สังคม

คณะกมธ.ที่ดินฯ มีมติลงพื้นที่สอบ ส.ป.ก.ไร่ภูนับดาว ด้านตร.ยัน พบเส้นเงินโยง 'หวานใจบิ๊กการเมือง' เกือบพันล้าน

โดย panwilai_c

4 ธ.ค. 2567

42 views

ข่าว 3 มิติ ยังตามต่อกรณีไร่ภูนับดาว ที่มวกเหล็ก สระบุรี ซึ่งถูกกล่าวหาใช้ที่ ส.ป.ก.ผิดวัตถุประสงค์ วันนี้มีความเคลื่อนไหวมาจาก"คณะกรรมาธิการการที่ดินฯ" สภาผู้เเทนราษฎร มีมติจะลงพื้นที่เข้าไปตรวจสอบที่ดินเเปลงนี้ในวันที่ 13 ธันวาคม ส่วนการสืบสวนขยายผลของตำรวจ บก.ปปป. ล่าสุด รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พล.ต.อ.จรูญเกียรติ ปานเเก้ว ยืนยัน พบเส้นเงินเกี่ยวโยงกับหวานใจนักการเมืองเกือบ 1,000 ล้าน



พล.ต.ต. จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ให้สัมภาษณ์ความคืบหน้าการตรวจสอบคดีรุกที่ ส.ป.ก. จังหวัดสระบุรี ที่มีเส้นทางการเงินไปเชื่อมโยงถึง นางสาว ช. หวานใจนักการเมือง ที่มีตำแหน่งถึงอดีตรองนายกรัฐมนตรี โดยบอกว่า เท่าที่ทราบข้อมูลจากแหล่งข่าวที่น่าเชื่อถือได้ พบว่าเส้นเงินดังกล่าวมีมูลค่าถึงเกือบ 1,000 ล้านบาทจริง เป็นเงินหมุนเวียนผ่านบัญชี แต่การที่มีเส้นเงินเชื่อมโยงจากกลุ่มเป้าหมายเชื่อมโยงไปถึง ก็ต้องตรวจสอบก่อนว่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่



พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า เรื่องนี้ต้องสืบสวนตามขั้นตอน ตำรวจต้องเดินตามหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ พร้อมกับยอมรับว่า บก.ปปป. อยากที่จะนำเรื่องนี้กลับมาทำ เพราะก่อนหน้านี้คณะทำงานคดีนี้ก็อยากจะให้ บก.ปปป. ทำ แต่เพิ่งมาทราบว่าหลังผ่านไป 4-5 เดือน สำนวนกลับไปอยู่ที่ ป.ป.ช. ซึ่งไม่ทราบเหตุผล



เรื่องนี้เป็นเรื่องการทุจริตของข้าราชการกับนายทุน ซึ่ง บก.ปปป. ก็เคยทำคดีบุกรุกที่ดิน ส.ป.ก. ที่จังหวัดนครราชสีมา มาแล้ว เรื่องนี้ก็มีความเกี่ยวเนื่องกัน มีแผนประทุษกรรมคล้ายกัน ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของ ป.ป.ช. ว่าจะมอบหมายให้ใครเป็นผู้ทำคดี และหากได้ทำคดีนี้ก็ไม่ลำบากใจที่จะต้องดำเนินคดีกับบุคคลที่ปรากฏเป็นข่าว เพราะก็พูดตั้งแต่แรกที่มีการเข้าตรวจค้นบริษัทภูนับดาวแล้วว่า ถ้าพบความผิดให้ดำเนินการเลย เป็นการเชือดไก่ให้ลิงดู



อีกด้านหนึ่ง มีความเคลื่อนไหวมาจากนายพูนศักดิ์ จันทร์จำปี ประธาน กรรมาธิการ การที่ดิน ฯ สภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยว่า ที่ประชุมกรรมาธิการ มีมติให้ลงพื้นที่ตรวจสอบประเด็นปัญหา รีสอร์ทไร่ภูนับดาว โดยจะมีการเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ตรวจสอบในวันที่ 13 ธันวาคมนี้



เพื่อสอบข้อเท็จจริงในการใช้เอกสารสิทธิ์ของ ส.ป.ก. ดำเนินการโดยชอบหรือไม่ โดยย้ำว่าไม่ได้มองเป็นประเด็นทางการเมือง แต่เป็นการตรวจสอบต่อเนื่องตามที่ดำเนินการมา โดยเฉพาะการแจกจ่ายที่ดิน ส.ป.ก. และการดำเนินการใช้สิทธิ์ของผู้ที่ได้รับที่ดิน ซึ่งถือเป็นปัญหาหลักของประเทศ เพื่อมาสรุปและทำเป็นนโยบายเสนอให้รัฐบาลแก้ไข ช่วงหนึ่ง ผู้สื่อข่าวถามถึงกระแสข่าว มีหวานใจนักการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้องกับที่ดิน นายพูนศักดิ์ ยืนยันว่าการลงพื้นที่ครั้งนี้ไม่ได้ดูว่าการเมืองทำให้มีประเด็นนี้เกิดขึ้นหรือไม่ แต่เป็นการตรวจสอบการดำเนินงานของภาครัฐ ว่ามีประเด็นใดบ้างที่ทำโดยมิชอบ ส่วนเส้นทางการเงินนั้น คิดว่าเกินขอบเขตของกรรมาธิการที่ดิน แต่ควรจะเป็นคณะอื่นมากกว่า



ล่าสุดสำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม หรือ ส.ป.ก.ชี้แจงเป็นเอกสาร ยืนยันว่า ที่ดินไร่ภูนับดาวไม่ได้เป็นพื้นที่ปลูกสวนป่าปางหัวช้าง ตามที่ทางปปท.เขต 1 ลงพื้นที่ตรวจสอบพร้อมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเมื่อ 7 พฤษภาคมที่ผ่านมา โดยบอกว่าข้อเท็จจริง คือที่ดังกล่าว เนื้อที่ 112 ไร่ 3 งาน 68 ตารางวา อยู่ในป่าท่าฤทธิ์ ป่าลำทองหลวง และป่าลำพญากลาง (ป่าโซนF) เป็นที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดินหมู่ 2 ตำบลหนองย่างเสือ อำเภอมวกเหล็ก จังหวัดสระบุรี จากการตรวจสอบพบเกษตรกรได้รับการจัดที่ดิน 13 แปลง ในชื่อ ไร่ภูนับดาว



เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคมที่ผ่านมา ส.ป.ก.สระบุรี ตรวจสอบพบ มีการใช้ผิดวัตถุประสงค์ 6 แปลง จาก 13 แปลง จึงมีหนังสือให้ปฎิบัติให้ถูกต้องตามระเบียบของส.ป.ก.สระบุรี



คือไม่เปลี่ยนแปลงสภาพดิน จนเป็นเหตุให้เสื่อมสภาพต่อการประกอบเกษตรกรรม รวมทั้งไม่ปลูกสร้างเกินสมควร ต่อมามีการยื่นคำขอรับอนุญาติใช้ที่ดิน 3 แปลงเนื้อที่ราว 3 ไร่เศษ เพื่อเป็นศูนย์เรียนรู้โครงการศูนย์การเรียนรู้เกษตรกรรมนวตกรรมยั่งยืนไร่ภูนับดาว ซึ่งทางส.ป.ก.สระบุรีพิจารณาให้ใช้ที่ดินโดยการเช่า



ปรากฎว่า เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมาว่า อาคารสิ่งปลูกสร้างในที่ดินดังกล่าว ถูกนำไปใช้เป็นที่ทำการของบริษัทไร่ภูนับดาว ที่ยังไม่ได้ดำเนินการตามกฎหมาย ให้ถูกต้องตาม กฎหมาย ของหน่วยงานอื่นจึงยังไม่เป็นที่ยุติ ว่า ส.ป.ก.และหน่วยงานอื่นจะดำเนินการอย่างไร จึงมีหนังสือแจ้งให้ผู้ได้รับอนุญาตทราบ ว่า จะมีการทบทวนการอนุญาต ให้ใช้ ที่ดินเพื่อโครงการศูนย์เรียนรู้ฯอย่างไร พร้อมเปิดโอกาสให้นำหลักฐานมาแสดงโต้แย้งได้ภายใน 30 วัน และขอให้หยุดประกอบ กิจการจนกว่าส.ป.ก.สระบุรี จะพิจารณาทบทวน คำสั่งให้เป็นข้อยุติต่อไป



ขณะที่ข่าว 3 มิติ ตรวจสอบไปที่ ผู้อำนวยการสำนักงานป้องและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐเขต1 หรือปปท.เขต1 ซึ่งเป็นชุดที่เข้าไปตรวจสอบที่ดิน บริเวณนี้พร้อมกับเจ้าหน้าที่ป่าไม้ กอ.รมน.และตัวแทนจากส.ป.ก.สระบุรี ถึงคำชี้แจงล่าสุดของสำนักงานปฎิรูปที่ดินฯ



โดยทางผอ.ปปท.เขต 1 ยืนยันว่าที่ดินดังกล่าว เป็นสวนป่า โดยมีบันทึกร่วมกันไว้แล้วว่าเป็นสวนป่า ที่ต้องกันออกจาก สปก. และมีคำพิพากษาศาลฎีกา 24/2563 ว่าแปลงที่บุกรุก นั้นเป็นสวนป่า แต่หลังจาก มีการออก ส.ป.ก.ไปแล้ว ทำให้ผู้ถูกดำเนินคดีเรื่องออกเอกสารมิชอบหลายคน เช่นอดีตรองผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี ที่ขณะนั้นเป็น นายอำเภอมวกเหล็ก และเจ้าหน้าที่ สปก.อีกหลายคน ในความผิดอาญามาตรา 157 ฐานปฎิบัติหน้าที่มิชอบ จากกรณีทราบอยู่แล้วว่าเป็นสวนป่า ซึ่งได้ส่งสำนวนคดีไป ปปช.ก่อนหน้านี้แล้ว

คุณอาจสนใจ

Related News