'ธรรมนัส' เดือด ยันไม่เคยสั่ง 'เจ๋ง' เคลียร์ปมอธิบดีข้าว เตือนสาบานอะไรไว้ระวังเข้าตัว

เตรียมออกหมายจับภรรยาของศรีสุวรรณ หลังมีหลักฐานเชื่อมโยง-เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ส่วนผู้ร่วมขบวนการที่เหลือ จะออกหมายจับได้ไม่เกินวันอังคารหน้า ขณะที่ร้อยเอกธรรมนัส รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ออกมายืนยันว่าไม่เคยสั่งให้ เจ๋ง ดอกจิก เคลียร์เรื่องอธิบดีกรมการข้าว พร้อมกับเตือนว่า "สาบานอะไรระวังเข้าตัว เพราะตำรวจมีหลักฐานหมด"



พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เข้าประชุมความคืบหน้าคดีข่มขู่-รีดทรัพย์อธิบดีกรมการข้าว



คดีนี้นอกจากนายศรีสุวรรณแล้ว ตำรวจยังจับกุม นายยศวริศ ชูกล่อม หรือ เจ๋ง ดอกจิก นางสาวพิมณัฏฐา จิระพุทธิภาคย์ หรือ การ์ตูน อดีตผู้สมัคร สส.รวมไทยสร้างชาติ อีกคนคือ นายเอกลักษณ์ วารีชล หรืออาจารย์เอก ปากน้ำ



พลตำรวจตรีจรูญเกรียติ เปิดเผยว่า จากการพูดคุยนายเอกลักษณ์นอกรอบเมื่อวานนี้ พบว่าให้การที่เป็นประโยชน์ แต่ในชั้นพนักงานสอบสวน นายเอกลักษณ์ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา



แต่ตำรวจก็มีหลักฐานสามารถเอาผิดได้ จากข้อมูลการสืบสวนพบว่า"นายเอกลักษณ์" เป็นคนเก่งมีความสามารถ และเป็นบุคคลที่เข้าไปอยู่ในคณะกรรมการหลายโครงการ บางโครงการเป็นผู้ร่างโครงการเอง และมีคอนเนคชั่นทั้งในรัฐสภาและหน่วยงานอื่น ทำให้รู้ข้อมูลเชิงลึก ก่อนจะนำข้อมูลที่พบเข้าข่ายการทุจริต มาข่มขู่เรียกรับทรัพย์ในภายหลัง



นอกจากกรณีเรียกรับเงินจากอธิบดีกรมการข้าวแล้ว ยังพบว่านายเอกลักษณ์ เกี่ยวข้องกับหน่วยงานอื่นที่ถูกเรียกรับเงินในลักษณะเดียวกัน ซึ่งจะมีความชัดเจนภายในสัปดาห์หน้า เพราะจะมีผู้เสียหายทยอยมาแจ้งความเพิ่ม



สำหรับคดีรีดทรัพย์อธิบดีกรมการข้าว คาดว่าจะออกหมายจับได้อีก 2 ถึง 3 คน ภายในวันอังคารหน้า ส่วนบัญชีม้าอยู่ระหว่างตรวจสอบเส้นทางการเงินในบัญชีระยะยาว เพื่อหาความเชื่อมโยงในกลุ่มผู้เสียหายกลุ่มอื่น ๆ



ส่วนประเด็นภรรยานายศรีสุวรรณ ที่กำลังถูกตั้งคำถามว่า จะเกี่ยวข้องกับคดีรีดเงินอธิบดีกรมการข้าวหรือไม่นั้น พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ บอกว่า จากหลักฐานเบื้องต้น เชื่อว่าภรรยานายศรีสุวรรณ มีส่วนรู้เห็น อาจจะเข้าข่ายเป็นผู้ร่วมกระทำความผิด และอยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐานเพื่อขอออกหมายจับ



ด้านร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวกับผู้สื่อข่าวที่มารอที่กระทรวงเกษตรฯ ในประเด็นที่นายยศวริศ หรือ เจ๋ง ดอกจิก อ้างถึงระหว่างการเเถลงข่าว



ร้อยเอกธรรมนัส เล่าย้อนกลับไปว่าก่อนเกิดเรื่อง ได้เจอกับนายเจ๋งตรงประตูหน้าบันได จึงถามว่ามาทำอะไร นายเจ๋งก็ตอบว่า"มาติดตามเรื่องร้องเรียน" จึงบอกว่า "เรื่องนี้ขอไม่ยุ่ง-ไปคุยกันเอง" พร้อมย้ำว่า"เรื่องนี้ตนเองไม่ได้เสียหาย แต่ต้องดูข้อเท็จจริง และมีเหตุจำเป็นอะไรที่จะต้องใช้คนเเบบนี้ไปเคลียร์"



ส่วนกรณีที่นายเจ๋ง ยกพานเเละกล่าวสาบาน ร้อยเอกธรรมนัส บอกว่า "คนเราหากจะพูดอะไร สิ่งที่พูดกับหลักฐานที่ตำรวจมีมันหนังคนละม้วน ยิ่งพูดยิ่งเข้าตัว



ร้อยเอกธรรมนัส บอกอีกว่า การร้องเรียน หากต้องการรักษาผลประโยชน์ของบ้านเมือง ควรทำให้ถูกที่ถูกทางไม่ใช่ไปเก็บส่วย จึงขอให้ฟังเสียงงเจ้าหน้าที่ผู้บังคับใช้กฎหมาย อย่าไปฟังเสียงคำแก้ตัวของใครบางคน ซึ่งทำเป็นขบวนการ พร้อมตั้งข้อสังเกตว่าคนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องเหล่านี้ มีแบ็คอัพดีหรือไม่ ไม่เช่นนั้นคงไม่กล้าละเมิดกฎหมาย ทั้งที่รู้ว่ามีโทษหนัก



ส่วนตัวรู้ว่าเป็นใคร แต่ขอไม่พูด และในวงการนี้ในฐานะที่ผ่านอะไรมาเยอะ เห็นกันหมดว่าใครทำอะไร ใครที่ทำก็เห็นไส้เห็นพุงกัน จึงเตือนว่าอย่าทำและสิ่งสำคัญอย่ามาทำกับลูกน้องของตน เมื่อถามว่าเคยเตือนนายเจ๋งหรือไม่ ร้อยเอกธรรมนัสระบุว่า ไม่เคยเตือนเพราะไม่ใช่หน้าที่ หน้าที่ของเขาคือดูแลผู้ใต้บังคับบัญชาไม่ให้ทำผิดกฎหมาย เมื่อคนไม่ได้ทำผิดกฎหมายก็ต้องปกป้องเขา อย่าโยนสิ่งที่ทำไปแล้วและถูกดำเนินคดี แล้วไปสาดโคลนใส่คนอื่น เป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง ไม่ว่าจะโทรศัพท์ไปที่ไหน ตำรวจรู้หมดแล้วว่าติดต่อ เเละรายงานถึงใครบ้าง