สังคม
เปิดผลกระทบเหตุระเบิด 17 จุด ชายแดนใต้ ภาคเอกชนร้องรัฐฯเร่งเยียวยา
18 ส.ค. 2565
58 views
หัวหน้าคณะพูดคุยเพื่อสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ ประณามการก่อเหตุรุนแรงพื้นที่เศรษฐกิจ เรียกร้องผู้ก่อเหตุแสดงความรับผิดชอบ แสดงความจริงใจต่อการพูดคุย ขณะที่ภาคเอกชน เรียกร้องภาครัฐเยียวยาฟื้นฟูความเสียหาย ที่กระทบหนักหลังจากผ่านสถานการณ์โควิดมา
พลเอกวัลลภ รักเสนาะ หัวหน้าคณะพูดคุยเพื่อสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ แสดงความเสียใจและให้กำลังใจ นางจุฑารัตน์ ไลวานิช ผู้ประกอบการเจ้าของปั๊มน้ำมันบางจาก อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี ซึ่งได้รับความเสียหายมากที่สุดจากการวางระเบิด เมื่อคืนวันที่ 17 สิงหาคม รวมถึงผู้ประกอบการร้านสะดวกซื้อทั้ง 17 จุดที่เสียหาย
และผู้เสียชีวิต 1 รายในอ.สุไหงโกลก จ.นราธิวาส ซึ่งปฏิเสธไม่ได้ว่าเหตุระเบิดที่รุนแรงครั้งนี้อาจหวังเพื่อดิสเครดิตกระบวนการพูดคุย จึงต้องขอประณามผู้ก่อเหตุที่หวังทำลายเศรษฐกิจ และความเชื่อมั่นของประชาชน จนถึงขณะนี้ยังไม่มีฝ่ายขบวนการใด แสดงตัวว่าเป็นผู้ก่อเหตุ จึงบอกไม่ได้ว่ามีเป้าประสงค์ใด แต่อยากเห็นความจริงใจของ ขบวนการ brn ที่เป็นคู่เจรจาที่สร้างความร่วมมือหยุดยิงแสดงท่าทีว่าเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์นี้หรือไม่ และยังเชื่อมั่นว่าการพูดคุยเป็นทางออกที่ดีที่สุด จึงเดินหน้าต่อไปรวมถึงความตกลงยุติความรุนแรงที่จะหารือกับ brn ในเดือนตุลาคมนี้
พลโทธิรา แดหวา แม่ทัพน้อยที่ 4 ยืนยันว่าที่ผ่านมารัฐไม่ได้ริเริ่มใช้ความรุนแรง แต่เมื่อมีผู้ก่อเหตุต้องบังคับใช้กฏหมาย แต่ครั้งนี้ยอมรับว่าภาครัฐอาจผิดพลาดไปบ้าง เพราะอาจใจดีจากการลดด่านตามความต้องการของประชาชน หลังจากนี้อาจปรับมาตรการให้เหมาะสม และไม่เห็นด้วยหากมีการก่อเหตุเพื่อเรียกร้องความสนใจที่จะเข้าร่วมโต๊ะพูดคุย
สำหรับการติดตามตัวกลุ่มคนร้าย ทางตำรวจกำลังเร่งรวบรวมพยานหลักฐานทั้งจากกล้องวงจรปิด ที่เชื่อว่ามีการแบ่งกำลังก่อเหตุทั้งในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยที่จังหวัดยะลา คาดว่าจะใช้กำลังมากกว่า 20 คน ขณะเดียวกันในส่วความเสียหายที่เกิดขึ้น พลเเรือตรี สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการศอบต. มอบหมายให้ศูนย์ปฏิบัติการเยียวยา ลงพื้นที่สำรวจความเสียหาย ซึ่งในส่วนจังหวัดยะลา มีร้านสะดวกซื้อ 6 จุด คาดว่าจะเสียหายไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท
ทีมเยียวยา ศอบต.ยังลงพื้นที่ป๊มบางจาก ที่เสียหายหนักสุด เพราะมีการใช้ระเบิดแสวงเครื่อง ส่งผลให้อาคารปั๊มน้ำมัน ร้านกาแฟและร้านค้าเสียหาย คาดว่าต้องใช้เวลาในการซ่อมแซมไม่ต่ำกว่า 6 เดือน และส่งผลให้พนักงานไม่ต่ำกว่า 20 คน ต้องได้รับผลกระทบ ซึ่งคนที่อยู่ในเกิดเหตุก็อยังอยู่ในความหวาดกลัว รวมถึงห่วงถถึงอนาคตตามทำาน ที่ยังมีครอบครัวต้องดูแล
ขณะที่ผู้ประกอบการปั๊มบางจาก รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และห่วงพนักงานที่ร่วมต่อสู้จากสถานการณ์โควิดในช่วง 2 ปีที่ผ่านา กลับมาเจอเหตุการณ์นี้ แม้จะไม่รู้ว่าต้องใช้เวลาฟื้นฟูนานแค่ไหน แต่อยากทำให้ได้โดยเร็วเพื่อให้พนักงานได้กลับมาทำงานโดยเร็ว
สำหรับผลกระทบทางเศรษฐกิจทั้งสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ยังไม่สามารถประเมินได้ แต่สภาหอการค้าจังหวัดปัตตานี อยากให้ภาครัฐ ติดตามผลกระทบอย่างใกล้ชิด เพราะแม้การเติบโตของปั๊มน้ำมัน และร้านสะดวกซื้อที่เกิดขึ้นมากกระจายไปเกือบทุกอำเภอ อาจกระทบกับร้านโชว์ห่วย รัฐจึงต้องมีมาตรการให้เหมาะสม รวมถึงมาตรการเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำที่กำลังจะหมดในสิ้นปีนี้ ก็อยากพิจารณาขยายไปอีก 5 ปี
ทีมเยียวยา ศอบต.ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบความเสียหายร้านสะดวกซื้อทุกจุด บางแห่งมีการทำประกันภัยตามโครงการค่าชดเชยส่วนต่างเบี้ยประกันภัยจังหวัดชายแดนภาคใต้ ส่วนที่ไม่มี ทางศอบต.จะเร่งจัดหาแนวทางเยียวยาอย่างเร่งด่วน