สังคม

นายกฯ สั่ง 4 แนวทางแก้น้ำท่วมภาคใต้ พร้อมสั่งการช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ

โดย panisa_p

6 ธ.ค. 2567

55 views

นายกรัฐมนตรีมอบหมายรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำท่วมจังหวัดยะลาและปัตตานี เร่งฟื้นฟูในพื้นที่น้ำลด และสั่งการเตรียมการรับมือฝนรอบใหม่ ที่จะมาในวันที่ 13-16 ธันวาคมนี้ ย้ำนายกรัฐมนตรีห่วงใยผู้ประสบภัยที่ต้องให้การช่วยเหลืออย่างทั่วถึง



ชุมชนย่านตลาดเก่าในซอยวิฑูรอุทิศ 13 ต.สะเตง อ.เมือง จ.ยะลา น้ำลดมา 5 วันแล้ว ผู้ประสบภัยกลับเข้าทำความสะอาด เหลือเพียงกองขยะที่มีจำนวนมาก และอยากให้เริ่งเก็บออกไปก่อนฝนชุดใหม่จะมาในวันที่ 13-16 ธันวาคมนี้ ซึ่งบ้านหลังนี้ เป็นพ่อแม่ลูก ที่ทีมข่าว 3 มิติได้พบเมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน ระหว่างต้องให้ลูกลอยคอบนต้นไม้หนีน้ำมากว่า 3 ชั่วโมง และเรือของสมาคมกู้ภัยทางน้ำชายแดนใต้ ได้ช่วยอพยพออกไปท่ามกลางน้ำท่วมสูงกว่า 2 เมตร วันนี้ทั้งครอบครัวปลอดภัยแล้ว แต่ของในบ้านเสียหายทั้งหมด



นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี ร้อมด้วย นางสาวธีรรัตน์ สําเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำท่วมที่ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ หรือ ศอบต. โดย นายสุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ หรือ สทนช. พันตำรวจโท วรรณพงษ์ คชรักษ์ เลขาธิการ ศอบต.และ นายอำพล พงศ์สุวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา รวมถึงจากกรมชลประทาน และเทศบาลนครยะลารายงานสถานการณ์น้ำท่วม ซึ่งส่งผลกระทบใน 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ทั้งสตูล สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส มีประชาชนเดือดร้อนกว่า 1.7 ล้านคน หรือกว่า 47 เปอร์เซ็นต์ ขณะนี้น้ำลดเหลือพื้นที่ริมแม่น้ำปัตตานีที่น้ำท่วมขัง ทุกหน่วยได้กระจายกำลังเข้าไปช่วยเหลือแล้ว



รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลโดยนายกรัฐมนตรี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร มีความเป็นห่วงประชาชนที่ได้รับผลกระทบเป็นอย่างมาก จึงได้มอบหมายให้ลงพื้นที่ มอบหมาย 4 แนวทางเร่งรัดให้ทางจังหวัด และ ปภ.ช่วยเหลือผู้ประสบภัย เตรียมอุปกรณ์รับมือน้ำท่วมรอบใหม่ ในขณะที่ สนทช.กรมชลประทานต้องเร่งระบายน้ำ รวมถึงการจัดการน้ำในเขื่อนบางลางไม่ให้กระทบประชาชน และให้ สนทช.ร่วมกับองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น แจ้งเตือนภัยล่วงหน้า



ซึ่งรองนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวย้ำเรื่องนี้ระหว่างมอบถุงยังชีพให้กับผู้ประสบภัยที่เทศบาลนครยะลา ว่านายกรัฐมนตรีแม้ไม่ได้ลงพื้นที่มาด้วยตัวเอง แต่มอบหมายทุกหน่วยงานเตรียมการและแก้ไขปัญหาให้ทั่วถึง โดยเฉพาะการคาดการณ์ฝนที่จะมีอีกครั้งในวันที่ 13-16 ธันวาคมนี้ สำหรับเขื่อนบางลางจะยังคงอัตราการระบายน้ำที่ 18 ล้านลูกบาศก์เมตร (ล้าน ลบ.ม.) ต่อวัน ซึ่งจะต้องมีการติดตามประเมินสภาพอากาศอย่างใกล้ชิด ซึ่งจากการรายงานของกรมชลประทาน มั่นใจว่าภายใน 7 วันข้างหน้าน้ำในลุ่มน้ำปัตตานี และสายบุรี ยังไม่ล้นตลิ่ง นอกจากที่ตำบลปะกาฮะรังที่สูงหว่าตลอ่ง 80 เซนติเมตร ต้องเตรียมการรับมือฝนใหม่



สำหรับการเยียวยาประชาชนที่ประสบอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ มติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 3 ธันวาคมที่ผ่านมา เห็นชอบอนุมัติการจ่ายเงิน 5,000 ล้านบาท ช่วยเหลือผู้ประสบภัย โดยกรณีที่มีถิ่นที่อยู่อาศัยประจำพื้นที่น้ำท่วมไม่เกิน 7 วัน และมีทรัพย์สินที่ได้รับความเสียหายเกินกว่า 7 วัน ให้มีการช่วยเหลืออัตราเดียวทุกครัวเรือนๆละ 9,000 บาท นอกจากนี้ยังมีสิทธิประโยชน์อื่นๆ ในมาตรการช่วยเหลือจากธนาคารเฉพาะกิจของรัฐและธนาคารพาณิชย์ เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการในพื้นที่ด้วย



ขณะที่นายกเทศมนตรีเทศบาลนครยะลา ยอมรับว่าน้ำท่วมรอบนี้ในตัวเมืองยะลาเสียหายอย่างหนักในรอบ 36 ปี และเป็นเหตุจากฝนตกหนักในพื้นที่ท้ายเขื่อนบางลาง ในตัวเมืองยะลา รวมถึงที่เขื่อนปัตตานี อำเภอแม่ลาน จังหวัดปัตตานีและพื้นที่ปลายน้ำจังหวัดปัตตานี ฝนสะสม 3 วันกว่า 1 พันมิลลิเมตรทุกพื้นที่ ทำให้น้ำท่วมมากและลดลงช้า จากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ทำให้ต้องวางแผนที่จะแก้ปัญหา อย่างเช่นการสร้างเขื่อนกรงปินัง เหมือนเขื่อนปัตตานี ในแม่น้ำปัตตานี และที่แม่น้ำสายบุรี รวมถึงการสร้างเส้นทางบายพาสน้ำไม่ได้เข้าตัวเมือง เพราะหากเกิดกรณีแบบนี้ หรือถึงขั้นเลวร้ายที่มีน้ำเหนือเขื่อนบางลางมามาก จะช่วยบริหารจัดการลดความเสียหายได้



นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และ นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ยังได้ลงพื้นที่เยี่ยมผู้ประสบภัยบ้านยือโมะ ต.ปะกาฮะรัง อ.เมือง จังหวัดปัตตานี ที่ยังมีน้ำท่วม นอกจากให้กำลังใจแล้ว ยังได้กำชับ นางพาตีเมาะ สะดียามู ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี ในการเตรียมการรับมือฝนรอบใหม่ และการกระจายความช่วยเหลือ เร่งรัดเงินเยียวยาให้ถึงมือประชาชน และการเตรียมการศูนย์พักพิงให้พร้อมในการอพยพด้วย

คุณอาจสนใจ

Related News