สังคม

ผลสอบ คกก.ชี้ 'บิ๊กโจ๊ก' ผิดจริง พบหลักฐานเส้นทางการเงินโยงเว็บพนัน

โดย panisa_p

5 เม.ย. 2567

35 views

คดีพลตำรวจเอกสุรเชษฐ หักพาล รอง ผบ.ตร. ถูกกล่าวหาว่า มีส่วนพัวพันเส้นเงินจากเว็บพนันออนไลน์ วันนี้มีความชัดเจนขึ้นมาอีกระดับ จากคณะกรรมการชุดที่นายกรัฐมนตรีแต่งตั้งขึ้น โดยมีการแถลงข่าว ผลการตรวจสอบเบื้องต้น ครั้งแรกที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ระบุว่า ทางคณะกรรมการมีความเห็นไปในทิศทางเดียวกับศาล ซึ่งเชื่อว่าพลตำรวจเอกสุรเชษฐ์มีส่วนร่วมในการกระทำผิดจริง โดยเป็นการฟอกเงิน ที่พบเส้นทางการเงินจากเว็บพนันออนไลน์มายังบัญชีม้าและเชื่อมโยงมายังพลตำรวจเอกสุรเชษฐ์



พลตำรวจเอกวินัย ทองสอง หนึ่งในคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย ได้แถลงความคืบหน้าการตรวจสอบเป็นครั้งแรกในวันนี้ โดยกล่าวว่า ได้เชิญผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งฝ่ายพลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และฝ่ายที่กล่าวหาพลตำรวจเอกต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เข้ามาสอบถามเกือบ 30 ราย เช่น พลตำรวจโทอัคราเดช พิมลศรี ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ, พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง, พลตำรวจตรีนำเกียรติ ธีระโรจนพงษ์, พันตำรวจเอกภาคภูมิ พิศมัย, พันตำรวจเอกดุสิต พรหมสิน ผู้กำกับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรจังหวัดสงขลา และทีมทนายความของพลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ เข้าให้ข้อมูลและให้ส่งเอกสารชี้แจงข้อเท็จจริงภายในวันที่ 20 เมษายนนี้



ทั้งนี้ จากการตรวจสอบเบื้องต้น ทั้งพยานหลักฐานและสอบปากคำพยานบุคคลที่เกี่ยวข้องทั้งหมด เกือบ 30 คน ทางคณะกรรมการมีความเห็นไปในทิศทางเดียวกับศาล ซึ่งเชื่อว่าพลตำรวจเอกสุรเชษฐ์มีส่วนร่วมในการกระทำผิดจริง โดยเป็นการฟอกเงิน ที่พบเส้นทางการเงินจากเว็บพนันออนไลน์มายังบัญชีม้าและเชื่อมโยงมายังพลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ จึงเชื่อว่าพลตำรวจเอกสุรเชษฐ์รู้และได้รับประโยชน์บางส่วนจากการกระทำดังกล่าว แต่ยังต้องตรวจสอบพยานหลักฐานเพิ่มเติมอีก



พลตำรวจเอกวินัย ยืนยันว่า การตรวจสอบของคณะกรรมการนั้นมีผลออกมาก่อนที่ศาลจะออกหมายจับจากพลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ โดยหากข้อมูลฝั่งพลตำรวจเอกสุรเชษฐ์เสร็จสิ้นทั้งหมดแล้วก็จะทยอยส่งให้นายกรัฐมนตรีพิจารณา โดยไม่ต้องรอผลการตรวจสอบข้อเท็จจริง



พลตำรวจเอกวินัย บอกว่า ส่วนของพลตำรวจเอกต่อศักดิ์ เนื่องจากหากไม่ทันกำหนดภายใน 60 วันก็สามารถขยายขยายระยะเวลาต่อไปได้ แต่ยืนยันว่าจะดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 60 วัน โดยให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย



ส่วนที่มองว่าทางการตรวจสอบฝ่ายพลตำรวจเอกสุรเชษฐ์แล้วเสร็จอย่างรวดเร็วนั้น เนื่องจากพนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานมาเป็นเวลานานกว่า 7 เดือน อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการชุดนี้ดำเนินการรวบรวมพยานหลักฐานจากบุคคลที่เกี่ยวข้องเอง ไม่ได้นำข้อมูลจากพนักงานสอบสวนมาอ้างอิง



และในพุธวันที่ 10 เมษายนนี้ จะเชิญนายษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชน เข้าให้ข้อมูลเส้นทางที่เกี่ยวข้องกับพลตำรวจเอกต่อศักดิ์ และเครือข่าย ที่บ้านมนังคศิลา ซึ่งจะต้องสอบถามทนายษิทรา เกี่ยวกับที่มาของเอกสารที่ได้นำไปร้องทุกข์กล่าวโทษพลตำรวจเอกต่อศักดิ์และภรรยาที่สถานีตำรวจนครบาลเตาปูน รวมทั้งที่มาของพยานบุคคล และเส้นทางการเงินอ้างว่ามีความเชื่อมโยง กับพลตำรวจเอกต่อศักดิ์และภรรยาด้วย



นอกจากนี้ พลตำรวจเอกวินัย บอกวา แต่หากภายหลังเกิดกรณีศาลมีคำพิพากษาว่าพลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ไม่ได้กระทำความผิด ซึ่งขัดกับผลการตรวจสอบของคณะกรรมการจะถือเป็นปัญหาหรือไม่นั้น พลตำรวจเอกวินัยกล่าวว่าเป็นเรื่องของอนาคต เพราะแม้ว่าศาลจะชี้ว่าไม่ผิดแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าบุคคลนั้นจะไม่ผิด เป็นเรื่องที่ต้องว่ากันตามพยานหลักฐาน หากอนาคตพลตำรวจเอกสุรเชษฐ์จะฟ้องกลับคณะกรรมการชุดนี้ก็ไม่กังวล และรู้สึกยินดี และกล่าวทิ้งท้ายว่าคณะกรรมการชุดนี้จะพยายามฟื้นความศรัทธาให้กับองค์กรตำรวจด้วยการทำงานอย่างตรงไปตรงมา



อีกด้านหนึ่ง วันนี้ นายษิทรา เดินทางไป สน.เตาปูน พร้อมพยานหลักฐาน ระบุว่าเป็นแผนผังเส้นทางการเงินที่นางพิมพ์วิไล เครือข่ายเว็บพนัน โอนเงินจ่ายค่าสินบนให้กับบัญม้าต่างๆ เกือบ 10 เส้น ซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับหน่วยงานตำรวจหลายหน่วยงานไปมอบให้กับพนักงานสอบสวนโดยมี นางสาวพิมพ์วิไล และพยานบุคคลที่เป็นสายลับเจ้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อให้ปากคำในคดีที่ตัวเองฟ้องร้องเอาผิดพลตำรวจเอกต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ภรรยา และบัญชีม้า รวม 4 คน ด้วย



ส่วนนางสาวพิมพ์วิไล เดินทางไปพร้อมทนายความส่วนตัว เข้าให้การกับพนักงานสอบสวน สน.เตาปูน พร้อม เปิดเผยว่า วันนี้พร้อมให้ข้อมูลกับทางตำรวจทุกอย่าง โดยยืนยันว่าข้อมูลทั้งหมดเป็นข้อมูลจริง และยอมรับว่าตนเองเป็นคนโอนเงินจ่ายหลักล้าน แต่ไม่ขอตอบว่าโอนเงินให้กี่หน่วยของตำรวจบ้าง เชื่อว่าข้อมูล statement หรือ บันทึกรายการเคลื่อนไหวของบัญชีธนาคารจะตอบทั้งหมด

คุณอาจสนใจ

Related News