DSI รับ 'ดิไอคอน' เป็นคดีพิเศษ แม้ยังไม่ฟันเป็นแชร์ลูกโซ่ ด้าน 'บิ๊กต่าย' ยันผสห.ถอนแจ้งความไม่ได้

คืบหน้าคดีดิไอคอน หลังจากเมื่อวานนี้ คณะกรรมการกลั่นกรองของ"ดีเอสไอ" ร่วมกันพิจารณาเเละมีมติเอกฉันท์ ล่าสุด รักษาราชการแทนอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ออกมาแถลงรับคดี"ดิไคอน"เป็นคดีพิเศษแล้ว ขณะที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้คำมั่นว่า ตำรวจพร้อมช่วยสนับสนุน"ดีเอสไอ"เดินหน้าทำคดีต่อ ส่วนกรณีทนายความผู้ต้องหา จะพาผู้เสียหายมาถอนแจ้งความ-ไม่ดำเนินคดีกับดิไอคอนนั้น ยืนยันว่าทำไม่ได้ เพราะเป็นคดีอาญา ตำรวจต้องดำเนินคดีต่อ



พันตำรวจตรียุทธนา แพรดำ รักษาราชการแทนอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ พร้อมด้วย พันตำรวจตรีวรณัน ศรีล้ำ ผู้อำนวยการกองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ หรือ กองคดีแชร์ลูกโซ่ ร่วมกันแถลงความคืบหน้า ซึ่งก่อนหน้านี้ ดีเอสไอได้ประชุมร่วมตำรวจกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พิจารณากลั่นกรองว่าจจะดำเนินการรับคดีดิไอคอน เป็นคดีพิเศษหรือไม่



โดยพันตำรวจตรียุทธนา เปิดเผยว่า ขณะนี้มีคำสั่งอนุมัติรับคดีดิไอคอน เป็นคดีพิเศษเรียบร้อยเเล้ว ตามมาตรา 21 ของ พ.ร.บ.การสอบสวนคดีพิเศษ โดยเป็นการรับคดีในส่วนของข้อหา "ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ" ซึ่งมีความเกี่ยวเนื่องกับคดีฟอกเงิน ที่ดีเอสไอรับมาดำเนินการก่อนหน้านี้



ส่วนคดีจะเข้าข่าย พ.ร.ก. การกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน หรือ แชร์ลูกโซ่ และต้องแยกเป็นอีกคดีหรือไม่นั้น พ.ต.ต.ยุทธนา ระบุว่า อยู่ระหว่างรอความเห็นจากสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ที่จะให้ความเห็นการคำนวณผลประโยชน์ตอบแทน รวมถึงวงจรธุรกิจของบริษัทดิไอคอนกรุ๊ป



ส่วนประเด็นที่ พันตำรวจเอกทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม อยากให้นายกรัฐมนตรีตั้งพนักงานสอบสวนเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดเดิมนั้น พันตำรวจตรียุทธนา บอกว่า มีความเป็นไปได้ที่จะให้ตำรวจสอบสวนกลางเข้ามาร่วมสอบสวนด้วย เพราะเป็นผู้ที่รู้รายละเอียดของคดีมาตั้งแต่ต้น



สำหรับความคืบหน้าการแจ้งข้อกล่าวหาการฟอกเงิน ขณะนี้พบเส้นทางการเงินที่ชัดเจน และคาดว่าจะสามารถเอาผิดกับกลุ่มผู้ต้องหาได้ ซึ่งในสัปดาห์หน้า จะมีการวางกรอบเพื่อกำหนดทิศทางการทำงานอีกครั้ง



ด้าน พลตำรวจเอกกิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ บอกว่า หากดีเอสไอต้องการให้ตำรวจเข้าไปช่วยเหลือก็สามารถร้องขอมาได้ ตำรวจยินดีเข้าไปช่วยสนับสนุน หรือแม้แต่การตั้งศูนย์รับแจ้งความทั่วประเทศเพื่อสอบปากคำผู้เสียหาย ก็พร้อมดำเนินการต่อ



ส่วนที่มีข่าวว่าทนายความของผู้ต้องหา จะพาผู้เสียหายมาถอนแจ้งความนั้น-ไม่สามารถทำได้ เพราะเป็นคดีอาญาต้องดำเนินการต่อ