สังคม

'สนธิ' เข้ายื่นร้องเอาผิดมรรยาท 'ทนายษิทรา-ทนายเดชา' ยันดำเนินการสุดซอย!

โดย panwilai_c

21 พ.ย. 2567

10 views

นายสนธิ ลิ้มทองกุล สื่อมวลชนอาวุโส พร้อมด้วย เดินทางไปยื่นหนังสือร้องเรียนต่อ คณะกรรมการมรรยาททนายความ สภาทนายความ เพื่อให้ดำเนินการตรวจสอบและเอาผิดมรรยาทนายความ กับนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม และนายเดชา กิตติวิทยานันท์



โดยนายสนธิ ลิ้มทองกุล เดินทางไปพร้อมกับนายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต เพื่อยื่นหนังสือร้องเรียนต่อคณะกรรมการมรรยาททนายความ ให้ดำเนินการตรวจสอบและเอาผิดมรรยาทนายความกับนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม และนายเดชา กิตติวิทยานันท์ หรือทนายเดชา โดยมีนายสุชาติ ชมกุล อุปนายกฝ่ายกิจการพิเศษ กำกับดูแลงานมรรยาททนายความ สภาทนายความ เป็นผู้รับหนังสือคำร้องดังกล่าว



นายสนธิ กล่าวว่า เพราะสิ่งที่ทนายษิทรา กระทำต่อนางจตุพร อุบลเลิศ หรือมาดามอ้อย ไม่ใช่เพียงแค่เรื่องของการฉ้อโกงหรือฟอกเงินเท่านั้น แต่เป็นขบวนการของคนที่รู้กฎหมาย แล้วใช้ความรู้กฎหมายมาเอารัดเอาเปรียบคนที่ไม่รู้กฎหมาย



วันนี้ ตนได้รับมอบอำนาจจากนางจตุพร ให้ดำเนินคดีและดำเนินการทางกระบวนการยุติธรรม ที่เกี่ยวข้องกับคดีที่ทนายษิทรา ฉ้อโกงทั้งหมด ซึ่งเป็นการผิดจรรยามรรยาททนายความ ส่วนทางสภาทนายความจะดำเนินการลงโทษ ก็ขึ้นกับการพิจารณา



นอกจากนี้ ยังได้ยื่นเพื่อเอาผิดมรรยาททนายความกับทนายเดชา กิติวิทยานันท์ด้วย กรณีกล่าวหาว่าตนฉ้อโกงเงินธนาคาร และตบทรัพย์สายการบินใหญ่ของประเทศ หรือตบทรัพย์นักการเมืองอาวุโสรายหนึ่ง พร้อมกันนี้ยังได้ยื่นพยานหลักฐานที่เป็นบรรดาโพสต์ Facebook ต่าง ๆ และการพูดวิเคราะห์ของทนายเดชา ซึ่งหวังว่าทางสภาทนายความจะให้ความเป็นธรรม



และ ภายในเดือนธันวาคม ก็จะไปยื่นเรื่องกับกรมสรรพากรเพื่อตรวจสอบว่า เงินจำนวน 71 ล้านบาทที่ทนายษิทราได้มา ซึ่งแน่ชัดว่าไม่ใช่เงินที่ได้มาจากการให้โดยเสน่หานั้น ได้ดำเนินการเสียภาษีเงินได้หรือไม่ รวมทั้งให้ตรวจสอบเงินค่าจ้างทนายตั้มเดือนละ 300,000 บาท รวม 12 เดือนเป็นเงิน 3.6 ล้านบาท ว่าเงินก้อนนี้มีการเสียภาษีหรือไม่รวมทั้งตรวจสอบเส้นทางการเงินของพี่สาวทนายตั้มด้วย



ด้านนายสุชาติ กล่าวว่า หลังจากนี้จะส่งเรื่องให้ประธานกรรมการมรรยาททนายความดำเนินการตรวจสอบ ก่อนจะมอบหมายให้รองประธานมรรยาททนายความพิจารณาว่าจะรับคำกล่าวหาหรือไม่ ถ้ารับคำร้อง ก็จะเข้าสู่กระบวนการตั้งกรรมการสอบสวน แต่ก่อนตั้งกรรมการสอบสวน จะต้องแจ้งให้ผู้ถูกกล่าวหาได้ทราบเพื่อแก้ต่างคำกล่าวหา ก็จะทำให้การพิจารณาคดีมารยาททนายความรวดเร็วขึ้น คาดว่าจะใช้ระยะเวลา 1 ปี หรือ 1 ปีครึ่ง



ส่วนความคืบหน้าคดี วันนี้ ตำรวจเชิญนางสาว จตุพร อุบลเลิศ มาให้ปากคำเพิ่มเติม ก่อนที่ผู้เสียหายจะเดินทางกลับต่างประเทศ ส่วนเรื่องพินัยกรรมที่นาย ปานเทพ ออกมาเปิดเผยก่อนหน้านี้ จากการสอบปากคำนางจตุพร ยังไม่มีความผิดอะไรที่ปรากฏขึ้น และการติด GPS บนรถเบนซ์ของมาดามอ้อย ก็เป็นระบบ GPS ที่มีในรถอยู่แล้ว ใครเป็นคนซื้อรถก็จะได้ ID ในการ Login ซึ่งเบื้องต้นในเรื่องนี้ตำรวจกำลังตรวจสอบเพิ่มเติมอยู่



พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ตอนนี้ตำรวจกำลังรวบรวมพยานหลักฐานให้ครบถ้วน และจะพิจารณาอีกทีว่าใครมีส่วนร่วมในการกระทำความผิดหรือไม่ ข้อหาที่แจ้งกับทนายตั้มไปก่อนหน้านี้ ตำรวจพยายามสรุปสำนวนให้เสร็จภายในการฝากขังผัดที่ 3 และส่งอัยการในการฝากขังผัด 4

คุณอาจสนใจ

Related News