สังคม

'เพื่อไทย' เสนอแก้กฎหมายจัดระเบียบ 'ก.กลาโหม' ด้าน'อนุทิน' ไม่เห็นด้วย

โดย parichat_p

9 ธ.ค. 2567

83 views

ความเคลื่อนไหวเรื่อง ร่างพระราชบัญญัติจัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม ฉบับที่ พ.ศ.โดยนายประยุทธ์ ศิริพานิชย์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรกับคณะ ที่อยู่ระหว่างการรับฟังความคิดเห็น ที่มีเนื้อหาเพิ่มอำนาจฝ่ายการเมืองเข้าไปในสภากลาโหม เช่นการแต่งตั้งนายทหารชั้นนายพลต้องผ่านความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี รวมถึงข้อห้ามการใช้กำลังทหารหรือข้าราชการทหารเพื่อยึดอำนาจจากรัฐบาลหรือก่อกบฏ ส่งผลให้มีความเห็นที่แตกต่างกันในพรรคร่วมรัฐบาล


นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์กรณี พรรคเพื่อไทย เสนอให้มีการรับฟังความเห็น ร่างพระราชบัญญัติจัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม โดยให้อำนาจคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีหน้าที่และอำนาจพิจารณาแต่งตั้งนายทหารชั้นนายพล เพื่อสกัดการรัฐประหาร ว่า ในส่วนของเรื่องอื่นนั้นยังไม่ทราบ แต่ในเรื่องของการสกัดปฏิวัติตนไม่เห็นด้วย เพราะเงื่อนไขการปฏิวัติมีอยู่ไม่กี่เรื่อง นักการเมืองก็ควรทำตัวให้ดี ซื่อสัตย์สุจริต รักษาความสงบ อย่าทำให้แตกความสามัคคีภายในบ้านเมือง เมื่อการเมืองไม่เข้าเงื่อนไขนั้นก็ปฏิวัติไม่ได้


ส่วนหากพรรคเพื่อไทยไปจับมือกับพรรคประชาชน เพื่อสนับสนุนร่างกฎหมายฉบับนี้ นายอนุทิน กล่าวว่า พรรคภูมิใจไทยไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี้ แต่ถ้าจะผ่านความเห็นชอบก็เป็นกระบวนการตามระบอบประชาธิปไตย เราจะไปทำอะไรได้ ต้องเคารพเสียงส่วนมาก ส่วนร่างกฎหมายฉบับนี้มีโอกาสจะไม่ผ่านความเห็นชอบของสมาชิกวุฒิสภาหรือไม่นั้น นายอนุทินตอบว่าไม่รู้ แต่ยืนยันว่าพรรคภูมิใจไทยไม่เห็นด้วย มองว่าไม่มีความจำเป็น เพราะอยู่ในการเมืองมาตั้งแต่ ปฏิวัติ 23 กุมภาพันธ์ 2534 สมัยพลเอกชาติชาย ชุณหะวัณ เห็นว่าเงื่อนไขของการรัฐประหารเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงได้ทั้งนั้น


ด้าน นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล หรือ วิปรัฐบาล ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) คัดค้านร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ว่าด้วยการจัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม ที่เสนอโดยนายประยุทธิ์ ศิริพาณิช สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทยซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการรับฟังความคิดเห็นว่า ยังไม่เห็นรายละเอียด และไม่สามารถตอบแทนพรรคการเมืองอื่น


เมื่อถามว่า มีหลายเรื่องที่พรรคภูมิใจไทยไม่เห็นด้วย เช่น ร่างพ.ร.บ.ประชามติ นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า เป็นความสวยงามในระบอบประชาธิปไตย เมื่อมีผู้ไม่เห็นด้วย คือ สว. ตามกระบวนการต้องยับยั้งร่างกฎหมายดังกล่าวไว้ 180 วัน เมื่อถามว่า การคัดค้านของพรรคร่วมส่วนใหญ่เป็นอุปสรรคต่อการเดินหน้านโยบายของพรรคเพื่อไทยนายวิสุทธิ์ กล่าวว่า นโยบายสำตัญญของรัฐบาลหลายอย่างทำไปได้ดี และทำได้ ยอมรับว่ามีบางอย่างที่ติดขัด ต้องทำความเข้าใจกัน ซึ่งการมีรัฐบาลหลายพรรคต้องมีปัญหาบ้าง อะไรไม่ตรงกันหรือติดขัดต้องเจรจาทำความเข้าใจกัน


ขณะที่นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ภายหลังเป็นประธานกรรมการอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร กรณีนี้ว่าเป็นสิทธิ์ของนายประยุทธ์ ศิริพาณิชย์ สส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ที่จะเสนอ แต่ส่วนตัวยังยังถือกฎหมายของสภากลาโหม แต่วันนี้ต้องฟังความเห็นของทุกส่วน ทุกอย่างอยู่ที่ความเป็นจริงว่าจะทำอย่างไรให้เหมาะสมที่สุด สิ่งสำคัญไม่ได้อยู่ที่ลายลักษณ์อักษร แต่ขึ้นอยู่กับการปฏิบัติของกองทัพในการเข้ามาช่วยเหลือแก้ไขปัญหาประชาชน ส่วนเรื่องระเบียบต่างๆก็สามารถแก้ไขได้อยู่แล้ว


เมื่อถามว่า การเสนอร่างกฎหมายดังกล่าว เป็นเพราะพรรคเพื่อไทยกังวลว่าจะมีการรัฐประหารใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า เป็นความเห็นของคนสองคน ไม่ใช่ความเห็นของพรรคเพื่อไทย ส่วนจะดำเนินการอย่างไรก็ต้องมาพูดคุยกันโดยส่วนตัวเห็นว่ายังต้องดูความเป็นจริง


สำหรับสาระสำคัญของร่างกฎหมายที่เสนอครั้งนี้เป็นการแก้ไข พ.ร.บ. จัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม พ.ศ. 2551 ในส่วนที่เกี่ยวกับการแต่งตั้ง นายทหารชั้นนายพล ต้องผ่านความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี ก่อน และเพิ่มปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเข้าไปเป็นกรรมการในคณะกรรมการพิจารณาแต่งตั้ง


รวมทั้งกำหนดสัดส่วนของสมาชิกสภากลาโหมให้มี นายกรัฐมนตรีเป็นประธาน และมีข้าราชการพลเรือเพิ่มเข้ามา 2 ตำแหน่งคือปลัดกระทรวงการคลัง อธิบดีกรมบัญชีกลาง และลดจำนวนสมาชิกตามตำแหน่งลงเหลือ 14 ตำแหน่ง คณะรัฐมนตรี ต้องเป็นผู้ให้ความเห็นชอบ สมาชิกผู้ทรงคุณวุฒิ 3 คนที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมเลือก


นอกจากนั้นยังขยายเนื้อหาในมาตรา 35 เดิม โดยกำหนดเป็นข้อห้ามการใช้กำลังทหาร หรือข้าราชการทหารเพื่อยึดอำนาจจากรัฐบาลหรือก่อกบฏ ไปจนถึงการทำผิดกฎหมายอื่นๆ โดยให้อำนาจแก่ข้าราชการทหารที่ได้รับคำสั่งให้กระทำการเหล่านี้มีสิทธิไม่ปฏิบัติตามคำสั่งได้ โดยให้ถือว่าการขัดคำสั่งไม่ถือว่าทำผิดวินัยทหารหรือกฎหมายอาญาทหาร แต่ยังคงให้การจะใช้กำลังทหารปราบจลาจลอยู่ที่กระทรวงกลาโหมกำหนดโดยผ่านความเห็นชอบของ ครม.เช่นเดิม

คุณอาจสนใจ

Related News