ปปป.ร่วม ป.ป.ท. แถลงจับ 2 คดี จนท.รัฐทุจริต ออกโฉนดมิชอบ-เรียกเงินแลกใบอนุญาต

ตำรวจ ปปป. ร่วมกับ สำนักงาน ป.ป.ท. ร่วมกันแถลงผลการจับกุมเจ้าหน้าที่รัฐ กระทำการทุจริต 2 คดี โดยผู้ต้องหาคนแรกเป็น อดีตผอ.ศูนย์เดินสำรวจออกโฉนดที่ดิน ถูกกล่าวหาว่า เกี่ยวพันกับการนำที่ดินสาธารณประโยชน์จำนวนหลายพันไร่ มาออกโฉนดที่ดินโดยมิชอบให้กับกลุ่มนายทุน และผู้ประกอบการในพื้นที่หลายอำเภอ ของจังหวัดนครราชสีมา ส่วนอีกคดีเป็น ผอ.กองช่าง ที่นนทบุรี มีพฤติกรรมเรียกรับเงินแลกกับใบอนุญาตก่อสร้าง



พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง นำแถลงปฏิบัติการ"ตำรวจกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ" สนธิกำลังกับ "สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ" เข้าจับกุม นายอรุณ อดีตผู้อำนวยการศูนย์เดินสำรวจออกโฉนดที่ดิน ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ที่ 84/66 ลงวันที่ 11 ก.ค. 2566 ในข้อหา เจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ โดยจับได้ที่หน้าบ้านพัก ในตำบลท่าอ่าง อำเภอโชคชัย จังหวัดนครราชสีมา



นายกฤศกร สนิทศักดิ์ดี ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ เขต 1 เปิดเผยว่า พฤติการณ์ผู้ต้องหาพบว่าเกี่ยวพันกับการนำที่ดิน สาธารณประโยชน์มาออกโฉนดที่ดินโดยมิชอบ ให้กับกลุ่มนายทุน-ผู้ประกอบการจำนวนมาก ในหลายอำเภอทั่วจังหวัดนครราชสีมา สร้างความเสียหายจำนวนหลายพันไร่ ก่อนหน้านี้ผู้ต้องหาหลบหนีการจับกุมมาตลอด และเหลืออายุความอีกเพียง 2 เดือนเท่านั้น นอกจากผู้ต้องหาคนนี้แล้ว ยังพบว่ามีผู้ร่วมขบวนการอีก 4 คน แต่เสียชีวิตไป 1 คน จึงเหลืออีกเพียง 3 คน มีทั้งตำแหน่งเจ้าหน้าที่รังวัด / ผู้กำกับการรังวัด เเละผู้กำกับการเดินสำรวจออกโฉนดที่ดิน ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างติดตามตัวมาดำเนินคดี



สำหรับพื้นที่สำคัญที่พบว่าอดีตผู้อำนวยการฯคนนี้ ออกเอกสารสิทธิ์โดยมิชอบ ส่วนใหญ่อยู่พื้นที่อำเภอปักธงชัย สูงเนิน และปากช่อง จุดแรกพบ มีการออกเอกสารสิทธิ์ให้กับที่ดิน ส.ป.ก. เอื้อประโยชน์ให้รีสอร์ทชื่อดัง กว่า 2,000 ไร่ บริเวณเขาใหญ่ ฝั่งอำเภอปากช่อง ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยว และสถานที่พักตากอากาศ แลนด์มาร์กสำคัญ รวมมูลค่าหลายร้อยล้านบาท ปัจจุบันพบมีนักธุรกิจระดับประเทศ และนักแสดง ซื้อบ้านพักตากอากาศในโครงการจำนวนมาก



เบื้องต้น ป.ป.ท. ได้แจ้งให้เพิกถอนโฉนดที่ดินตั้งแต่ปี 2564 แล้ว แต่จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่ดำเนินการ และยังทยอยขายบ้านในโครงการอย่างต่อเนื่อง หลังจากนี้หากพบว่ากรมที่ดินยังไม่ดำเนินการเพิกถอนโฉนด ทาง ป.ป.ท.จะพิจารณาตั้งเรื่องเพื่อให้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. เอาผิดผู้เกี่ยวข้องในมาตรา 157 ต่อไป



อีกจุดพบมีการนำที่ดิน สค.1 เลขที่ 79,32 หมู่ที่ 8 ต.ตะคุ อ.ปักธงชัย ไปออกโฉนดที่ดิน โดยวิธีเดินสำรวจ ทับที่สาธารณประโยชน์โคกหนองกรุงหนองแก้ว ในพื้นที่หมู่ 6 ต.หนองตะไก้ อ.สูงเนิน ซึ่งกรณีนี้พบว่ามีการออกโฉนดที่ดินข้ามเขตอำเภอ รวมถึงออกในที่ นสล.จากการสอบสวนเบื้องต้น ผู้ต้องหาคนนี้ยังให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา



ด้านพลตำรวจตรีจรูญเกียรติ เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบพบข้อมูลมีเจ้าหน้าที่หลายคนมีส่วนเกี่ยวข้อง ซึ่งขณะนี้ยังปฏิบัติหน้าที่อยู่ เเละบางรายก็ยังมีพฤติกรรมเรียกรับผลประโยชน์ ซึ่งส่วนนี้ ทางบก.ปปป.จะรวบรวมรายชื่อ ส่งให้กับกระทรวงมหาดไทย รวมถึงกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อให้ดำเนินการกับบุคคลเหล่านี้



ส่วนกรณีที่ดินของรีสอร์ทชื่อดังที่ยังไม่มีการเพิกถอน แม้จะส่งเรื่องให้แล้ว แต่หลังจากนี้จะส่งสำเนาให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องอีกครั้ง แต่หากยังเพิกเฉยก็ต้องบังคับใช้กฎหมายต่อไป ยืนยันไม่กังวลแม้ที่ดินดังกล่าวจะเกี่ยวข้องกับกลุ่มนายทุนใหญ่ หรือผู้มีอิทธิพล หากมีพยานหลักฐานเชื่อมโยงไปถึงใคร ก็จะดำเนินคดีกับทุกคน



อีกคดีเป็นการจับกุม นายชยุต อายุ 48 ปี ตำเเหน่ง ผอ.กองช่างเทศบาลเมืองใหม่ บางบัวทอง จ.นนทบุรี ถูกกล่าวหาเรียกรับเงินค่าออกใบอนุญาตก่อสร้าง



โดยเจ้าหน้าที่ได้ร่วมกันวางแผนจับกุม หลังมีผู้เสียหายรายหนึ่ง เข้ายื่นคำร้องขอใบอนุญาตก่อสร้างอาคารสำนักงาน เทศบาลเมืองใหม่บางบัวทอง และถูกนายชยุต เรียกรับเงินจำนวน 180,000 บาท เพื่อออกใบอนุญาต โดยอ้างว่าเป็นค่าอำนวยความสะดวก และจะอ้างเหตุผลความยุ่งยากต่าง ๆ



ทางผู้เสียหายได้ต่อรองทำให้นายชยุต ลดให้เหลือ 120,000 บาท แต่ผู้เสียหายไม่ได้เตรียมเงินมาจึงกลับบ้านไปก่อน และนำเรื่องนี้ไปปรึกษากับคนรู้จัก จนทราบว่าค่าใช้จ่ายในการขอใบอนุญาต มีค่าดำเนินการประมาณ 4,000 บาทเท่านั้น จึงไปแจ้งเรื่องกับ ป.ป.ช. รวบรวมหลักฐานและขอศาลออกหมายจับ ตามมาตรา 149,157,173 และ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ม.172