หลายฝ่ายวิจารณ์ยับ คำสั่งเด้ง 9 ตร. รีดทรัพย์ชาวจีน ลั่นควรให้ออกจากราชการไว้ก่อน

จากคำสั่งของต้นสังกัดตำรวจ 9 คนที่ถูกออกหมายจับข้อหากรรโชกทรัพย์ชาวจีน 300 ล้านบาท และได้มีคำสั่งให้ย้ายออกจากต้นสังกัดเดิม ทำให้ถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่า สมควรมีคำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน



จากคำสั่งของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ สั่งกำชับให้ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ดำเนินการเร่งรัดสั่งต้นสังกัดดำเนินการทั้งวินัย อาญา อย่างเด็ดขาดโดยให้สืบสวนขยายผลผู้มีส่วนในการกระทำผิดต้องดำเนินการอย่างเด็ดขาด แล้วรายงานผลให้ทราบโดยเร็ว



โดย 3 คน สังกัด ตำรวจ กองบังคับการสอบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ(สอท.) 1 ซึ่ง พล.ต.ต.จิระวัฒน์ พยุงธรรม รักษาถ้าราชการแทนผู้บัญชาการ สอท. ได้ลงนามให้ข้าราชการตำรวจไปช่วยราชการใจความว่ามีคำสั่งที่ 96/2567 ลงวันที่ 18 ต.ค. เรื่องแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงให้ ร.ต.อ.ธนกฤต กาญจนมาศ รอง สารวัตร กองกำกับการ1 บก.สอท.1 ด.ต.สุพรรณ ของใส จ.ส.ต.กิตติภูมิ จีนแปลงชาติ ผบ.หมู่ กก.1บก.สอท.1 มาช่วยราชการที่ ศูนย์ปฎิบัติการกองบัญชาการ.สอท.โดยให้ขาดจากตำแหน่งเดิม



และมอบให้ พ.ต.อ.ทำนุรัฐ คงมั่น รอง ผู้บังคับการสอท.1 เป็นประธานกรรมการสอบสวนให้แล้วเสร็จใน 30 วัน รวมทั้งตำรวจอีก 6 คนก็ถูกต้นสังกัดตั้งคณะกรรมการสอบทางวินัยเช่นกัน



โดยมีรายงานว่า มี 1 คน ที่ได้รับการประสานงานให้ซื้ออาหารไปส่ง ระหว่างมีการตรวจค้น ที่บ้านของนายไซ สัญชาติวานูอาตู แค่ตำรวจรายดังกล่าวไม่ได้ร่วมตรวจค้น เพียงแต่นำอาหารไปส่งและกลับออกมาเท่านั้น จึงไม่เข้าข่ายร่วมกรรโชกทรัพย์



โดยหลังจากเข้ามอบตัวเป็นตำรวจ 9 คน และพลเรือน 3 คน ทั้งหมดให้การปฏิเสธ และได้ประกันตัวชั่วคราวกับพนักงานสอบสวน สน.ทุ่งสองห้อง



โดยในชั้นสอบสวน คดีดังกล่าวนี้ อยู่ในอำนาจของ ป.ป.ช. คณะพนักงานสอบสวนจะรวบรวมพยานหลักฐานส่งสำนวนการสอบสวนให้ ป.ป.ช. ภายใน 30 วัน ขณะที่เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากประชาชนว่า เคยเกิดคดีเจ้าหน้าที่ ไปรีดทรัพย์แก๊งจีนเทา ที่หนีคดีเข้ามาฟอกเงินในประเทศไทยหลายครั้ง กลายเป็นช่องทางหากินให้กับเจ้าหน้าที่บางกลุ่ม ที่มีพฤติกรรมรีดไถ จึงสมควรให้เจ้าหน้าที่กลุ่มนี้ออกจากราชการไว้ก่อน เพื่อเป็นมาตรฐานไม่ให้มีการกระทำผิดซ้ำ