อุตุฯ เตือน 51 จังหวัด เตรียมรับมือฝนถล่มจากพายุฤดูร้อน 8-11 เม.ย.นี้

กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศเตือนฉบับ 3 เรื่อง พายุฤดูร้อนบริเวณประเทศไทยตอนบน มีผลกระทบในช่วงวันที่ 8 – 11 เมษายน 2567 โดยมีพายุฝนถล่มใน 51 จังหวัดทั่วประเทศ ซึ่งจะเริ่มมีผลกระทบในจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือเป็นกลุ่มแรก



กรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศเตือนเรื่อง พายุฤดูร้อน บริเวณประเทศไทยตอนบน ฉบับที่ 3 ในช่วงวันที่ 8 - 11 เมษายน 2567 ซึ่งเป็นผลมาจากบริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือและทะเลจีนใต้



ในขณะที่บริเวณประเทศไทยตอนบนจะมีอากาศร้อนถึงร้อนจัด ประกอบกับในช่วงวันที่ 9 - 11 เมษายน 2567 จะมีคลื่นกระแสลมตะวันตกเคลื่อนผ่านประเทศเมียนมาและภาคเหนือตอนบน จึงทำให้ประเทศไทยตอนบนจะมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น



โดยจะมีลักษณะเป็นพายุฝนฟ้าคะนองลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง รวมถึงอาจมีฟ้าผ่าเกิดขึ้นได้บางพื้นที่ ซึ่งเริ่มมีผลกระทบในภาคตะวันออกเฉียงเหนือก่อน ตั้งแต่วันที่ 8 เมษายนนี้ ที่จังหวัดบึงกาฬ สกลนคร นครพนม มุกดาหาร ร้อยเอ็ด ยโสธร บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ อำนาจเจริญ และอุบลราชธานี



ส่วนตั้งแต่วันที่ 9 เมษายนเป็นต้นไป ก็จะได้รับผลกระทบทั่วทุกจังหวัดทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ตามมาด้วยกลุ่มจังหวัดทางภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออกทั้งหมด ก่อนจะเริ่มเบาบางลงจนเหลือพื้นที่ผลกระทบในช่วงวันที่ 11 เมษายน ในจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยาน่าน แพร่ และตาก



จึงขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากพายุฤดูร้อน ที่อาจจะเกิดขึ้น โดยหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ สิงปลูกสร้างและป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรและอันตรายต่อสัตว์ลี้ยงไว้ด้วย



ส่วนสถานการณ์ฝุ่นควันของประเทศไทย GISTDA ได้เปิดเผยข้อมูลจากดาวเทียมซูโอมิ เอ็นพีพี และจากดาวเทียมอีกหลายดวง โดยเมื่อวันที่ 6 เมษายน 2567 ไทยพบจุดความร้อนทั้งประเทศ 1,279 จุด



ส่วนใหญ่พบในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ 526 จุด ตามด้วยพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ 371 จุด พื้นที่เกษตร 232 จุด แหล่งชุมชนและอื่นๆ 73 จุด พื้นที่ สปก. 70 จุด และพื้นที่ริมทางหลวง 7 จุด ซึ่งจังหวัดที่พบจำนวนจุดความร้อนมากที่สุด คือ จังหวัดแม่ฮ่องสอน 252 จุด



ขณะที่ประเทศเพื่อนบ้านพบจุดความร้อนต่อเนื่อง โดยสูงสุดวานนี้ยังคงเป็นเมียนมา 9,630 จุด / ลาว 4,470 จุด / เวียดนาม 546 จุด / กัมพูชา 499 จุด และมาเลเชีย 198 จุด



โดยค่าฝุ่นจากแอปพลิเคชันเช็คฝุ่นวันนี้ยังรายงาน พบ 19 จังหวัดภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีค่าฝุ่นเกินเกณฑ์มาตรฐานในระดับสีแดง ที่มีผลกระทบต่อสุขภาพและระบบทางเดินหายใจ สูงที่สุด คือที่ จังหวัดเชียงใหม่ 179.9 ไมโครกรัม เชียงราย 175.5 ไมโครกรัม และแม่ฮ่องสอน 162.6 ไมโครกรัม ในขณะที่อีก 17 จังหวัดมีค่าเกินมาตรฐานในระดับสีส้ม ที่เริ่มมีผลต่อสุขภาพและระบบทางเดินหายใจ ส่วนใหญ่จะอยู่ในโซนภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ