ตร.กองปราบ เตรียมบินร่วมทำคดีฆาตกรรมที่ไต้หวัน หลังทีมสังหารเปิดปากโยง “ยาเสพติด”

ตำรวจจับผู้ต้องหาร่วมฆ่าสองสามีภรรยาที่ไต้หวันเพิ่มอีก 1 คน สารภาพได้ค่าจ้างรวม 1 ล้านบาท ตำรวจกองปราบปราม เตรียมบินร่วมทำคดีกับตำรวจไต้หวัน หลังพบเกี่ยวข้องกับขบวนการค้ายาเสพติด

ผู้ต้องหาที่ร่วมกันฆ่าสองสามีภรรยา ที่ไต้หวัน ถูกจับเพิ่มอีก 1 คน หลังหนีไปจังหวัดกาฬสินธุ์สารภาพว่า นายสันติ ผู้ต้องที่ถูกจับได้ก่อนหน้านี้ ได้จ้างเขาและเพื่อนคนละ 5 แสนบาท เพื่อให้ลงมือฆ่า สองสามีภรรยาชาวไทย พร้อมลูกแฝดในครรภ์ ล่าสุด สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เตรียมส่งตำรวจกองปราบปราม เดินทางไปร่วมสืบสวนสอบสวนคดีที่ไต้หวันแล้ว

หลังจากเกิดเหตุฆาตรกรรม สะเทือนขวัญ ที่ไต้หวัน และตำรวจได้ออกหมายจับผู้ต้องหา 3 คน นายสันติ ซึ่งมอบตัว ยอมรับสารภาพหลังตำรวจไต้หวันส่งหลักฐานดีเอ็นเอ และกล้องวงจรปิด มัดตัวนายสันติเป็นผู้ก่อเหตุ กระทั่งนายสันติสารภาพสาเหตุที่ลงมือเพราะลงทุนค้ายาเสพติดร่วมกัน แต่เกิดการเบี้ยวค่ายา

ขณะที่วันนี้ ตำรวจกองปราบปรามได้ควบคุมตัว นายธนวัฒน์ อายุ 42 ปี ได้ที่ อ.หนองกุงศรี จ.กาฬสินธุ์ หลังหลบหนีมาจากไต้หวันในวันที่ 11 มิถุนายน โดยนายสันติประสานเอเจนซี่ซื้อตั๋วเครื่องบินให้ทั้งสอง หลบหนีเข้ามายังไทย หลังเกิดเหตุแล้ว 3 วัน เพราะเห็นเป็นข่าวใหญ่ในไต้หวัน

หลังถูกสอบสวนเบื้องต้น พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ระบุว่า นายธนวัฒน์ หลบหนีไปหลายจังหวัดตั้งแต่บ้านกิดที่สุพรรณบุรี ไปพัทยา และหนีไปกาฬสินธุ์ เนื่องจากได้คุยผ่านโซเชียลกับเพื่อนหญิงคนหนึ่ง ซึ่งอาศัยอยู่ที่กาฬสินธุ์ ส่วนสาเหตุการฆาตกรรมจะเกี่ยวกับทวงหนี้ยาเสพติดหรือไม่ ทาง พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้สั่งการให้เตรียมส่งตำรวจ 6 คน ไปไต้หวันเพื่อหาหลักฐานในสัปดาห์หน้า

จากการสืบสวนทราบว่านายสันติได้ว่าจ้าง นายธนวัฒน์ และนายสามารถ ผู้ต้องหาอีกราย แรงงานไทยในไต้หวันด้วยเงิน 5 แสนบาท ให้ฆ่าสองสามีภรรยา โดยใช้ท่อนเหล็กตีสามี-ภรรยาที่กำลังตั้งครรภ์ จากนั้นได้นำศพขึ้นรถไปทิ้ง และหลบหนีเข้ามาประเทศไทย

จากการสอบสวน นายธนวัฒน์รับว่าร่วมในเหตุการณ์ แต่ไม่ได้เป็นคนลงมือ โดยอ้างว่านายสันติเป็นผู้ลงมือวางแผนก่อเหตุทั้งหมด ให้ผู้เสียชีวิตทั้งสองมาหาที่บ้านพักคนงาน ในคืนวันที่ 8 มิถุนายน ซึ่งนายสันติเป็นพ่อบ้าน และว่าจ้างให้นายธนวัฒน์ และนายสามารถ ที่ใช้แรงงานอยู่ที่ไต้หวันปีครึ่ง ร่วมก่อเหตุ พร้อมสัญญาว่าจะให้ค่าจ้างคนละ 5 แสนบาท แต่ได้ให้เงินไปเพียง 2 หมื่นบาท

ขณะที่พี่ชายของผู้เสียชีวิต บอกว่าพอใจการทำงานของเจ้าหน้าที่ แต่ไม่เชื่อว่าจะเกีย่วข้องกับเรื่องยาเสพติด เพราะน้องสาวทำงานมีรายรับจำนวนมาก จึงไม่มีความจำเป็นต้องทำตามที่ผู้ต้องหาอ้าง

สำหรับ นายสามารถ แซ่หลี่ ผู้ต้องหาที่ยังหลบหนี และเป็นญาติของผู้เสียชีวิต ขณะนี้ตำรวจกำลังติดตามตัว และใกล้จับตัวได้แล้ว