'เฮียเก้า' เตรียมมอบตัวพรุ่งนี้ คดีตีนไก่เถื่อน

เฮียเก้า นักธุรกิจชาวจีนที่ถูกดีเอสไอ ออกหมายจับหลายฐานความผิด กรณีนำเข้าตีนไก่จากต่างประเทศแล้วสวมสิทธิ์เป็นสินค้าไทยส่งไปจีน ได้ประสานจะเข้ามอบตัววันพรุ่งนี้



ทนายความของนายหลี่ เซิ่ง เจียว หรือเฮียเก้า นักธุรกิจชาวจีนที่ถูกดีเอสไอ ออกหมายจับหลายฐานความผิด กรณีนำเข้าตีนไก่จากต่างประเทศแล้วสวมสิทธิ์เป็นสินค้าไทยส่งไปจีน ได้ประสานจะเข้ามอบตัวกับดีเอสไอในวันพรุ่งนี้ ขณะที่หัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนของดีเอสไอ ยืนยันว่าทันทีที่ผู้ต้องหาเดินทางถึงสนามบิน จะถูกตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจับตัวตามหมายจับทันที และส่งมอบให้ดีเอสไอนำไปดำเนินคดี และจะทำให้ได้ตัวผู้ต้องหา 4 คน จากทั้งหมด 5 คน โดยผู้ต้องหา 1 คน ที่เหลือ ก็คือลูกชายของเฮียเก้าเอง



สำนักงานทนายความแห่งหนึ่ง ส่งหนังสือประสานมายังหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษที่ 127/2566 ว่าพรุ่งนี้จะขอนำนายหลี่ เซิ่ง เจียว หรือเฮียเก้า ซึ่งเป็นผู้ต้องหา 1ใน 5 คน ของดคีลักลอบนำเข้าตีนไก่แล้วสวมสิทธิ์เป็นสินค้าไทย ส่งไปจีน ให้ไปมอบตัวที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ รับทราบข้อกล่าวหา โดยหนังสือประสานจากสำนักงานทนายความระบุว่า เฮียเก้า เดินทางไปประเทศจีน ก่อนที่จะมีหมายจับตามมาในภายหลัง ซึ่งยืนยันได้ว่าไม่ได้หลบหนีหมายจับอย่างแน่นอน



อย่างไรก็ตามนายหลี่ เซิ่ง เจียว ถูกออกหมายจับในคดีนี้เหมือนกับผุ้ต้องหาคนอื่นรวม 5 คน ทำให้เมื่อหลี่ เซิ่ง เจียว หรือเฮียเก้า แสดงตัวที่ตำรวตรวจคนเข้าเมือง ที่สนามบินดอนเมืองวันพรุ่งนี้เขาจะถูกควบคุมตามกฎหมาย จากนั้นตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจะประสานให้ดีเอสไอ ไปรับตัว เหมือนกับผู้ต้องหาคนอื่นๆที่เดินทางกลับจากต่างประเทศก่อนหน้านี้



ในคดีนี้มีผู้ถูกออกหมายจับ 5 คน โดย 5 คนแรก คือนายหลี่ เซิ่ง เจียวหรือเฮียเก้า /นายกรินทร์ ปิยพรไพบูลย์ / ลูกชายเฮียเก้า /นายหยาง ยา ซุง นักธุรกิจชาวจีนไต้หวัน และนางสาวนวพร เชาว์วัย ภรรยายหยาง ยาซุง และคนที่ 5 คือนายสมเกียรติ กอไพบูลย์ อดีตเลขานุการและคณะทำงานของนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน ที่เข้ารับทราบข้อกล่าวหาก่อนหน้านี้



ขณะทั้ง 4 คนเข้ารับทราบข้อกล่าวหาแล้ว เหลือเพียงนายกรินทร์ ปิยพรไพบูลย์ ซึ่งเดินทางไปจีนพร้อมกับบิดา คือเฮียเก้า และจนถึงขณะนี้ยังไม่แสดงตัวว่าจะมอบตัว



ดีเอสไอสืบตรวสอบจากข้อมุลทางทะเบียน และสอบถามจากภรรยาเฮียเก้า ได้ข้อมูลตรงกันว่า นายกรินทร์ คือลูกแท้ๆของเฮียเก้า แต่ในฐานข้อมูลทะเบียนราษฎรณ์ นายกรินทร์ ใช้ชื่อบุคคลอื่นที่อำเภอท่าวังผา จ.น่าน เป็นบิดาและมารดา ของตัวเอง โดยครั้งแรกใช้นามสกุลแซ่จ่าว จากนั้นจึงเปลี่ยนมาเป็นปิยพรไพบูลย์ ซึ่งเป็นนามสกุลของนักการเมืองคนหนึ่ง จากฐานข้อมูลนี้ดีเอสไออยู่ระหว่างขยายผลสืบหาข้อเท็จจริง เพราะสงสัยว่าเป็นการสวมบัตรประชาชนคนอื่นด้วยหรือไม่



หัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนคดีนี้ เปิดเผยว่า ผู้ต้องหาทั้ง 5 คนนี้ เชื่อมโยงกับการนำเข้าตีนแล้วส่งไปจีน ซึ่งเดิมทีเฮียเก้า และบุตรชาย ทำงานด้วยกันกับนายหยาง ยา ซุง และภรรยา ต่อมาเกิดขัดแย้งกันภายใน ทำให้นายหยาง และภรรยา แยกตัวไปเปิดกิจการใหม่ แต่ในกลุ่มธุรกิจเดียวกัน หรือเรียกว่าเป็นคู่แข่งกัน และเมื่อแกะรอยเชิงลึก ก็พบบริษัทเอกชน ที่เชื่อมโยงกับกิจการของเฮียเก้าอีกกว่า 10บริษัท



สำหรับคดีที่เกี่ยวข้องกับการส่งตีนไก่ไประเทศจีน ดีเอสไอ พบเบาะแสว่า ปลายทางจะเชื่อมโยงไปถึงนักการเมืองระดับอดีตรัฐมนตรีคนหนึ่ง ซึ่งคนใกล้ชิดดำเนินการธุรกิจนี้



แต่กรณีนี้จะไม่เกี่ยวข้องกับ กลุ่มที่ทำธุรกิจนำเข้าหมูเถื่อน เนื่องจากกลุ่มที่นำเข้าหมูเถื่อน ก็มีอดีตรัฐมนตรีอีกคนที่เป็นคนละขั้วกับกรณีตีนไก่เถื่อนอยู่เบื้องอยู่แล้ว



และกรณีของอดีตรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องกับการนำเข้าหมูเถื่อน เชื่อมโยงกับบริษัทเอกชน ที่ดีเอสไอ เพิ่งสำนวนส่ง ปปช.เพิ่มอีกเมื่อไม่นานมานี้



และสำหรับนักการเมืองคนที่ 3 ที่จะเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ก็เป็นระดับอดีตรัฐมนตรี ที่ขณะมีการลักลอบนำเข้าสินค้าเถื่อนมานั้น ได้รับผิดชอบหน่วยงานที่กำกับดูแลการอนุญาต ตรวจสอบ และปล่อยผ่านสินค้าที่นำเข้าและส่งออก ข้อมูลดีเอสไอยังพบว่าแม้บุคคลทั้ง 3 ต่างขั้วต่างกลุ่ม แต่กลุ่มคนที่ทำธุรกิจนี หรือเจ้าหน้าที่ซึ่งเดินงานเอกสารให้ มีหลายคนที่เป็นกลุ่มคนเดียวกัน