สั่งสอบ ตร.รีด 5 แสน แลกปล่อยตัวคดียาเสพติด ยันฟันโทษขั้นเด็ดขาดหากผิดจริง

จากกรณีที่มีหญิงคนหนึ่ง ที่อำเภอโพธาราม แจ้งความที่สภ.เขาดิน จังหวัดราชบุรี ถูกเจ้าหน้าที่ตำราวจ ต.ช.ด.137 จับกุมพร้อมกับสามี ตั้งข้อหามียาบ้าไว้ครอบครอง เมื่อคืนวันที่ 19 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ก่อนจะควบคุมตัวตัวเองและสามีไปสอบสวนที่ กองร้อย ต.ช.ด.137 อ.สวนผึ้ง



ทางชุดจับกุมบางคน ได้เจรจาขอเรียกเงิน 5 แสนบาท เพื่อปล่อยตัวทั้งหมด แต่ตนมีเงินติดตัวมาแค่ 8 หมื่น และสร้อยคอทองคำน้ำหนัก 3 บาท แหวนทองอีก 3 วง น้ำหนักรวม 5 บาท ทางชุดจับกุม จึงได้ให้ไปถอดทรัพย์สิน ไปวางใว้ที่ท้ายรถกระบะ แล้วได้ปล่อยตัวตนกลับบ้านไปเพียงคนเดียวก่อน ล่าสุดผู้บังคับตำรวจภูธรจังหวัดราชบุรีมีคำสั่งสอบสวนข้อเท็จจริง ยืนยันว่าหากมีความผิดจริงจะดำเนินการขั้นเด็ดขาดทันที



พล.ต.ต.วชิรพงษ์ อมราพิทักษ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดราชบุรี สั่งการให้พนักงานสอบสวน สภ.เขาดิน ส่งสำนวนการสอบสวนดังกล่าวให้กับ พนักงานสอบสวน สภ.สวนผึ้ง ซึ่งเป็นท้องที่เกิดเหตุซึ่งพนักงานสอบสวนของ สภ.สวนผึ้ง ได้รับสำนวนไว้แล้วโดยได้เดินทางมารับตัว นางอารีย์ ทองคำ ผู้เสียหาย ไปที่ สภ.อ.สวนผึ้ง เพื่อทำการสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ ให้ครบถ้วน ทั้งนี้ได้สั่งการให้ทำการสอบสวนให้ปรากฏข้อเท็จจริงให้ ชัดเจน หากพบการกระทำผิด ให้ดำเนินการทั้งทางวินัย และทางอาญา ขั้นเด็ดขาดทันที



พร้อมทั้งสั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เขาดิน และสภ.โพธาราม ร่วมกัน เข้าไปตรวจเยี่ยม ผู้เสียหาย เพื่อดูแลรักษาความปลอดภัย และสร้างความมั่นใจให้กับผู้เสียหาย และครอบครัว ทางชุดจับกุมได้ประสานงานนำเงินมามอบให้กับผู้เสียหาย จำนวน 280,000 แล้ว



พ.ต.ท.อภิมุข ธนเดชคุณาภรณ์ รองผู้กำกับการปราบปราม รักษาราชการผู้กำกับสภ.เขาดิน อ.โพธาราม จ.ราชบุรี กล่าวว่า ตามที่เป็นข่าวว่ามีการจับยาเสพติดในพื้นที่ของสภ.เขาดิน แต่ยังไม่ได้มีการนำส่งสภ.เขาดิน แต่นำกลับไปสอบที่กองร้อยตชด.137 อ.สวนผึ้ง ต่อมาถึงได้นำผู้ต้องหาและของกลางเข้าสู่ระบบ ซึ่งในช่วงนั้นไม่ทราบว่ามีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้น ต่อมาก็มีภรรยของผู้ที่ถูกจับมาร้องขอความเป็นธรรม ว่ามีการเรียกรับเงิน ซึ่งทางพนักงานสอบสวนก็ได้ทำการสอบสวนแต่ปรากฎว่าเหตุการณ์นั้นเกิดขึ้น ในพื้นที่ของสภ.สวนผึ้ง ทางพนักงานสอบสวนของสภ.เขาดิน ก็ได้ทำการเอกสารโดยมีใบปะหน้าตามระเบียบ ซึ่งหากเกิดเหตุในพื้นไหนเมื่อมีการตรวจสอบแล้วก็จะต้องส่งเรื่องไปให้ท้องที่นั้นรับผิดชอบ ซึ่งเป็นการดำเนินการตามขั้นตอน



ส่วนกรณีที่มีข่าวเรื่องของการนำเงินมาคืนผู้เสียหายนั้นเบื้องต้น ตามที่ภรรยาของผู้เสียหายมาร้องในช่วงแรกนั้นก็เพื่อต้องการเงินและของที่ถูกยึดไปคืน ซึ่งทางตำรวจก็จะต้องดำเนินการตามวัตถุประสงของผู้ร้อง แต่ปรากฎเป็นข่าวเรื่องที่ผู้จับกุมยึดเงินไป รู้เรื่องนี้เข้าจึงได้ให้คนนำเงินจำนวน 280,000 บาท มาคืนให้กับผู้ร้อง ซึ่งทางผู้ร้อง จะรับหรือไม่ก็แล้วแต่ แต่ผู้ร้องได้ยินดีรับเงินจำนวนนี้คืน ซึ่งทางคนที่จับกุมอ้างว่าเป็นการเยียวยา ส่วนในทางคดีนั้น การเรียกรับเงินเป็นคดีอาญาทางตำรวจก็จะต้องดำเนินการตามกฎหมายต่อไป



ในเบื้องต้นสำนวนจะส่งเรื่องไปสภ.สวนผึ้ง และทางสภ.สวนผึ้งก็จะต้องส่งเรื่องให้ทางปปช. เนื่องจากผู้ถูกกล่าวหาเป็นข้าราชการ ทางปปช.ก็จะต้องมีการชี้มูล ซึ่งอาจจะส่งเรื่องกลับมาให้ทางสภ.สวนผึ้งดำเนินการต่อ หรือทางปปช.จะดำเนินการเองก็ได้



ซึ่งในเบื้องต้นได้ตั้งข้อกล่าวหา ความผิดฐาน ร่วมกันเป็นเจ้าพนักงานเรียกรับสินบนฯ ร่วมกันกรรโชกทรัพย์ฯ และร่วมกันกักขังหน่วงเหนี่ยว



ส่วนนางอารีย์ ทองคำ ผู้เสียหาย ก็บอกว่า มีคนโทรมาบอกว่าอยากคุยด้วย อยากขอโทษ และตอนนี้ทางฝั่ง ตชด. ก็เอาเงินมาคืนรวมทั้งราคาทองคำที่ยึดไปด้วย โดยเขาให้บาทละ 40,000 บาท ในส่วนของคดีนั้นก็ไม่อยากเอาเรื่อง ซึ่งไม่ได้มีการข่มขู่แต่ก็ยังรู้สึกกลัว ส่วนทองคำที่ถูกยึดไปนั้น ได้มาจากการขายหมูไป 21 ตัว แล้วนำเงินไปซื้อทอง