สังคม

รอง ผบ.ช.น. ยันให้ความเป็นธรรมผู้เสียหาย ตร. 7 นาย รับสารภาพ จ่อแจ้งข้อหาร่วมกันทำร้ายผู้อื่นฯ

โดย parichat_p

5 ธ.ค. 2567

35 views

ความคืบหน้ากรณีตำรวจจราจรกลาง 7 นาย รุมทำร้ายลูกชายคนหนึ่ง เพราะเข้าใจผิดว่าเป็นรถยนต์คันที่ขับฝ่าด่านตรวจ จนบาดเจ็บสาหัส ภายหลังตำรวจทั้ง 7 นาย สารภาพว่า จำรถผิดคัน และเป็นการทำร้ายผิดคน ล่าสุด รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ยืนยันให้ความเป็นธรรม โดยตำรวจทั้ง 7 นาย ต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย เด็ดขาด ส่วนพ่อของผู้บาดเจ็บ ซึ่งเป็นอดีตสารวัตร ตำรวจ บก.ปทส. ระบุว่าอาการ ของลูกชายยังสาหัส และวิธีที่ลูกชายถูกกระทำจากตำรวจจราจรกลางนั้น ไม่ใช่วิธียุทวิธี ของตำรวจ


พันตำรวจโทธนชัย เกิดศรี อายุ 60 ปี อดีต สารวัตร กองกำกับการ 2 กองบังคับการ ปทส. ที่เพิ่งเกษียณราชการเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา เดินทางไปให้ปากคำกับ พนักงานสอบสวน ตำรวจนครบาลบางเขน กรณีนายธนานพ เกิดศรี อายุ 33 ปี ลูกชายของพันตำรวจโทธนชัย ถูกตำรวจ 7 นาย สังกัดกองบังคับการตำรวจจราจร รุมทำร้ายบาดเจ็บสาหัส


พันตำรวจโทธนชัย ระบุว่า พนักงานสอบสวนได้เรียกให้ตนไปชี้จุดเกิดเหตุ และดูภาพจากกล้องวงจรปิดขณะเกิดเหตุ รวมถึงสอบปากคำเพิ่มเติม และหลังจากได้เห็นภาพวงจรปิด แล้ว ระบุว่าทำให้ตนสะเทือนใจ เพราะวิธีการที่ตำรวจทั้ง 7 นาย กระทำต่อบุตรชายตัวเองนั้น ไม่ใช่ยุทธวิธีของตำรวจ และยืนยันว่าตัวเองไม่ได้โกรธแค้น หรือบาดหมางส่วนตัว แต่ขอให้คดีเป็นไปตามกฎหมาย


พันตำรวจโท ระบุด้วยว่าลูกชายยังรักษาตัวที่โรงพยาบาล โดยมีอาการสาหัส บาดเจ็บที่ดวงตาและศีรษะ หลังจากนี้แพทย์จะต้องสแกนสมอง เพื่อตรวจสอบความผิดปกติอย่างละเอียดอีกครั้ง


และเมื่อ 20.20 น. ที่ผ่านมา พันตำรวจตรีกันตพัฒน์ ประเศรษฐสุด สารวัตรสอบสวน นครบาลบางเขน ร้อยเวรเจ้าของคดี เปิดเผยว่าเพิ่งกลับจากไป เยี่ยมอาการ ผู้บาดเจ็บและสอบปากคำเบื้องต้น ตอนนี้อยู่ระหว่างรวบรวมรายละเอียดทั้งหมด เพื่อประกอบพยาน หลักฐานแวดล้อม รวมถึงทั้งกล้องวงจรปิด เพื่อรวบรวมไว้ในสำนวนคดี


เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อประมาณ 01.40 น. ของวันที่ 4 ธันวาคมที่ผ่านมา ตำรวจกองบังคับการจราจร ตั้งด่านตรวจแอลกอฮอล์ที่บริเวณถนนเกษตร-นวมินทร์ ระหว่างนั้น มีรถยนต์มาสด้า สีแดง ที่สงสัยเมาแล้วขับ ตำรวจจึงเชิญให้เข้าช่องเป่าแอลกอฮอล์ แต่รถคันนั้นได้ขับฝ่าด่านตรวจไปด้วยความเร็ว


หลังจากนั้นรถของนายธนานพ ที่ผ่านการเป่าวัดแอลกอฮอล มาแล้วถึง 3 ครั้ง ผลวัดแอลกอฮอล์ เป็น ศูนย์ แต่รถไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน จึงถูกว่ากล่าวตักเตือนแล้วอนุญาตให้ไป เป็นจังหวะเดียวกับที่รถคันที่ขับฝ่าด่าน เป็นรถสีเดียวกันกับผู้เสียหาย ตำรวจได้ตระโกนว่ามีรถฝ่าด่าน ทำให้ตำรวจ 7 นาย ซึ่งในจำนวนนี้มีตำรวจนอกเครื่องแบบ 4 นาย ที่ออกเวรแล้ว แต่อยู่ใกล้ที่เกิดเหตุ ได้ช่วยขับตาม กระทั่งเกิดการรุมทำร้ายจนบาดเจ็บดังกล่าว ต่อมาจึงยอมรับว่าเป็นรถผิดคัน


นางสาวธนัชตา น้องสาวผู้บาดเจ็บ บอกว่า ทันทีที่รู้ว่าพี่ชายถูกทำร้าย เธอได้ออกไปด่านตรวจทันที และพยายามสอบถามว่ามีใครบ้างที่ทำร้ายพี่ชาย เธอบอกว่าตำรวจเอา แต่ก้มหน้าโดยไม่มีคำตอบให้ เธอยังระบุว่าตำรวจที่ตั้งด่านในวันดังกล่าวมีกล้องติดหน้าอกทุกนาย ซึ่งเธอพยายามที่จะขอดู แต่ก็อ้างว่ากล้องเสียบ้าง เปิดไม่ได้บ้าง เธอจึงอยากให้ ตำรวจเปิดเผยเพื่อยืนยันเหตุการณ์ เพราะเธอเองก็มีหลักฐาน และคนในที่เกิดเหตุที่เป็นพยานได้ ขึ้นอยู่กับว่าตำรวจที่ก่อเหตุ จะกล้าหรือไม่


พลตำรวจตรีนพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ยืนยันให้ความเป็นธรรมต่อผู้เสียหาย และยอมรับว่าผลการสอบข้อเท็จจริง ของกองบังคับการจราจร พบว่ามีมูลสอดคล้องกับข้อมูลญาติ และตำรวจทั้ง 7 นาย ก็สารภาพ เบื้องต้นจะแจ้งข้อกล่าวหาร่วมกันทำร้ายผู้อื่นให้ได้รับอันตรายแก่กายและใจ ส่วนข้อหาอื่นๆ หากครบองค์ประกอบข้อหาอื่นก็จะดำเนินคดีเพิ่มเติม

คุณอาจสนใจ

Related News