ผบ.ตร. โอนคดี ‘กำนันนก’ ให้กองปราบฯรับผิดชอบ-ลุ้นพรุ่งนี้ จะออกหมายจับตร. เพิ่มหรือไม่?

คดีที่ตำรวจทางหลวง 2 นาย ถูกมือปืนที่เป็นลูกน้องกำนันในจังหวัดนครปฐมยิงเสียชีวิต 1 นาย บาดเจ็บ 1 นาย โดยมือปืนถูกวิสามัญฆาตกรรม เดิมคดีนี้อยู่ในความรับผิดชอบของตำรวจภูธรภาค 7 โดยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มอบหมายให้พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รับผิดชอบคลี่คลายคดี และเมื่อเช้านี้ก็มีรายงานว่า จะมีตำรวจถูกแจ้งข้อหาตามมาตรา 157 ฐานละเว้นปฎิบัติหน้าที่ เพิ่มอีก แต่การแถลงล่าสุด เย็นวันนี้ กลายเป็นว่า คดีนี้ถูกโยกไปอยู่ในการดูแลของกองบังคับการปราบปราม รวมถึงจะมีตำรวจคนใดถูกแจ้ง ความดำเนินคดีเพิ่มอีกหรือไม่ ก็ให้เป็นดุลพินิจ ของพนักงานสอบสวนกองปราบปราม



เดิมทีรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ นัดแถลงเหตุผลที่จะแจ้งข้อหากล่าวหาตำรวจ ที่ให้การไม่สอดคล้องกับข้อเท็จจริงในภาพวงจรปิด และที่ไม่ได้ทำหน้าที่สกัด ขัดขวางหรือ จับมือหลังก่อเหตุ โดยมีรายงานว่าตำรวจที่จะถูกแจ้งข้อหามี14 นาย แต่กลายเป็นว่าคดีนี้ถูกโอนไปให้กองบัญชาการสอบสวนกลาง โดยกองบังคับการปราบปราม จะรับผิด ชอบด้านคดี และพิจารณาว่าจะมีตำรวจนายใดบ้างถูกแจ้งข้อหาเพิ่ม โดยอ้างอิงจากสำนวนการสืบสวนที่ได้รับจากคณะทำงานก่อนหน้านี้



คดีนี้แยกงานสอบสวนออกเป็น 2 ส่วนหลัก คือคดีฆ่าและพยายามฆ่า กรณีตำรวจทางหลวง 2 นายถูกยิง มีผู้ต้องหา7คน มีนายหน่อง เป็นมือปืน กำนันนก หรือกำนันปวีณ เป็นผู้ใช้ ส่วนอีก 5 คน ถูกกล่าวหาฐานทำลายพยานหลักฐาน ช่วยเหลือผู้กระทำผิด จากนี้สำนวนคดีนี้จะไปอยู่ในการดูแลของกองปราบปราม/เช่นเดียวกับ สำนวนสอบสวน คดีอาญามาตรา 157 ทุจริตต่อหน้าที่ มีตำรวจตกเป็นผู้ต้องหา 6 คน ซึ่งก็จะไปอยู่ในการดูแลของกองปราบปรามด้วยเช่นกัน



ขณะที่รองผู้บังคับการกองปราบปรามเปิดเผยว่า พรุ่งนี้จะได้ข้อสรุปว่าจะมีการแจ้งข้อกล่าวหาตำรวจนายใดเพิ่มอีกหรือไม่ และระบุว่ากรณีผู้กำกับสน.พญาไท ให้การไว้ เป็นประโยชน์ แต่ประเด็นคำให้การ เป็นคนละกรณีกับการช่วยเหลือ



ในสำนวนสืบสวนที่มอบให้กอบปราบปราม ยังพบว่าวันเกิดเหตุ มีตำรวจบางนาย ยกปืนขึ้นเตรียมยิงสู้กับมือปืน แต่จะมีกี่นายที่ทำแบบนั้น และเหตุใดจึงไม่ยิงต่อสู้ ถือเป็นราย ละเอียดในสำนวน/ แต่รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เห็นว่าตำรวจในที่เกิดเหตุต้องระงับเหตุที่เกิดขึ้นซึ่งหน้า รวมถึงควบคุมสถานที่เกิดเหตุนั้นด้วย


พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ ระบุว่าหน้าที่ด้านคดีสิ้นสุดแล้ว เพราะเหลือเพียงการแจ้งข้อกล่าวหาตำรวจเท่านั้น แต่ภารกิจต่อไปคือการสืบสวนเส้นทางการเงิน ธุรกิจที่สุ่มเสี่ยง ผิดกฎหมายและอาจเข้าข่ายฮั้วประมูลของกำนันนก โดยมีหน่วยงานตรวจสอบและปราบปรามการทุจริตอีกหลายหน่วยร่วมทำงาน และประชุมคณะทำงานชุดใหญ่นัดแรกวันอังคารนี้