'ทนายบอสพอล' แจ้งความ 3 นักร้องเรียนชื่อดัง ปมเรียกรับเงิน-หมิ่นฯ-ให้การเท็จ

ทนายความของบอสพอล เข้าแจ้งความดำเนินคดี 3 นักร้องเรียนชื่อดังในข้อหาต่างกันทั้งเรียกรับ หมิ่นประมาท และให้การเท็จ และเตรียมนำพยานฝ่ายของบริษัทดิไอคอน ประมาณ 20 คนเข้าไปให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษด้วย ทางด้านดีเอสไอ ที่ก่อนหน้านี้ถูกกล่าวหามีเทวดาในคดีนี้ด้วย ก็ออกหนังสือชี้แจง พร้อมตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องนี้แล้วเช่นกัน

ทนายวิฑูรย์ เก่งงาน ทนายความของบอสพอล และดิ ไอคอนกรุ๊ป เดินทางมาที่ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อแจ้งความเอาผิด 3 นักร้องเรียน ประกอบด้วย นางสาวกฤษอนงค์ สุวรรณวงศ์ ประธานศูนย์ประสานงานส่งเสริมเครือข่ายออนไลน์



ซึ่งนายวิฑูรย์บอกว่าได้มอบหลักฐานตำรวจไปหมดแล้ว วันนี้มาให้ปากคำให้เสร็จ เป็นการให้ปากคำเพิ่มเติมว่าไฟล์เสียงแต่ละไฟล์พูดถึงอะไร เข้าข้อกฎหมายอย่างไร เพื่อที่พนักงานสอบสวนจะได้ไปดำเนินการสอบพยานในเรือนจำต่อ



ส่วนนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด ฐานพาพยานเท็จเข้าให้ข้อมูลตำรวจ และออกมาให้สัมภาษณ์สื่อมีทีมทนายความอีกชุดดูแล เบื้องต้นจะแจ้งข้อหาหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ย้ำว่าพยานคนดังกล่าว ไม่ได้รู้จักหรือเกี่ยวข้องกับบริษัทมาก่อนเลย ตนได้สอบถามทางบอสพอลและกลุ่มแม่ทีมแล้ว



ส่วนเรื่องเงิน 9 ล้าน ที่นายอัจฉริยะ บอกว่ามีคนอ้างเป็นตำรวจกองบังคับการปราบปราม ไปเรียกรับจากโค้ชแล็ป ในวันก่อนที่จะถูกจับกุมนั้น ตนได้ถามโค้ชแล็ปแล้ว ยืนยันว่าไม่มีการมาเรียกรับเงินใดๆ เพื่อให้แลกกับการไม่ถูกจับกุม ซึ่งตนเองยังไม่สามารถติดต่อภรรยาของโค้ชแล็ปเพื่อสอบถามได้ แต่ได้ถามผ่านญาติที่ติดต่อกับภรรยาได้แล้วก็ยืนยันว่า ภรรยาบอกว่าไม่มี ซึ่งการที่นายอัจฉริยะไปพูดแบบนั้น ก็ทำให้กองบังคับการปราบปรามเสียหาย แต่ก็ไม่ใช่เรื่องของตน ให้เขาไปจัดการกัน



นอกจากนี้นายวิฑูรย์ บอกว่า กรณีที่ดีเอสไอรับคดีนี้เป็นคดีพิเศษ ทางกลุ่มทนายความ ได้เตรียมพยานกว่า 2,000 คน เพื่อไปให้ปากคำกับดีเอสไอด้วย เพราะฝั่งของผู้เสียหายที่มาแจ้งความยังมีการสอบปากคำไปกว่า 9,000 คน ดังนั้นจะสอบปากคำเพียงฝั่งเดียวก็ไม่ถูกต้อง ต้องสอบในมุมของฝั่งบริษัท ดิ ไอคอน กรุ๊ปด้วย



โดยจะนำพยานฝั่ง The Icon Group จำนวน 20 ปาก ให้ข้อมูลกับทางเจ้าหน้าที่ DSI ก่อน



ขณะที่ DSI ออกหนังสือชี้แจงเรื่องคลิปเสียงเทวดาใน DSI ระบุว่า เรื่องนี้พันตำรวจตรี ยุทธนา แพรดำ รักษาราชการแทนอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษไม่ได้นิ่งนอนใจ มีคำสั่งตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงฯ กรณีดังกล่าวแล้วตั้งแต่วันที่ 17 ตุลาคมที่ผ่านมา



ขณะนี้มีความคืบหน้าไปมาก ได้สอบปากคำนายเอกภพ และพยานที่นายเอกภพนำมา และนายวรัตน์พล หรือบอสพอลแล้ว ประกอบกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางซึ่งเป็นหน่วยงานภายนอก ก็ได้สอบสวนกรณีดังกล่าวด้วย หากพบว่ามีมูลตามที่ร้องเรียนจะดำเนินการตามกฎหมาย และตามระเบียบอย่างแน่นอน แต่หากไม่มีมูลความจริง คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงจะมีความเห็นเสนออธิบดี DSI ให้ดำเนินการทางกฎหมายกับผู้ให้ข่าวอย่างแน่นอน