสอบสวนก่อนหน้านี้ มีรายชื่อผู้ได้กรรมสิทธิ์ เเละได้ข้อมูลของกลุ่มนายทุนที่เข้ามาทำประโยชน์ มีจำนวนไม่น้อยที่ไม่ได้เป็นเกษตกร



ปมสงสัย ทั้งคุณสมบัติของผู้ได้สิทธิ์เเละการออก ส.ป.ก.ทับซ้อนในเขตป่า ซึ่งบางเเปลงก็เคยถูกดำเนินคดีฐานบุกรุกป่า เเละศาลก็ได้มีคำพิพากษามาเเล้วในปี 2560 เเต่ปรากฏว่าในปี 2565 ผู้ที่เคยถูกศาลสั่งจำคุกเเละสั่งให้ออกจากพื้นที่กลับได้สิทธิ์ ส.ป.ก.4-01 จึงมีคำถามว่า คณะกรรมการใช้หลักเกณฑ์ใดในการพิจารณา ต่อไปนี้คือไทม์ไลน์เบื้องต้น ที่ข่าว 3 มิติสืบค้นข้อมูล โดยจะไล่เรียงเเละขยายให้เข้าใจมากขึ้น



เดิมบริเวณนี้อยู่ในเขตป่าสงวนเเห่งชาติป่าท่าฤทธิ์-ลำทองหลาง-ลำพระยากลาง ต่อมาในปี 2521 มีโครงการปลูกป่า 6,640 ไร่ ใช้ชื่อว่า "สวนป่าปางหัวช้าง-คลองไทร"



ต่อมาปี 2525 มีการเพิกถอนป่าสงวนฯบริเวณนี้ ตามกฏกระทรวงฉบับที่ 985 มอบให้สำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตกรรม หรือ ส.ป.ก. เเต่เนื่องจากเขตมวกเหล็ก ยังมีภูเขาสูงเเละป่าหนาทึบ โดยเฉพาะในเเปลงปลูกป่ากว่า 6 พันไร่ เพื่อรักษาป่าในจุดที่ยังคงสภาพอุดมสมบูรณ์ ราวปี 2541 ทั้งสองหน่วยงานคือ กรมป่าไม้ กับ ส.ป.ก.จึงทำบันทึกข้อตกลงร่วมกัน



เเละนี่คือ สำเนาบัญชีสรุปข้อมูลการตรวจสอบ กันพื้นที่ป่าสงวนฯออกจสกเขตที่จะทำการปฏิรูปที่ดิน เอกสารบางหน้าระบุไว้ชัดเจนว่า ภูเขาสูงชันเเละมีสภาพป่า เเละที่อยู่ในเขตสวนป่า เป็นลักษณะที่ไม่ควรนำไปปฏิรูปที่ดิน



กระทั่งปี 2558 พบการเข้าทำประโยชน์ในเขตที่มีการทำบันทึกข้อตกลง เจ้าหน้าที่จึงเข้าตรวจสอบ-ดำเนินคดีกับผู้บุกรุกเเปลงสวนป่า มีผู้ต้องหา 4 ราย จนปี 2560 ศาลพิพากษาเเละสั่งให้ออกจากพื้นที่



เเละภาพนี้ คือหนึ่งในหลักฐานสำคัญที่เจ้าหน้าที่ใช้ดำเนินคดีกับผู้บุกรุก จากภาพเเปลงส.ป.ก.ของราษฎรทั้ง 3 เเปลงจะเห็นว่า ทิศทางซ้ายมือ ระบุชัดเจนคือติดสวนป่า ซึ่งก็เป็นตำเเหน่งเดียวกับที่ตรวจพบการบุกรุก เพื่อให้เห็นภาพเเละเข้าใจมากขึ้น เมื่อนำทั้ง 3 เเปลงมาซ้อนกัน จะเห็นว่าจุดที่ระบุว่าเป็นสวนป่าเมื่อสักครู่ ก็คือบริเวณที่กลายมาเป็นไร่ภูนับดาวในปัจจุบัน



คำถามคือ ทั้งที่ศาลสั่งเเล้ว ทำไมจากสวนป่าจึงกลายมาเป็นส.ป.ก.4-01 ได้ ข่าว 3 มิติ สืบค้นต่อจนพบว่า กว่า 600 ไร่บริเวณนี้ สำนักงานปฏิรูปที่ดินเพิ่งพิจารณาออกให้ในปี 2565 เเละนี่ก็คือรูปเชพไฟล์ส.ป.ก.ที่ผ่านการรังวัด ขึ้นรูปแปลงไว้ทั้งหมดเเล้ว ที่น่าสังเกตคือ เมื่อตรวจดูละเอียด พบว่ามีหลายเเปลงออกทับในจุดที่ยังมีสภาพป่าหนาทึบ เช่น หลายเเปลงบริเวณนี้ จะเห็นกรอบสีเขียวอ่อน วาดทับลงบนพื้นที่สีเขียวเข้ม



จากข้อมูลนี้ เราจึงค้นต่อว่า กระบวนการพิจารณาออกส.ป.ก.เป็นอย่างไร จนเราได้เจอเอกสาร การประชุมอนุกรรมการปฏิรูปที่ดินอำเภอมวกเหล็ก วันที่ 29 สิงหาคม 2560 มีวาระพิจารณาเรื่องนี้ ซึ่งคณะกรรมการที่มีนายอำเภอในขณะนั้นนั่งเป็นประธาน ร่วมกันพิจารณาออก ส.ป.ก.ให้กลุ่มที่เคยต้องคำพิพากษาในตำเเหน่งที่ดินที่เคยถูกดำเนินคดี โดยให้เหตุผลว่า ภาพถ่ายปี 2529 มีร่องรอยทำประโยชน์ เเละมีความเห็นว่า นี่เป็นการพิจารณาทางปกครอง ซึ่งคนละส่วนกับอาญา



ที่น่าสังเกตต่อมาก็คือ หลังจากต่อสู้เพื่อให้ได้สิทธิในที่ทำกินจนได้ ส.ป.ก.4-01 ในปี 2565 ปรากฏว่าทั้งหมดกลับสละสิทธิ์ไปให้กับ "นักธุรกิจตระกูลดัง" เข้ามาทำประโยชน์" เเต่ฝ่ายตรวจสอบของป.ป.ท. กลับพบว่า การก่อสร้างภูนับดาว มีงบการเงินบริษัทตั้งเเต่ปี 2564



นอกจากนี้ ป.ป.ท. ยังพบว่า กระบวนการออกส.ป.ก.อีกกว่า 600 ไร่ถัดจากภูนับดาว ผู้ได้สิทธิ์ส่วนใหญ่ไม่ใช่เกษตกร เเละหนึ่งในนั้นปรากฏชื่อทายาทข้าราชการระดับสูงในสระบุรี ที่เคยอยู่ในอนุพิจารณาออกส.ป.ก.มวกเหล็กด้วย

คุณอาจสนใจ

Related News