สังคม

ศาลไม่ให้ประกันตัว 'โอภาส' กรรมการบริษัทวินโพรเสส จ.ระยอง พร้อมถูก 4 พื้นที่แจ้งข้อหา

โดย parichat_p

2 มิ.ย. 2567

103 views

จังหวัดระยองไม่อนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว นายโอภาส บุญจันทร์ กรรมการบริษัทวินโพรเสส จังหวัดระยอง ที่เพิ่งเกิดเพลิงไหม้ไปเมื่อวันที่ 22 เมษายนที่ผ่านมา หลังถูกศาลอนุมัติ หมายจับในความผิดเกี่ยวกับการทิ้งกากสารเคมีลงแหล่งน้ำสาธารณะ และหลังจากถูกยกคำร้องขอประกันตัวชั่วคราว นายโอภาส ถูกควบคุมตัวเข้าเรือนจำจังหวัดระยองทันที


พนักงานสอบสวนภูธรบ้านค่าย ยื่นคำร้องขอฝากยังนายโอภาส ต่อศาลจังหวัดระยองเมื่อเช้านี้ และคัดค้านการประกันตัว ด้วยเหตุผลว่ามีคดีเกิดขึ้นหลายพื้นที่ต่างกัน และมี หลายจุดที่เจ้าหน้าที่ยังต้องเข้าตรวจค้นหาพยานหลักฐานมาประกอบความเชื่อมโยงการกระทำผิด และตามที่กล่าวหาว่านายโอภาสเกี่ยวข้องสั่งการ หากได้รับการประกันตัวอาจ ไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน ศาลพิจารณาคำร้องคัดค้านดังกล่าวแล้ว จึงมีคำสั่งยกขอคำประกันตัวของนายโอภาส และอนุญาตตามคำขอฝากขังผัดแรก เป็นเวลา 12 วัน พร้อมส่งตัวเข้าเรือนจำจังหวัดระยองทันที


มีรายงานว่าทั้งการร้องขอหมายจับต่อศาล และการคัดค้านการประกันตัว พนักงานสอบสวนได้แถลงด้วยวาจาโดยแสดงให้ศาลเห็นถึงทิศทางการไหลของน้ำปนเปื้อนสารเคมี จากบ่อกักเก็บน้ำของโรงงานวิน โพรเสส อยู่ทิศเหนือและภูมิประเทศเป็นที่สูงกว่าพื้นที่ชุมชน น้ำปนเปื้อนที่รั่วไหลออกจากบ่อน้ำของโรงงาน จึงไหลผ่านที่ดินนายเทียบ สมานมิตร และปนเปื้อนที่ดินของชาวบ้านคนอื่นๆ ก่อนจะไหลไปตามท่อระบายน้ำ ผ่านหน้าโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพประจำตำบลบางบุตร และโรงเรียนหนองพะวา ก่อนจะไหลลงหนองน้ำ หนองพะวา ทำให้น้ำในหนองพะวา ที่เป็นหนองน้ำสาธารณะของชาวบ้านไม่สามารถใช้ประโยชน์ได้


จนถึงขณะนี้นายโอภาสถูกแจ้งข้อกล่าวหาแล้ว 4 ท้องที่ คือ


1. ที่ตำรวจภูธรมาบตาพุด จ.ระยอง ถูกแจ้งข้อกล่าวหาครอบครองวัตถุอันตรายชนิดที่ 3 โดยไม่ได้รับอนุญาต และฝ่าฝืนคำสั่งเจ้าพนักงาน

2. ที่ตำรวจภูธรภาชี จ.พระนครศรีอยุธยา ถูกแจ้งข้อกล่าวหาปลอมแปลงเอกสารตราประทับ บริษัทเพราะสอน จำกัด

3. ที่ตำรวจภูธรบ้านค่าย จ.ระยอง ถูกแจ้งข้อกล่าวหาอาญา มาตรา 228 และอาญามาตรา 237 กรณีทิ้งสิ่งของมีพิษลงแหล่งน้ำสาธารณะที่เป็นแหล่งสาธารณูปโภค


และล่าสุด พนักงานสอบสวนตำรวจ ปทส. ที่รับผิดชอบคดีโกดังสารเคมี อำเภอภาชี จ.อยุธยา แจ้งข้อกล่าวหานายโอภาส เมื่อค่ำวันวานนี้ ข้อหาร่วมกันครอบครองวัตถุ อันตรายชนิดที่ 3 โดยไม่ได้รับอนุญาต,ดำเนินกิจการเก็บ ขน หรือกำจัดสิ่งปฎิกูลมูลฝอยโดยทำเป็นกิจการ โดยไม่ได้รับอนุญาต, ประกอบกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ โดยไม่ได้รับอนุญาต, ปล่อยน้ำที่ทำให้เกิดพิษแก่น้ำตามธรรมชาติ หรือสารเคมีเป็นพิษลงทางน้ำชลประทาน อาจทำให้เกิดอันตรายต่อเกษตกรรม การบริโภคบริโภค หรือสุขอนามัย.





ในกรณีที่ 4 ที่ตำรวจ ปทส.เป็นเจ้าของคดีนี้ มีผู้ถูกกล่าวหารวม 7 คือ บุคคลและนิติบุคคลของบริษัทเพราะสอนจำกัด /บุคคลและนิติบุคคล บริษัทเอกอุทัย สาขาสมบัณฑิต จ.อยุธยา นายโอภาส บุญจันทร์ และนายจตุวุฒิ ฤทธิ์วงษ์ ที่ศาลอนุมัติหมายจับเพราะไม่ไปรับทราบข้อกล่าวหา หลังจากนี้ตำรวจจะเร่งสรุปสำนวนเพื่อนำผู้ถูกกล่าวหาทั้งหมด ส่งพนักงานอัยการ

คุณอาจสนใจ

Related News