'ชัชชาติ' นำทีมแถลงทำงานครบ 2 ปี เร่งเดินหน้าพัฒนารอบด้านสู่เมืองน่าอยู่

นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นำทีมแถลงข่าวในโอกาสครบรอบการทำงาน 2 ปี นำเสนอการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น เพื่อให้คนเมืองเหนื่อยน้อยลง และมีความสุขกับการใช้ชีวิตมากขึ้น โดยจากนี้ในอีก 2 ปีที่เหลือ จะเร่งเมกะโปรเจกต์ต่างๆ มาเชื่อมกับโครงการเส้นเลือดฝอย เพื่อให้คนกรุงเทพฯ สะดวกสบายยิ่งขึ้น



" 2ปี ทำงานเปลี่ยน ปรับ ยกระดับเมืองให้น่าอยู่" เป็นแนวคิดต่อเนื่องในการเข้าสู่ปีที่ 3 ของทีมผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ หลังอยู่ในวาระมาครบ 2 ปี ซึ่งที่ผ่านมาจากนโยบายจำนวน 226 ข้อที่ตั้งเป้าไว้ในปีที่แล้ว ตอนนี้ลุล่วงไปแล้วกว่าร้อยละ 90



ผู้ว่าฯ ชัชชาติ กล่าวว่า เดิมกรุงเทพฯ เป็นเมืองเที่ยวสนุก แต่ประสิทธิภาพต่ำ ทำให้คนเหนื่อยกับการใช้ชีวิตจากปัญหาอุปสรรคมากมาย ดังนั้นสิ่งที่ได้ทำตลอดช่วง 2 ปีที่ผ่านมา คือการเปลี่ยนแปลงและปรับปรุงปัญหาใน 9 ด้านหลัก



โดยสิ่งแรก คือ การลดขั้นตอนรับแจ้งปัญหา ซึ่งแพลตฟอร์มทราฟฟี่ฟองดูวเข้ามาตอบโจทย์การแก้ปัญหาตามความต้องการประชาชน



ซึ่ง 2 ปีที่ผ่านมา ทราฟฟี่ฟองดูว รับเรื่องร้องเรียน 588,842 เรื่อง แก้ปัญหาเสร็จสิ้นแล้ว 465,291 เรื่อง คิดเป็นร้อยละ 78 เฉลี่ยระยะเวลาดำเนินการรวดเร็วขึ้นจาก 2 เดือนเหลือ 2 วัน



2.เดินหน้าผู้ว่าฯ สัญจร รอบที่ 2 ให้ครบทุกสำนักและเขต การสัญจร 50 เขต 23 หน่วยงานตลอดช่วง 2 ปีที่ผ่านมา รบเรื่องแก้ปัญหา 1,779 รายการ แก้เสร็จ 1,251 รายการ ซึ่งอีก 2 ปีจากนี้ ก็จะกลับมาลงพื้นที่ติดตามปัญหาอีก โดยให้เจ้าหน้าที่ กทม. ยึดหลัก"หันหลังให้ผู้ว่าฯ หันหน้าให้ประชาชน"



3. การสร้างทางเท้ามาตรฐานใหม่ ให้คงทน คุ้มค่า เหมาะกับทุกคน

ล่าสุดปรับปรุงทางเท้าไปแล้วกว่า 785 กม. และ 1,000 กิโลเมตรภายในปี 2568

ควบคู่ไปกับการจัดระเบียบหาบแร่แผงลอย 257 จุด และ จัดระเบียบสายสื่อสาร 627 กม.รวมทั้งไฟส่องสว่าง ที่นำ IOT มาตรวจสอบและควบคุม



4. การแก้ปัญหาน้ำท่วม ด้วยการทำให้น้ำลดไว สัญจรทันใจ เศรษฐกิจไม่ติดขัด

จากจุดน้ำท่วมซ้ำซาก 737 จุดในปี 2565 แก้ไขไปแล้ว 370 จุด เหลืออีก 190 จุด เช่น การปรับปรุงบ่อสูบน้ำ เชื่อมท่อระบายน้ำ รวมไปถึงการลอกท่อ เพื่อรับมือกับหน้าฝนในทุกปี



5. เพิ่มพื้นที่สาธารณะ ให้เมืองมีชีวิต ด้วยการพัฒนาสวนสาธารณะ 58 แห่ง ยึดแนวคิดสวน 15 นาที ให้เกิดขึ้น 100 แห่งในชุมชน ตั้งเป้าครบ 500 แห่ง ใน 4 ปี



6. ปรับใหญ่บริการสุขภาพ ปูพรมตรวจรักษาโรค สร้างพื้นฐานคุณภาพชีวิตที่ดี

ผ่านโครงการตรวจสุขภาพฟรี 1,000,000 คน ได้ทุกคน ไม่จำกัดสิทธิ์ ถึงก.ย.67 ขยายเวลาการให้บริการของศูนย์บริการสาธารณะ จนถึง 2 ทุ่ม และวันวันเสาร์-อาทิตย์ แก้ออฟฟิศซินโดรม ที่ศูนย์สธ.ใกล้บ้าน 8 แห่ง เปิด Pride Clinic คัดกรอง-ปรึกษาฟรี แก่ผู้มีความหลากหลายทางเพศ จากเดิม 6 แห่งเป็น 31 แห่ง



7. สร้างความโปร่งใสด้วยเทคโนโลยี คุ้มค่าเงินภาษี ตรวจสอบเรื่องร้องเรียน 781 เรื่อง พบมีมูลทุจริต 56 เรื่อง,สอบวินัย 44 เรื่อง,ให้ออกจากราชการ 29 ราย ,พิจารณา 12 เรื่อง ,ส่งต่อให้ ป.ป.ช. หรือ ป.ป.ท. 5 เรื่อง



8. บริหารเงินให้มีประสิทธิภาพ ยึดผลประโยชน์ประชาชนเป็นที่ตั้ง ชำระหนี้งานระบบของส่วนต่อขยาย BTS 23,000 ล้านบาท และโอนกรรมสิทธิ์เป็นของ กทม.แล้ว



9. เปลี่ยนแปลงเชิงโครงการ สร้างประสิทธิภาพให้กับเมือง



นายชัชชาติ ระบุว่า ช่วง 2 ปีที่ผ่านมาได้ปรับปรุงโครงสร้างการบริหารของ กทม. มาใช้ระบบออนไลน์มากขึ้นเพื่อความโปร่งใส และ เน้นการกระจายอำนาจสู่พื้นที่ เพื่อการแก้ปัญหาอย่างรวดเร็ว มีประสิทธิภาพมากขึ้น ทำให้คนกรุงเทพเหนื่อยน้อยลงและมีความสุขกับการใช้ชีวิตมากขึ้น



ส่วน 2 ปี ต่อจากนี้ ผู้ว่าชัชชาติได้เปิดโอกาสให้ทีมรองผู้ว่านำเสนอ โครงการหลักๆ โดย



รองผู้ว่า จักกพันธุ์ ผิวงาม เตรียมแก้ปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม ด้วยการเปลี่ยนรถขยะจากเครื่องยนต์สันดาปมาเป็นรถขยะไฟฟ้า ที่ลดทั้งค่าใช้จ่าย ได้กว่า ร้อยละ 20 และ ลดการปล่อยมลพิษทั้งก๊าซเรือนกระจกและฝุ่น pm2.5 ได้อีกด้วย นอกจากนี้ยังเร่งรัดการก่อสร้างโรงเผา เพื่อลดการฝังกลบและต้นทุนการกำจัดขยะเริ่มใช้ในปี 2569 ซึ่งจะทำให้ กทม.ประหยัดไปได้กว่า 170 ล้านบาทต่อปี



ส่วนรองผู้ว่า วิศณุ ทรัพย์สมพล ที่ดูแลด้านโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ในกทม. ได้เตรียมติดตั้งป้ายรถเมล์ดิจิทัล 500 ป้าย การปรับปรุงศาลารถเมล์ 300 หลัง และการติดตั้งจอดิจิทัล ในศาลาที่พักผู้โดยสารอีก 200 หลัง เพิ่มตัวเลือกการเดินทาง เชื่อมต่อการเดินทางที่หลากหลาย



รศ.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าฯ ก็เปิดแผนยกระดับการบริการด้านสาธารณสุขของคนกรุงเทพฯ ใน 2 ปีหลังนี้ โดยส่งเสริมโรงพยาบาลเดิม 3 แห่ง และเพิ่มโรงพยาบาลใหม่ในสังกัดกทม.อีก 4 แห่ง เพื่อ ขยายเตียง อีก 1,272 เตียง



ส่วนนายศานนท์ หวังสร้างบุญ รองผู้ว่าฯกทม. เตรียมยกระดับกทม.เป็นเมืองแห่งการเรียนรู้ตลอดชีวิต (Lifelong learning) ทุกระดับชั้น และ การฝึกอบรมวิชาชีพในหลากหลายสาขามากขึ้น เช่น การขับรถสามล้อไฟฟ้า และ แม่บ้านการโรงแรม



กทม.ได้ชวนประชาชนเข้าร่วมนิทรรศการ กรุงเทพมหานคร 2567 หรือ BKK EXPO 2024 ในแนวคิดเมืองเปลีย่นได้เพราะคุณ ใน วันที่ 20-23 มิถุนายนนี้ ที่ สวนเบญจกิตติ ซึ่งผู้ว่าชัชชาติยืนยันว่าจะทำให้คนกรุงเทพฯ รับทราบถึงความเปลี่ยนแปลงในพื้นที่กรุงเทพมหานครมากขึ้นกว่าเดิม