ปัตตานีวิกฤต ฝนตกสมทบมวลน้ำจากยะลา ทำน้ำท่วมหนักสุดเป็นประวัติการณ์

เกาะติดสถานการณ์น้ำท่วมภาคใต้ต่อเนื่อง วันนี้ที่จังหวัดปัตตานี ถือว่า สถานการณ์วิกฤตหนักสุดในประวัติศาสตร์แล้ว โดยเฉพาะที่อำเภอหนองจิก อำเภอเมือง และอำเภอสายบุรี ต้องการความช่วยเหลือในการอพยพประชาชน ขณะที่เส้นทางเข้าเมืองมีน้ำท่วม ต้องใช้รถบรรทุกขนาดใหญ่เท่านั้น



ตั้งแต่ช่วงเช้าที่ทีมข่าว 3 มิติใช้รถยกสูงฝ่ากระแสน้ำที่ท่วมถนน 418 ออกจากอำเภอเมือง จังหวัดยะลา พบว่ามีน้ำท่วมตลอดทาง โดยเฉพาะเมื่อเข้าเขตตำบลดาโต๊ะ พบว่าบนสะพานบ้านแม่โอน มีรถยนต์และผู้ประสบภัยมารอความช่วยเหลือ รวมถึงบริเวณถนนด้านล่างที่น้ำท่วมและเชี่ยวแรง เช่นเดียวอีกฝั่งถนนริมคลองชลประทาน บ้านโคกหมักมีชาวบ้านมาขอเรือไปอพยพคนในหมู่บ้าน และขออาหาร เพราะจุดนี้ไม่มีรถยนต์เข้าถึง และยังต้องรับน้ำจากจังหวัดยะลาทำให้น้ำท่วมหนัก



ต่อเนื่องมาที่บ้านไร ตำบลคอลอตันหยง น้ำเริ่มท่วมตั้งแต่เมื่อคืน ชาวบ้านไม่คิดว่าน้ำจะหนักขนาดนี้ จึงได้อพยพวัว แพะ และรถยนต์มาได้บางส่วน ที่เหลือจอดจมน้ำอยู่ตามบ้าน อยากให้มีการมาตั้งเตนท์อพยพบนสะพานเพราะปลอดภัยที่สุดแล้ว



นี่เป็นภาพพื้นที่ตำท่วมสองฝั่งถนนสาย 418 พื้นที่ตำบลหนองจิก ตั้งแต่ตำบล คอลอตันหยง ตำบลปุโละปุโย และตำบลลิปะสะโง ซึ่งกินพื้นที่บริเวณกว้าง จุดนี้เรียกว่าถูกตัดขาด เพราะถนนจากแยกดอนยางมีน้ำท่วม รวมถึงมีหลายหมู่บ้านที่ต้องการอพยพประชาชน มีเรือไม่เพียงพอ อย่างที่ อบต.ลิปะสะโง มีเรือเพียง 1 ลำ นายกอบต.ลิปะสะโง ใช้ในการอพยพชาวบ้านมาที่พักพิง และกำลังหาอาหาร ซึ่งขาดแคลนเพราะเส้นทางถูกตัดขาด ซึ่งจะเห็นได้ว่าพื้นที่น้ำท่วมกินบริเวณกว้างต่อเนื่องไปถึงตำบลดอนรัก อำเภอหนองจิก และ อำเภอเมืองจังหวัดปัตตานี ซึ่งทำให้การช่วยเหลือในพื้นที่ด้านในยากลำบาก



ขณะเดินทางผ่านบ้านคลองขุด พบชาวบ้านหนีน้ำมาอยู่บนถนนมีการการเต้นท์และมีแคร่ให้เด็กอายุ 2 เดือน อยู่ในที่ปลอดภัย รวมถึงคนชรา และพบว่ามีการขนไก่ชนหนีน้ำมาอยู่บนเกาะกลางถนนกว่า 30 ตัว ชาวบ้านบอกว่าที่หมู่บ้านนี้น้ำท่วมทุกปีแต่ปีนี้หนักสุดในชีวิต และตกใจเมื่อรู้ว่านี่เป็นเพียงน้ำฝนที่ตกในอำเภอหนองจิก ยังไม่ใช่น้ำที่มาจากยะลา จึงอยากรู้ข้อมูลที่ชัดเจนจากภาครัฐ ซึ่งจุดนี้ต้องการอาหารและอพยพไปที่ปลอดภัย



พื้นที่อำเภอหนองจิกวิกฤตหนัก เพราะระหว่างเดินทางจากตำบลดอนรักเพื่อไปยังที่ว่าการอำเภอหนองจิกในตำบลตุยง น้ำท่วมถนนอีกฝั่งจรจร สามารถใช้รถยกสูงได้ช่องทางเดียว ระหว่างทางพบว่าน้ำท่วมบ้านเรือนร้านค้า ส่วนราชการและน้ำเชี่ยวแรง ประชาชนต่างอพยพสิ่งของท่ามกลางฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก



ซึ่งที่อำเภอหนองจิก ถือว่าน้ำท่วมหนักสุดในประวัติศาสตร์ เพราะน้ำท่วมทุกปีเพราะเป็นเส้นทางน้ำก่อนออกทะเล แต่ปีนี้น้ำมามาก ชาวบ้านไม่คาดคิดว่าน้ำจะท่วมหนัก ในขณะที่โรงพยาบาลหนองจิก น้ำท่วมจนต้องอพยพคนไข้และเจ้าหน้าที่ออกไปตั้งแต่เช้าที่ผ่านมา



ที่หน้าโรงพยาบาลหนองจิกน้ำเชี่ยวแรงมาก และพบว่ามีรถยนต์จอดจมน้ำจำนวนมาก ซึ่งพบว่าเป้นรถของเจ้าหน้าที่โรงพยาบาล ซึ่งเราพบเจ้าหน้าที่กลุ่มหนึ่งที่หนีน้ำอยู่ในรถสองแถว พวกเขาบอกว่า หลังช่วยอพยพคนไข้ ก็มาหาทางกลับบ้านที่บ่อทอง ซึ่งเจ้าหน้าที่กว่า 11 คน รอรถบรรทุกไปส่ง ยอมรับว่าน้ำท่วมหนักมากอย่างที่ไม่เคยพบมาก่อน



อำเภอหนองจิกวิกฤตเพราะเป็นเส้นทางน้ำและมีฝนตกหนักสะสม 3 วันเกือบ 900 มม ทำให้น้ำท่วมถนนสายหลักตั้งแต่ถนนสายเอเชียที่บ้านเกาะหม้อแกงอำเภอหนองจิก จนถึงแยกดอนยาง ทางไปถนน 418 เลี่ยงเมืองไปจังหวัดปัตตานี ยะลา และนราธิวาส ถูกตัดขาด รถเล็กรถยนต์ยกสูงก็ไม่สามารถไปได้ มีเพียงรถบรรทุกสูงเท่านั้น รวมถึงสาย 42 หนองจิก-ปัตตานี น้ำท่วมสูง มีรถบรรทุกทหารและเอกชนคอยช่วยลำเลียงคนที่จะเข้าเมืองปัตตานี รวมถึงทีมข่าว 3 มิติที่ต้องใช้เวลาเกือบ 3 ชั่วโมงถึงตัวเมือง



ตลอดทางเห็นสภาพน้ำท่วมหนักในอำเภอหนองจิก บางจุดที่สูงจะเป็นจุดอพยพมีการมาตั้งเต้นท์เป็นระยะ แต่ตลอดทางมีรถยนต์ที่จมน้ำเพราะกระแสน้ำเชี่ยวแรงด้วย ชาวหนองจิกบอกว่านี่คือน้ำท่วมมากที่สุดในประวัติศาสตร์



ส่วนในตัวเมืองปัตตานีน้ำท่วมถนนเข้าเขตเทศบาลเมืองปัตตานี ตั้งแต่หน้าห้างบิ๊กซี และโรงแรมซีเอสน้ำท่วมถนนจนเข้าไปถึงด้านหน้าโรงแรงถือว่าหนักสุดในรอบ 30 ปี และเมื่อมาถึงวงเวียนหอนาฬิกาน้ำท่วมถนนสายหน้า ม. ไปทางมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์และถนนสายหนักไปยังโรงพยาบาลปัตตานี ที่มีน้ำท่วมไปถึงหน้าอาคาร แต่โรงพยาบาลไม่ปิด



นางพาตีเมาะ สดียามู ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี เปิดเผยว่า จะต้องรักษาไข่แดงโรงพยาบาลปัตตานีไว้ เพราะเป็นศูนย์กลางดูแลผู้ป่วยที่โรงพยาบาลปิดไปแล้ว 3 แห่งคือที่ รพ.หนองจิก ยะรัง และยะหริ่ง โดยสถานการณ์น้ำท่วมจังหวัดปัตตานีปีนี้ถือว่าหนักสุดในประวัติศาสตร์



ทั้งจากปริมาณฝนสะสมในทุกอำเภอมากที่สุดในอำเภอยะรัง โคกโพธิ์ หนองจิก สายบุรีและอำเภอเมือง รวม 3 วัน ตั้งแต่ 300 มิลลิเตร จนสูงสุดคาดว่าจะถึง 1,000 มม. ทำให้น้ำท่วมปัตตานีมากกว่าปกติกว่า 3 เท่า รวมถึงน้ำที่จะมาจากยะลา และอิทธิพลน้ำทะเลหนุน อาจทำให้จังหวัดปัตตานีต้องมีน้ำท่วมไปอีก 7-10 วัน และคืนนี้ตั้งแต่ 21.00 น. น้ำจากจังหวัดปัตตานีจะมาถึงที่ตัวเมืองทำให้น้ำในแม่น้ำปัตตานีจะสูงสุดถึง 2 เมตร เพิ่มจากวันนี้ที่อยุ่ประมาณ 1.5 เมตร จึงทำให้น้ำเพิ่มขึ้นประมาณ 50 เซนติเมตร จึงขอให้พี่น้องประชาชนอพยพมาที่ปลอดภัย



ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานีเปิดศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ที่ศาลากลาง ซึ่งมีน้ำท่วมเข้าไปภายในด้วย แต่มีโรงครัวพระราชทาน และโรงครัวปภ.ไว้กระจายอาหารสดและอาหารแห้ง รวมถึงศูนย์รับเรื่องช่วยเหลืออพยพประชาชน ตลอด 24 ชั่วโมง ประสานกับท้องถิ่นและฝ่ายปกครองเข้าช่วยประชาชนให้ได้มากที่สุดท่ามกลางข้อจำกัดที่ถนนถูกตัดขาด

โดยวันพรุ่งนี้จะมีเรืออีก 25 ลำ เจ็ตสกีอีก 10 ลำมาถึง รวมถึงการเปิดศูนย์บัญชาการทางอากาศที่สนามบินบ่อทองพร้อมส่งอาหารทางอากาศแต่ยังทำไม่ได้เพราะฝนตกหนัก