สังคม

ถอดบทเรียน #ไฟไหม้สำเพ็ง ‘ชัยวุฒิ’ เตรียมหารือ ‘ชัชชาติ’ เดินหน้านำสายไฟลงดิน

โดย pattraporn_a

27 มิ.ย. 2565

68 views

การไฟฟ้านครหลวง พร้อมรับผิดชอบเหตุเพลิงไหม้อาคารพาณิชย์ย่านสำเพ็ง หากพบมาจากปัญหาหม้อแปลงไฟฟ้า ขณะที่ รัฐมนตรีกระทรวงดีอีเอส เตรียมหารือกับผู้ว่าฯ กทม. เดินหน้านำสายไฟลงดิน


นายธเนศ วีระศิริ นายกวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย พร้อมด้วยสภาวิศวกร ลงพื้นที่ตรวจสอบอาคารพาณิชย์ย่านตลาดสำเพ็ง ที่ถูกเพลิงไหม้ พบว่า อาคารภายในเสียหายเกือบ 100 เปอร์เซนต์ พบห้องที่ 1 และ 2 ซึ่งเป็นร้านจำหน่ายถุงพลาสติก เป็นจุดที่ได้รับความเสียหายมากที่สุด


ขณะที่ นายไทวุฒิ ขันแก้ว ผู้อำนวยการสำนักการโยธา กรุงเทพมหานคร ระบุว่า ตัวโครงสร้างอาคารไม่สามารถใช้งานได้แล้ว ต้องรื้อถอนทิ้ง และยังต้องกำหนดให้พื้นที่จุดเพลิงไหม้เป็นพื้นที่อันตราย ห้ามบุคคลใดเข้าพื้นที่เด็ดขาด ส่วนประชาชนขอให้อยู่ห่างจากอาคารเท่าที่จะทำได้ โดยหลังจากนี้วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย และสภาวิศวกร จะส่งผู้เชี่ยวชาญ ตรวจสอบโดยละเอียดตามหลักวิศวกรรมอีกครั้ง เพื่อส่งความเห็นไปประกอบการพิจารณารื้อถอนอาคารต่อไป


ทางด้าน นายวิลาส เฉลยสัตย์ ผู้ว่าการไฟฟ้านครหลวง แสดงความเสียใจกับผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ โดยพร้อมรับผิดชอบกับผู้ได้รับผลกระทบ หากพบว่าสาเหตุมาจากหม้อแปลงไฟฟ้าจริง โดยจะให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์ทราบข้อเท็จจริง โดยหม้อแปลงไฟฟ้าที่เกิดเหตุ เป็นหม้อแปลงขนาดมาตรฐาน มีอายุประมาณ 20 ปี ยังอยู่ในวงรอบอายุการใช้งาน ซึ่งในทางวิศวกรรมหม้อแปลงลูกนี้ยังไม่ได้ระเบิด แต่อาจจะเกิดชำรุดจนทำให้มีของเหลวร้อนไหลออกมา หากไหลลงมาแล้วไม่มีวัตถุติดลามไฟก็จะไม่มีเพลิงไหม้ แต่หากไปเจอกับเชื้อเพลิงก็ทำให้เกิดเพลิงไหม้ได้ โดยการไฟฟ้านครหลวง จะทำแผนบำรุงรักษาหม้อแปลงอีกกว่า 400 ลูกทั่ว กทม. รวมถึงการนำสายไฟลงดิน ก็ต้องดำเนินการร่วมกับทุกหน่วยาน


ทั้งนี้ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ร่วมกับผู้บริหารกรุงเทพมหานคร ได้ถอดบทเรียนเหตุเพลิงไหม้ 2 ครั้งใหญ่ที่ผ่านมา พบว่า สาเหตุของเพลิงไหม้ที่บ่อนไก่ ต้นเพลิงมาจากไฟฟ้าลัดวงจร ที่ชั้นบนของอาคาร และลุกลามไปยังอีกจุดหนึ่ง ปัญหาคือ บ้านเรือนอยู่ติดกัน และเป็นโครงสร้างไม้ติดไฟง่าย และน้ำประปามีแรงดันน้อย การปฏิบัติงานมีหลายหน่วยงาน ทำให้การบริหารจัดการพื้นที่ทำได้ไม่ดี


ส่วนเหตุเพลิงไหม้สำเพ็ง สาเหตุต้นเพลิงมาจาก หม้อแปลงที่มีควัน สายสื่อสารติดไฟ และตัวอาคารมีเชื้อเพลิง เช่น พลาสติกทำให้ไฟลุกลามเร็ว เบื้องต้นได้ประสานการไฟฟ้านครหลวง สำรวจหม้อแปลงทั้งหมด 400 กว่าลูก โดยเฉพาะจุดเสี่ยงในกรุงเทพชั้นใน สำหรับประชาชนหากมีข้อกังวลให้แจ้งมายังกรุงเทพมหานคร จะได้ดำเนินการตรวจสอบ ส่วนการจัดระเบียบสายสื่อสารจะหารือกับ กสทช.ต่อไป


สำหรับการจัดระเบียบสายสื่อสาร นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือ ดีอีเอส ลงพื้นที่ติดตามโครงการการจัดระเบียบสายสื่อสาร ของบริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด ซึ่งการจัดระเบียบสายไฟ และสายเคเบิล ซึ่งการแก้ไขต้องร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้ง กสทช. การไฟฟ้านครหลวง และบริษัทเอกชนเครือข่ายต่างๆ แต่ยอมรับว่าการนำสายลงดินในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ต้องใช้งบประมาณกว่า 2 หมื่นล้านบาท จึงเตรียมหารือกับผู้ว่าฯ กทม.ด้วย

คุณอาจสนใจ

Related News