กทม.น้ำท่วมขังหลายพื้นที่ หลังฝนหนักต่อเนื่อง เร่งผลักดันน้ำลงเจ้าพระยา-คลองสายหลัก

นอกจากที่เขตลาดกระบังแล้ว หลายพื้นที่ของกรุงเทพฯ ก็ได้รับผลกระทบไม่แพ้กัน แต่เกิดจากฝนที่ตกหนัก ต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงบ่าย และตกซ้ำอีกเมื่อช่วงหัวค่ำ จนเกิดน้ำท่วมขังรอระบาย ขณะที่กรุงเทพมหานคร เร่งผลักดันน้ำลงแม่น้ำเจ้าพระยาและคลองสายหลัก 4 สาย โดยตลอดช่วง 10 วันที่ผ่านมา มีระดับน้ำฝนสะสมเกินกว่า 120 มิลลิเมตรแล้ว



ฝนที่ตกหนักในหลายพื้นที่ของกรุงเทพมหานคร ทำให้เกิดน้ำท่วมขังรอระบาย โดยเฉพาะบริเวณมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน ห้าแยกลาดพร้าว ถนนลาดพร้าว รามอินทรา และแยกดินแดง ประชาชนจำนวนมากที่อยู่ในช่วงเวลาเลิกงานต้องลุยน้ำเพื่อกลับบ้าน และ พบกับการจราจรที่ติดขัดทั่วเมือง



ศูนย์ควบคุมระบบป้องกันน้ำท่วมกรุงเทพมหานคร รายงานพบน้ำท่วมขังอย่างน้อย 17 จุด มีระดับน้ำสูงประมาณ 10-20 เซนติเมตร โดยจุดที่น่ากังวลอีกจุดคือ ในซอย รามอินทราฝั่งเลขคี่ ซึ่งอาจจะต้องใช้เวลาระบายน้ำในเส้นทางหลักก่อน เมื่อสายหลักระบายได้ ก็จะเร่งนำเครื่องสูบน้ำไปสูบน้ำในซอยออก



สาเหตุหลักที่เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ กรุงเทพฯ มาจากปริมาณน้ำฝนที่ตกหนักตลอดช่วง 10 วันที่ผ่านมา ทำให้มีปริมาณน้ำฝนเกิน 120 มิลลิเมตร ขณะที่น้ำเหนือ ที่จุดวัดบางไทรมีปริมาณน้ำไหลผ่าน 1,800 ลูกบาศก์เมตร/วินาที แต่ก็ยังไม่น่ากังวล



สำหรับแผนการบริหารจัดการ 4 คลองหลัก ของ กทม. ขณะนี้ คลองลาดพร้าว ได้เร่งระบายน้ำโดยการผันน้ำเข้าอุโมงค์บึงมักกะสันผ่านคลองชวดใหญ่ คลองสามเสน ซึ่งตอนนี้ การระบายน้ำทำได้ดี ระดับน้ำเริ่มลดลง



ที่คลองเปรมประชากรติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำตลอดแนว ตั้งแต่เขตดอนเมืองจนถึงเขตบางซื่อจำนวน 18 เครื่อง และคลองบางเขนอีก 2 เครื่อง



ส่วนคลองแสนแสบ ได้ยกระดับบานประตูระบายน้ำ ตรงคลองบางชัน เพื่อเพิ่มการระบายน้ำนอกเขตคันกั้นน้ำ จากพื้นที่ เขตคลองสามวา มีนบุรี และหนองจอก



ส่วนคลองพระองค์เจ้าไชยยานุชิตน้ำในคลองเต็มแล้ว จึงไม่สามารถสูบน้ำระบายลงคลองได้ การระบายจึงล่าช้า ทำให้เหลือคลองประเวศบุรีรมย์ เพียงคลองเดียวที่นำมาใช้เป็นคลองหลักสำหรับระบายน้ำในเขตลาดกระบัง จึงอาจกระทบพื้นที่ สวนหลวง สะพานสูง ประเวศ และลาดกระบัง ไปทางด้านประตูระบายน้ำพระโขนง โดยมีระยะทางกว่า 40 กิโลเมตร