สังคม

พ่อเด็ก 14 กราบเท้าแม่เหยื่อ - ตร.ขยายผล ผตห.ล็อตแรก คุมตัวเพิ่มอีก 3 ราย

โดย panwilai_c

7 ต.ค. 2566

65 views

ความคืบหน้าคดีกราดยิงในห้างสรรพสินค้า วันนี้ ตำรวจสน.ยานนาวา คุมผู้ต้องหา 3 คน ที่ขายปืนแบลงค์กันและกระสุนให้กับผู้ก่อเหตุ ไปฝากขังศาลอาญากรุงเทพใต้ เเละไม่อนุญาตให้ประกันตัว ส่วนผู้ต้องหาอีก 3 คน ที่ถูกออกหมายจับเพิ่ม ล่าสุด ถูกควบคุมตัวเเล้ว หลังพบเส้นทางการเงินเชื่อมโยงกับผู้ต้องหากลุ่มเเรก ตรวจยึดของกลางทั้งปืนและกระสุนได้จำนวนมาก



ตำรวจ สน.ยานนาวา ควบคุมตัวนายสุวรรณหงษ์, นายอัครวิชญ์ ซึ่งถูกกล่าวหาว่าเป็นคนขายปืนแบลงค์กันให้ผู้ก่อเหตุ อีกคนคือ นายปิยะบุตร ถูกกล่าวหาเป็นคนขายกระสุนปืนขนาด 9 มม. ทั้ง 3 คน ถูกพาไปขออำนาจศาลอาญากรุงเทพใต้ฝากขัง พร้อมกับคัดค้านการประกันตัว



ต่อมา ศาลไม่อนุญาตให้ประกันตัวผู้ต้องหาทั้ง 3 คน เนื่องจากเป็นคดีที่มีอัตราโทษสูง ประกอบกับพนักงานสอบสวนได้คัดค้านการประกันตัว ก่อนส่งให้เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ รับตัวไปคุมขังที่เรือนจำ



มีรายงานว่า ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ โดยเฉพาะในประเด็นที่ไม่รู้ว่าขายปืนแบลงค์กันให้กับเด็กซึ่งมีอายุ 14 ปี แต่ตำรวจมั่นใจในพยานหลักฐาน โดยเฉพาะเส้นทางการเงินที่มาจากการซื้อขาย ซึ่งเชื่อมโยงกับบัญชีของนายสุวรรณหงษ์ ที่ผู้ก่อเหตุโอนเป็นค่าปืนแบลงค์กัน จำนวน 1 หมื่น 6 พันบาท



คดีนี้ตำรวจสอบปากคำพยานไปแล้ว 38 ปาก ส่วนเจ้าหน้าที่ประจำสนามยิงปืน ตามที่มีคลิปภาพปรากฏออกมาก่อนหน้านี้ อยู่ระหว่างประสานมาให้ปากคำ



จากการสืบสวนทราบว่า ในวันเกิดเหตุ ผู้ก่อเหตุได้เตรียมกระสุนไป 50 นัด / ยิงในที่เกิดเหตุ 42 นัด อีก 8 นัดที่เหลือ ตำรวจตรวจยึดได้ตั้งแต่ตอนจับกุม



ส่วนที่สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ มีรายงานว่าครอบครัวของหญิงชาวจีนที่ถูกยิงเสียชีวิต ได้ประสานทางสถานทูตจีนประจำประเทศไทย โดยทางสถานทูตฯ ได้ติดต่อผ่านบริษัทเอเจนซี่เพื่อเข้ามารับศพหญิงชาวจีนแล้ว



ส่วนความคืบหน้าหลังจาก"ศาลอาญากรุงเทพใต้" ได้อนุมัติหมายจับผู้ต้องหาเพิ่มอีก 3 คน คือ นายภัสสรกรณ์, นางสาวสุธิดา และนายวุฒิพงษ์ ในข้อหาร่วมกันจำหน่ายเครื่องกระสุนปืนสำหรับการค้า โดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งตำรวจพบว่าทั้ง 3 คนนี้ มีเส้นทางการเงินเชื่อมโยงกับผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมได้ก่อนหน้านี้ ล่าสุดทั้งหมดถูกจับเเล้ว



คนเเรกคือ นายภัสสรกรณ์ ถูกจับได้ที่บ้านพัก ถนนกาญจนาภิเษก ย่านบางบอน ตรวจยึดของกลางได้ทั้งปืนกล้อกและปืนลูกโม่ พร้อมเครื่องกระสุน 2,765 นัด โทรศัพท์มือถือ 3 เครื่อง / กล่องพัสดุ เเละอุปกรณ์แพ๊คสินค้า



ในเวลาไล่เลี่ยกัน ตำรวจอีกหนึ่งชุด เข้าจับกุมนางสาวสุธิดา ในพื้นที่ อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ โดยนางสาวสุธิดา ยอมรับว่า เมื่อ 6 ปีที่แล้ว ได้เปิดบัญชีธนาคารกรุงไทยไว้สำหรับรับโอนเงินอุดหนุนบุตร เเต่ต่อมา นายธนาวุฒิ ซึ่งเป็นสามี ได้นำบัญชีไปใช้ และพบว่ามีคนโอนเงินเข้ามาที่บัญชีนี้จำนวนมาก



ขณะที่นายวุฒิพงษ์ ซึ่งเป็นผู้ต้องหารายที่สาม ถูกตำรวจจับได้ที่บ้านพัก ในต.บางสะพาน โดยนายวุฒิพงษ์ ให้การรับสารภาพว่า เมื่อประมาณ 2 อาทิตย์ที่แล้ว นายธนาวุฒิได้จ้างให้เปิดบัญชีธนาคารออมสิน โดยได้รับค่าจ้างเปิดบัญชี 1 พันบาท เเละอ้างไม่รู้ว่านายธนาวุฒิ เอาบัญชีไปทำอะไร



กระทั่ง 18.45 น. ตำรวจชุดคลี่คลายคดี คุมตัวทั้ง 3 คน มาส่งให้พนักงานสอบสวน สน.ยานนาวา ในจำนวนนี้มีหนึ่งคน คือนายวุฒิพงษ์ ปฏิเสธไม่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายอาวุธปืน เเต่ยอมรับว่ารับจ้างเปิดบัญชีให้กับนายธนาวุฒิ



รายงานจากชุดสืบสวน พบว่า นายภัสสรกรณ์ หรือนิกกี้ เป็นคนขายกระสุนปืนให้กับนายปิยะบุตร และนายปิยะบุตร เป็นคนขายกระสุนปืนให้ผู้ก่อเหตุ



ส่วนการสอบปากคำนายธนาวุฒิ ที่ถูกให้การซัดทอดว่านำบัญชีของนางสาวสุทธิดาซึ่งเป็นภรรยา และ บัญชีของนายวุฒิพงษ์มาใช้ เบื้องต้นนายธนาวุฒิ ยอมรับว่า อยู่ในกลุ่มไลน์ซื้อขายอาวุธปืน



ส่วนความเคลื่อนไหวที่ "วัดผาสุกมณีจักร" ที่ปากเกร็ด นนทบุรี ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งศพของนางสาวตะวัน ชาวเมียนมา ค่ำที่ผ่านมา พ่อของเด็กชายวัย 14 ปี ได้ก้มลงกราบเท้าของแม่ผู้เสียชีวิต ก่อนจะหยิบซองในกระเป๋าสะพายส่งให้ แต่แม่ผู้เสียชีวิตปฏิเสธที่จะรับ พร้อมกับพูดเป็นภาษาพม่าผ่านล่ามว่า "เงินในซองนี้ ไม่สามารถเทียบค่ากับชีวิตของลูกสาวได้ แต่ก็ไม่ได้โกรธผู้เป็นพ่อ เพราะเข้าใจว่าเสียใจต่างกัน" ก่อนที่แม่ผู้เสียชีวิตจะเอามือลูบที่ศีรษะของพ่อเด็ก

คุณอาจสนใจ

Related News